สำหรับเควสนี้เราจะสามารถทำได้ เมื่อปลดล็อคทางเชื่อมต่อดาวเซดนา (Sedna Junction) แล้วสามารถรับเควสได้ผ่านทางโคเด็กซ์

เมื่อรับเควสมาแล้วเราจะได้รับจดหมายจาก Ordis ซึ่งจะมีข้อความเป็นคำใบ้แสดงถึงสถานที่ ที่เราจะต้องไปเพื่อเกาะรอยข้อความปริศนา สำหรับข้อความแรก
เพื่อรื้อฟื้นจินตนาการในการทำนาย
ครั้งหนึ่งบนเขาสูงเคยเป็นที่ปกครองของเหล่าทวยเทพโบราณผู้โหดร้าย
ไหนลองทายชื่อยอดเขาซึ่งเป็นที่ผืนดินบรรจบพบนภาเพื่อคลายปม

ในข้อแรกนี้คำตอบก็คือ ภูเขาโอลิมปัสนั่นเอง โดยให้เราไปที่ดาวอังคาร (Mars) แล้วเลือกไปที่จุด Olympus ได้เลย เมื่อลงมาแล้วก็ทำภารกิจกำจัดศัตรูให้สำเร็จไปตามปกติแล้วไปที่จุดถอนตัวได้เลย ตอนจบภารกิจเราจะได้รับ พิมพ์เขียว Mirage: นิวรอปติกส์ (Mirage Neuroptics) มาด้วย เป็นอันเสร็จสิ้นข้อความแรก

เมื่อกลับขึ้นมาบนยานแล้วจะได้รับจดหมายจาก Ordis เป็นข้อความปริศนาอันที่สอง
เพื่อจะสร้างในสิ่งที่ท่านคิดว่ารอบรู้
ลองค้นหาชื่อของนิมฟ์ นางอัปสรที่่ร้องเพลงได้อย่างไพเราะดู
นางล่อลวงชายหนุ่มด้วยเสียงเพลงและรอยยิ้ม
จนภรรยาของเขาคงคิดว่านั่นน่าสังเวชใจ

สำหรับจุดที่ 2 นี้จะอยู่ที่จุด Calypso ดาวเสาร์ (Saturn) ภารกิจก็ไม่มีอะไรมา ลงไปแล้วเอาชีวิตรอดให้ได้ครบ 15 นาที เมื่อจบภารกิจก็จะได้รับพิมพ์เขียว Mirage: ซิสเต็ม (Mirage System)

มาถึงบนยานก็จะได้รับข้อความปริศนาอันที่ 3 มีเนื้อความว่า
คิดว่าสัตว์ทะเลดึกดำบรรพ์หมุนเป็นวังน้ำวนหรือไม่
จงมองหาอสรุกายที่กลืนเรือกะลาสีทั้งลำมานับแต่อดีตกาล
ซึ่งหากพลาดก็คงจมหายใต้บาดาล แค่นั้นเอง

อันที่ 3 นี้จะเป็นจุด Charybdis ดาวเซดนา (Sedna) ภารกิจก็คือให้เราทำลายรัง Infested ทั้งหมด 3 รัง เป็นอันจบภารกิจ และจะได้รับพิมพ์เขียว Mirage: แชสซี (Mirage Chassis)

เมื่อกลับขึ้นมาบนยานเราก็จะได้รับจดหมายอีกหนึ่งอัน และเป็นการจบภารกิจ ข้อความที่ซ่อนอยู่ไปด้วย ส่วนพิมพ์เขียวหลักของ Mirage นั้นสามารถหาซื้อได้จากเมนูตลาดภายในเกมได้เลย สำหรับตัว Warframe Mirage แบบธรรมดาก็ไม่แนะนำให้ปั้นเท่าไหร่นัก รอไปใช้ Mirage Prime เลยจะดีกว่า

สำหรับเควสต่อไปจะเป็นเควสเนื้อเรื่องหลักที่เข้มข้น บทโหมโรมสู่สงคราม (Prelude to War) – เปิดฉากความเพ้อฝัน (Chimera Prologue)

 
				 
															 
								 
															 
								