บทสรุป การเสียสละ (The Sacrifice)

เควสนี้จะปลดล็อคก็คือต่อเราทำเควส เปิดฉากละทิ้งความเชื่อ Apostasy Prologue เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าตามไกด์มาจะอยู่ที่ส่วนท้ายของ บทสรุป พันธนาการของ Harrow (Chains of Harrow) (ใครยังไม่ทำก็ตามเข้าไปดูได้) ทีนี้ก็จะปลดล็อคเควส การเสียสละ (The Sacrifice) ให้ทำได้ โดยสามารถเริ่มเควสได้ที่โคเด็กซ์เลย

เควสนี้เนื้อเรื่องเข้มข้นสนุกมาก

หลังจากเริ่มเควสแล้ว ตัวภารกิจให้เราทำการตรวจสอบหมวกเหล็กของ Lotus ที่อยู่ภายในยาน ก็ให้เราเข้าไปกดตรวจสอบ แล้วก็จะได้รับชมฉากเนื้อเรื่อง

ตรวจสอบพลังงาน Sentient (Investigate Sentient Energy)
ภารกิจต่อมาจะให้ลงไปยังจุด Lith ที่ดาวโลก เมื่อไปถึงจุดหมายก็จะเป็นการปกป้องพื้นที่บริเวณหน้าประตูไปเรื่อยๆ จนประตูเปิด พอเข้ามาด้านในได้แล้ว จะเป็นพื้นที่ที่เราได้เห็นในฉากเนื้อเรื่องก่อนหน้านี้นั่นเอง สิ่งที่เราต้องทำก็คือการสแกนหาสิ่งของบริเวณนี้ทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน เมื่อสแกนเสร็จแล้วก็สามารถวิ่งไปที่จุดถอนตัวเพื่อจบภารกิจ

  1. ดาบ Skiajati nikana: อันนี้จะอยู่ด้านหน้ากับตัวต้นไม้ที่อยู่ตรงกลางฉากเลย
  2. ผ้าคลุมไหล่: ห้อยลงมาจากพื้นหินไปทางด้านหลังขวาของสุสาน
  3. หมวก: ทางด้านซ้ายของดาบ nikana ลงไปตามขั้นบันไดใกล้ก้อนหินใหญ่
  4. ซาก: จากทางเข้าพื้นที่ให้ดูที่รอบนอกทางซ้ายของพื้นที่วงกลมบนแผนที่ย่อ ใกล้กับหินสูงที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์

ของทุกอย่างจะอยู่ในบริเวณพื้นที่รอบๆ นี่แหละ หาและสแกนให้ครบ

เมื่อกลับขึ้นมาบนยานแล้วให้ไปที่โต๊ะคราฟ เราจะเห็นว่ามี Excalibur Umbra พร้อมให้เราสร้างได้เลย ก็ให้กดสร้าง แต่เรายังคงไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ ตรงนี้หากเรายังไม่ได้ยินเสียง Ordis พูดขึ้นมาแนะนำให้กดออกจากโต๊ะ กดไปที่แผนที่ดวงดาว จากนั้นให้กดออกจากแผนที่ดวงดาว แล้วให้เราเดินไปที่โต๊ะคราฟ สำรวจ Excalibur Umbra อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เราน่าจะได้ยินเสียงของ Ordis พูดขึ้นมาแล้ว จะทำให้ภารกิจต่อไปปรากฏขึ้นมา

สำหรับที่โต๊ะคราฟ จะเห็นว่ามี Excalibur Umbra อยู่ในรายการ

สำรวจดาวลูอา (Explore Lua)
เมื่อไปที่จุดตามภารกิจบอกเราจะเจอกับเครื่องคอนโซลของ Orokin ซึ่งวิธีการแก้ปริศนาของมัน เราจะต้องตามหาสัญลักษณ์ของ Orokin ให้ครบก่อน 

โดยเราจะต้องเดินย้อนกลับไปที่ห้องก่อนหน้า ที่เป็นโถงใหญ่มีธงประดับอยู่ 2 ข้าง เมื่อมาถึงโถงนี้แล้ว ให้สังเกตุไปที่ฝั่งด้านซ้ายล่างของธง จะมีสัญลักษณ์ของ Orokin ทีนี้้ให้กลับไปที่ห้องที่มีเครื่องคอนโซลของ Orokin แล้วสังเกตุไปที่กำแพงด้านขวา ก็จะพบสัญลักษณ์เพิ่มเติม 

