ขอเกริ่นก่อนเลยว่าสำหรับเกมนี้การสร้างความเสียหายจะถูกเกี่ยวเนื่องไปกับระบบธาตุด้วย ซึ่งมันมีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกับเกมอื่นๆ ที่เราเคยเล่นกันมา และการแพ้-ชนะทาง นั้นจะขึ้นอยู่กับ ประเภทของศัตรูด้วย สำหรับมือใหม่ระบบธาตุนั้นอาจจะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นัก เพราะว่าเราสามารถเน้นที่ ความเสียหายอย่างเดียวก็จัดการศัตรูได้รวดเร็วแล้ว แต่หากเล่นถึงระดับ เส้นทางเหล็กกล้า (Steel Path) ขอบอกเลยว่าระบบธาตุคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการสร้างความเสียหายให้กับเหล่าศัตรู เพราะฉะนั้นมันจึงจำเป็นต้องมาเรียนรู้กัน

ธาตุหลักทั้ง 4 ภายในเกม
สำหรับภายในเกมนี้จะมีธาตุหลักทั้งหมด 4 อย่างด้วยกัน
ธาตุรองเกิดจากการผสมธาตุหลัก
ธาตุรองจะเกิดขึ้นมาจากการผสมจับคู่ธาตุหลักทั้ง 4 เข้าด้วยกัน

การโจมตีแบบกายภาพ
สำหรับอาวุธทุกชนิด จะสร้างความเสียหายแบบกายภาพด้วยเช่นกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
| ประเภท | สถานะ | 
|---|---|
| การกระแทก (Impact) | ล้ม (Knockback) ทำให้เป้าหมายเซและล้มเป็นเวลา 1 วินาที หากซ้อนทับสถานะก็จะทำให้เซนานขึ้นอีก สูงสุดที่ 6 วินาที, ช่วยเพิ่มจุดปลิดชีพด้วย Parazon โดยจะเพิ่ม 8% ของเลือดสูงสุด ต่อสถานะ ซ้อนทับได้สูงสุด 5 ครั้ง ที่ 80% (100% ต่อ Corpus ตอนที่ไม่มีโล่) การซ้อนทับของสถานะแต่ละครั้งจะมีระยะเวลาเป็นของตัวเองไม่นับรวมหรือต่อเนื่อง | 
| การเจาะ (Puncture) | อ่อนแอ (Weakened) ลดความแรงในการโจมตีลง 40% และ มีโอกาสถูกความเสียหายแบบคริติคอลง่ายขึ้น 5% เป็นเวลานาน 6 วินาที การซ้อนทับของสถานะ จะเป็นเพิ่มการเพิ่มความอ่อนแอขึ้น 10% โดยจะลดความแรงในการโจมตีสุงสุด 80% และเพิ่มโอกาสโดนคริติคอลขึ้นสูงสุด 25% ที่สถานะซ้อนทับกัน 5 ครั้ง การซ้อนทับของสถานะแต่ละครั้งจะมีระยะเวลาเป็นของตัวเองไม่นับรวมหรือต่อเนื่อง | 
| เฉือนฟัน (Slash) | เลือดไหล (Bleed) สร้างความเสียหาย 35% ของความเสียหายพื้นฐาน เป็นเวลานาน 6 วินาที โดยจะไม่สนค่าเกราะป้องกันและโล่ การซ้อนทับของสถานะไม่มีขีดจำกัดสูงสุด และสถานะแต่ละครั้งจะมีระยะเวลาเป็นของตัวเองไม่นับรวมหรือต่อเนื่อง | 
การใช้งาน Mod เพื่อปรับแต่งธาตุให้กับอาวุธ
สำหรับการแต่ง Mod นั้น เราจะเห็นว่า จะมี Mod ประเภทที่ทำให้อาวุธที่ใส่ มีธาตุหรือสถานะตามที่ต้องการได้ ทีนี้การผสมธาตุมันจะเกิดขึ้นตามลำดับจากทางซ้ายไปขวา ลำดับที่ 1,2,3,4 จะอยู่บรรทัดที่บน ส่วนบรรทัดล่างก็จะเป็น 5,6,7,8 จุดหลักที่สำคัญก็คือการเรียง Mod ตามลำดับเพื่อให้ผสมเกิดเป็นธาตุที่ต้องการ นอกจากนั้นเวลาที่เราจัดเรียง Mod ก็สามารถสังเกตุได้ที่ทางฝั่งซ้ายมือ มันจะแสดงรายละเอียดของอาวุธเอาไว้อย่างชัดเจน 


สำหรับใครที่อยากศึกษาแบบรายละเอียดครบถ้วนก็แนะนำให้เข้าไปอ่านกันได้ที่ Warframe Wiki กันได้เลย ภายในนั้นจะบอกรายละเอียดเอาไว้อย่างครบถ้วนและชัดเจน เพียงแต่มันจะเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ
 
				 
															 
								 
															 
								