ต้องมองไปบริเวณทางที่วงไว้ด้วย
ส่วนที่เหลือจะอยู่ในห้องที่มีเครื่องคอนโซลนั่นแหละ

เมื่อเจอทั้ง 2 จุดแล้ว ให้กดสำรวจที่เครื่อง Orokin ได้เลย คราวนี้มันจะบอกใบ้สัญลักษณ์ที่เราต้องทำการเรียงสัญลักษณ์ตามที่คำใบ้ปรากฏขึ้นมา หากเรียงถูกมันก็จะแสดงเป็นสีฟ้าให้เราได้เห็น เมื่อเรียงสัญลักษณ์ทั้ง 3 ได้ถูกต้องประตูก็จะเปิดไปสู่ห้องต่อไปได้

ดูคำใบ้แล้วเรียงลำดับให้ถูกต้อง

ทีนี้เมื่อเราเดินไปถึงเครื่องคอนโซล Orokin อันใหม่ จะเห็นว่าคราวนี้เราจะต้องเรียงสัญลักษณ์ให้ครบถึง 5 ตัวด้วยกัน แล้วในภารกิจก็จะเปลี่ยนแปลง เป็นการบอกใบ้จุดที่เราจะสามารถหาสัญลักษณ์ให้พบได้ มาเริ่มจากฝั่งซ้ายก่อนก็แล้วกัน

คราวนี้เจอไปเลย 5 แถว

ฝั่งซ้ายสัญลักษณ์อันแรกจะอยู่ที่ห้องด้านซ้ายสุด เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ให้สำรวจบริเวณด้านหลังกำแพงก็จะพบกับสัญษณ์ Orokin ส่วนอีกหนึ่งอันจะอยู่ที่ห้องด้านในเลย อันนี้จะไม่ยาก แค่เดินเข้ามาตามทางเรื่อยสัญลักษณ์มันจะอยู่ตรงเสาระหว่างหัวมุมของทางแยก

จุดแรกบริเวณหลังกำแพงของห้องซ้ายอันแรก ที่ภารกิจแนะนำให้มา
จุดที่สองห้องด้านในสุด จะอยู่ตรงเสาหัวมุมทางแยกเลย

ส่วนทางฝั่งขวา เริ่มจากห้องด้านในสุดก่อนก็แล้วกัน ให้เดินมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงห้องในสุดก็ให้เดินตรงจนสุดทางเลย ก็จะพบกับสัญลักษณ์ได้ไม่ยากเพราะมันจะอยู่ตรงบริเวณเสาหัวมุมทางแยกเช่นกัน ส่วนอีกอันหนึ่งให้ย้อนกลับไปยังห้องก่อนหน้า ตามที่จุดภารกิจบอกใบ้มา โดยเมื่อเข้ามาในห้องนี้แล้วให้เดินมาด้านใน ทางแยกแรกระหว่างตรงไปกับทางขวา ให้เลือกตรงไป เดินตรงจุดเกือบสุดสังเกตุไปที่เสา ก็จะพบกับสัญลักษณ์ได้ไม่ยากเลย

ห้องด้านในสุด ให้เดินตรงเข้ามาเกือบสุดทาง จะเจอสัญลักษณ์ตรงเสา
อันสุดท้าย ถ้าเดินตรงตามที่บอก ให้มองกำแพงเอาไว้ก็จะเจอได้ไม่ยาก

หลังจากพบสัญลักษณ์ครบทั้ง 4 จุดแล้ว ก็ให้กลับมาที่เครื่องคอนโซล Orokin เวลาที่ปรับสัญลักษณ์ให้เราสังเกตุสัญลักษณ์ที่เหมือนกันด้านบน แสดงว่าอันนั้นคือตัวเดียวกันเลย ซึ่งจะทำให้เรารู้ได้ว่า สัญลักษณ์นี้ควรจะวางต่อกับสัญลักษณ์ตัวใดต่อไป

ดูคำใบ้แล้วจับคู่สัญลักษณ์ จนสุดท้ายก็จะหาลำดับที่ถูกต้องเจอ

หลังจากที่ปรับสัญลักษณ์จนถูกต้องทั้ง 5 อันเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เข้าสู่ห้องด้านในสุด ซึ่งในห้องนี้เราจะต้องมองหาอุปกรณ์ที่อยู่บนพื้น โดยมันจะซ่อนอยู่หลังเสา ปีกฝั่งซ้ายของห้องนี้ แนะนำให้ดูที่ภาพด้านล่าง เมื่อเจอแล้วให้เราเก็บมัน แล้วจะสามารถกลับไปยังจุดถอนตัวเพื่อจบภารกิจ

สำรวจบริเวณซ้ายบนของห้องให้ดีๆ มันจะแอบหลังเสา

เมื่อกลับมาบนยานแล้ว ภารกิจจะให้เราเชื่อมต่อ Vitruvian ก็ให้กดไปยังจุดตามที่ภารกิจบอกได้เลย เสร็จแล้วจะให้เราทำการสร้าง Excalibur Umbra ส่วนผสมทุกอย่าง หาได้ไม่ยากเลย สำหรับใครที่ยังมีคูวาไม่พอก็แนะนำให้ลง ภารกิจประเภทคูวาไซฟอนสัก 1 ครั้งน่าจะมีเพียงพอแล้ว และสำหรับส่วนอื่นๆ ก็แนะนำให้ลองหาดูได้ที่ วิธีการหาทรัพยากร

สร้าง Excalibur Umbra ให้เสร็จ

เมื่อสร้างและกดรับแล้วต่อไปให้เราทำการปรับเปลี่ยน Warframe ของเราให้กลายเป็น Excalibur Umbra แล้วจะได้พบกับฉากเนื้อเรื่อง

สร้างเสร็จกดรับแล้ว ก็มาเปลี่ยนไปใช้ Excalibur Umbra ด้วย

ค้นหา Umbra (Search for Umbra)
ภารกิจต่อมา เมื่อเราลงไปในภารกิจแล้ว มันจะให้เราตามหา Excalibur Umbra ให้เจอ เมื่อเจอมันต้องทำการเปลี่ยนเป็น Operator แล้วใช้ Void Sling พุ่งเข้าใส่ (กดก้มแล้วกระโดดพุ่ง) พอทำได้แล้วก็จะมีฉากตัดไปยังเนื้อเรื่องอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้เราจะได้เล่นมินิเกม Komi การเล่นแพ้ชนะตรงนี้จะไม่มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องเล่นให้จบพอ หลังจากเล่นเสร็จแล้วฉากก็จะตัดกลับมา เราสามารถไปที่จุดถอนตัวเพื่อจบภารกิจได้เลย 

Void Sling คือการกดนั่งยองแล้วกดกระโดด เป็นท่าประจำตัวของร่าง Operator

ไล่ตาม Umbra (Pursue Umbra)
พอกลับขึ้นมาบนยาน ก็จะมีฉากข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อย จากนั้นภารกิจใหม่จะเพิ่มเข้ามา ในภารกิจนี้ เมื่อเราเจอ Excalibur Umbra มันจะทำการโจมตี Sentients จนหมดแล้วหายตัวไป ภารกิจก็จะถูกปรับเปลี่ยนเป็น กำจัดพวก Mimic แทน ก็ให้เราทำการตามหาและกำจัดมันให้ครบทั้ง 5 ตัว

กำจัด Mimic ทั้ง 5 ตัวที่อยุ่บริเวณรอบๆ

จากนั้นเราก็จะไปเจอกับ Excalibur Umbra อีกครั้ง ครั้งนี้เราจะต้องใช้ร่าง Operator ยิงบีมของเราเข้าใส่จนทำลายโล่ของมันให้ได้ จุดนี้หากใครไม่ได้เตรียม Amp ดีๆ มาอาจจะลำบากหน่อย แต่ก็ค่อยๆ ยิงลดโล่ไปเรื่อยๆ ได้ ถ้าเราตายจะไม่ถูกรีเซ็ท แต่จะฟื้นขึ้นมาใหม่ทันที ก็ให้พยายามใช้ร่าง Opeartor ยิงใส่ Excalibur Umbra ไปเรื่อยๆ จนโล่ของมันหมด

ยิงตอดโล่ของมันไปเรื่อยๆ จนหมดให้ได้

หลังจากโล่หมดแล้ว ตัวภารกิจก็จะบอกให้เราใช้ Void Sling พุ่งเข้าใส่ Excalibur Umbra พอโดนแล้วก็ให้กดเลข 5 เพื่อเข้าสู่ร่างกายของมัน ก็จะตัดเข้าสู่ฉากเดิม พร้อมกับเล่น Komi อีกเล็กน้อย หลังจากกลับมาก็สามารถไปที่จุดถอนตัวเพื่อจบภารกิจ

พอโล่หมดแล้วค่อยใช้ Void Sling พุ่งเข้าใส่

เผชิญหน้ากับ Umbra (Confront Umbra)
เมื่อขึ้นมาบนยานเราก็จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมกับภารกิจใหม่ คราวนี้เมื่อเราเจอกับ Umbra ก็ให้ทำแบบเดิมใช้ร่าง Operator ยิงโล่ของมันให้หมด

พบกับความทรมานอีกครั้ง

เมื่อโล่หมดแล้วก็ใช้ Void Sling พุ่งเข้าใส่เช่นเดิม และกดเลข 5 เพื่อเข้าไปในร่างมัน คราวนี้เราจะต้องเดินไปหาต้นไม้สีทองที่อยู่ในมิตินั้นให้เจอ แล้วเราก็จะได้รับ Excalibur Umbra มาจนได้ ก็ให้ใช้มันกำจัด Sentient ที่เจอในบริเวณให้หมด ก็สามารถจบภารกิจได้

Void Sling พุ่งใส่ เสร็จแล้วกดเลข 5 เพื่อเข้าไปคุมร่างมัน
ในฉากนี้ต้องเดินตรงเรื่อยๆ จนเจอต้นไม้สีทอง

เมื่อกลับขึ้นมาแล้วหากเราเลือกตรวจสอบไปที่ Excalibur Umbra เราจะเห็นว่ามันมี Mod ติดมาให้ด้วย ซึ่ง Mod ชนิดนี้จะถูกเรียกว่า Umbra เป็น Mod ที่มีสัญลักษณ์พิเศษนั่นก็คือ Umbra นับว่าเป็น Mod ที่ดีเพียงแต่การ Forma ช่องนี้จะต้องใช้ Umbra Forma ซึ่งหาได้ยากมาก ประมาณ 3 เดือนจะได้รับมา 1-2 อันเท่านั้น โดยเราจะได้รับ Mod Umbra มาทั้งหมด 5 อันก็คือ Umbral Intensify, Umbral Fiber, Umbral Vitality, Sacrificial Steel และ Sacrificial Pressure นอกจากนั้นก็ยังได้รับดาบ Skiajati ที่มีเลเวลเต็ม หากทำการปรับแต่งทั้งส่วนของตัว Excalibur Umbra และ Exalted Umbra Blade นิดหน่อยก็เก่งเพียงพอใช้ได้ยันปลดล็อคโหมดเส้นทางเหล็กกล้า (Steel Path) ได้เลยอีกด้วย

Mod ประเภทใหม่ Umbra ถ้าจะ Forma สัญลักษณ์ Umbra ต้องใช้ Umbra Forma ที่หาได้ยากมากในเกม

ส่วนถามว่าแนะนำให้ปั้นตัว Excalibur Umbra มั้ย (Warframe ตัวนี้ก็เทียบได้กับระดับ Prime) หากใครที่ชื่นชอบ Excalibur อยู่แล้ว และชอบเล่นสายดาบก็แนะนำให้ปั้นได้เลย โดยให้เน้นไปที่การทำ Forma ใส่ Exalted Umbra Blade ก่อนเลยอันดับแรก เพราะสายสกิล 4 สามารถเล่นได้จริง และแรง เพียงแต่จะมีจุดอ่อนเรื่องไม่สามารถควบคุมพื้นที่กว้างได้ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็พอใช้ในโหมด เส้นทางเหล็กกล้า (Steel Path) ได้อยู่ สำหรับ Build ที่แนะนำก็ให้ลองดูคลิปของลุงแมวที่ได้ทำเอาไว้ก็แล้วกัน

ถ้าใครชอบสายดาบเท่ห์ๆ ปั้น Excalibur Umbra ก็พอใช้ได้

กลับสู่โลก (Return to Earth)
มาต่อกันที่ภารกิจสุดท้ายของเควสนี้กัน เมื่อลงมาในภารกิจเราจะได้เจอกับ Ballas ซึ่งมันจะเรียกพวกเหล่า Sentient ออกมา ก็ให้เรากำจัดมันให้หมด แล้วจะได้พบกับฉากเนื้อเรื่อง และเมื่อกลับขึ้นมาบนยานก็เป็นอันเสร็จเควสนี้กันแล้ว

ฉากจบเนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตามมาก

เป้าหมายต่อไปของเราจะปลดล็อคดาวดวงสุดท้ายกับ บทสรุป ปลดล็อคทางเชื่อมต่อดาวเซดนา (Sedna Junction)

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.