บทสรุป Atlas

สำหรับการเล่นใน Altas จะเริ่มขึ้นทันทีหลังจากจบ Act 6 โดยตัวเราจะถูกส่งมาที่ ที่หลับภัยซิกกุรัต (Vaal Ziggurat) ให้เริ่มจากคุยกับ ดอร์ยานี (Doryani) เพื่อรับเควส การเล่นใน Atlas จำเป็นต้องใช้ไอเทมที่เรียกว่า ศิลานำทาง โดยจะดรอปจากมอนสเตอร์ทั่วไปนี่แหละ ซึ่งตัวศิลานี้ก็จะมีแบ่งออกเป็น Tier ด้วย ยิ่ง Tier สูง เลเวลของมอนสเตอร์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เมื่อมีศิลานำทางแล้วก็ให้ไปที่ เครื่องเปิดแผนที่ โดยมันจะอยู่ตรงกลางในที่หลบภัยนี่แหละ เมื่อกดเข้ามาแล้วก็จะเป็นการเปิดแผนที่ใน Atlas

สำหรับแผนที่พวกนี้ เราจะเดินไปในทิศทางไหนก็ได้ ไม่มีความแตกต่างกัน เพราะสุดท้ายมันจะเป็นการเปิดแผนที่ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ โดยในแต่ละแผนที่เราจะเห็นว่ามันมีสัญลักษณ์อยู่ ซึ่งแต่ละอันก็จะมีคอนเท้นต์ที่แตกต่างกันไป เป้าหมายสูงสุดของการเล่นใน Atlas ก็คือการเข้าไปปราบบอสของคอนเท้นต์ต่างๆ ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน โดยแต่ละตัวก็จะอยู่ในคอนเท้นต์ที่แตกต่างกันและมีเงื่อนไขในการเข้าไปปราบที่ต่างกันด้วย

ที่ซ่อน (Hideout): เมื่อเราเจอสัญลักษณ์นี้ หากเราเข้าไปแล้วจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดภายในแผนที่นั้นเรา จะเป็นการยึดครองทำให้ปลดล็อคระบบที่ซ่อน ซึ่งภายในที่ซ่อนของเรานั้น จะสามารถเลือกปรับแต่งสิ่งต่างๆ รวมไปถึง NPC ได้เองตามที่ต้องการเลย

บอสประจำแผนที่ (Map Boss): ภายในแผนที่จะมีบอสประจำอยู่ด้วย

อาบรังสี (Irradiated): แผนที่จะมีเลเวลของมอนสเตอร์ เพิ่มขึ้น 1 เลเวล

มลทิน (Corruption): แผนที่ติดมลทิน ทำให้มี Mod แผนที่เพิ่มเติม และมีเลเวลของมอนสเตอร์ เพิ่มขึ้น 1 เลเวล

บรีช (Breach): แผนที่จะมีคอนเท้นต์ บรีช

เดลิเรียม (Delirium): แผนที่จะมีคอนเท้นต์ เดลิเรียม

กองสำรวจ (Expedition): แผนที่จะมีคอนเท้นต์ กองสำรวจ

พิธีกรรม (Ritual): แผนที่จะมีคอนเท้นต์ พิธีกรรม

ประตูข้ามอาณาจักร (Realm Gate): ใช้งานคู่กับไอเทมพิเศษ เพื่อเปิดแผนที่ในการเข้าหาบอสของคอนเท้นต์ต่างๆ 

อนุสาวรีย์เพลิงพิโรธ (The Burning Monolith): แผนที่สำหรับเข้าปราบบอสอีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า The Arbiter of Ash ซึ่งวิธีการเข้าเจอบอสได้จะต้องใช้กุญแจทั้ง 3 อย่าง โดยหาได้จากการเข้าไปปราบบอสในแผนที่ ปราการทองแดง, ปราการเหล็ก, ปราการศิลา

ในการลงแผนที่นั้น หากเราตายเพียงครั้งเดียวก็จะถือว่าเราแพ้ในแผนที่นั้นทันที ทำให้คอนเท้นต์ทั้งหมดหายไป แต่เรายังคงเปิดแผนที่ซ้ำได้ เพียงแต่ในแผนที่จะเห็นได้ว่ามันไม่มีคอนเท้นต์สัญลักษณ์พิเศษอะไรอีกต่อไปแล้ว

บรีช (Breach)

วิธีการเล่นในบรีชก็คือ ให้หามือใหญ่ออร่าม่วงให้เจอในแผนที่ จากนั้นแนะนำให้ทำการเคลียร์แผนที่ให้เกลี้ยงก่อนเลย สุดท้ายค่อยกลับมาที่มือใหญ่ที่เราเจออีกครั้ง ทีนี้ก็ให้ทำการกดที่มือใหญ่ เพื่อเริ่มคอนเท้นต์ บรีช การเล่นก็ง่ายๆ พยายามกำจัดมอนสเตอร์ที่ออกมาจากต่างมิติ ยิ่งเยอะและเร็วก็จะทำให้วงของ บรีช มันก็ยิ่งขยายขนาดขึ้นไปเรื่อยๆ แต่หากเรากำจัดช้าเกินไป วงมันก็จะถูกบีบเป็นการปิดประตูมิตินี้ทันที นอกจากการกำจัดมอนสเตอร์ที่ออกมาแล้ว หากเราเจอมือบรีช (Grasping Hands) ก็ให้วิ่งไปทับที่มันเพื่อเปิดมือออกมาด้วย สิ่งสำคัญก็คือมันจะมีโอกาสดรอป สะเก็ดบรีช (Breach Splinters) เมื่อเราสะสมมันครบ 300 ชิ้น จะรวมกันกลายเป็น ศิลาบรีช (Breachstone) โดยไอเทมชิ้นนี้เราสามารถนำมันไปใช้ที่ ประตูข้ามอาณาจักร (Realm Gate) เพื่อเปิดแผนที่พิเศษ แดนวิปลาส (Twisted Domain) ภายในนี้เมื่อเข้าไปเจอกับบอสประจำคอนเท้นต์บรีช  เซ็ชท์ เราผู้เป็นหนึ่ง (Xesht, We That Are One) เมื่อกำจัดมันได้ก็จะได้รับ คัมภีร์บังเกิดความรู้เหนือโลก (Otherworldly Book of Knowledge) เมื่อกดใช้ก็จะทำให้ได้รับแต้ม​พาสซีฟ​แอตลาส​บรีช 2 แต้ม นั่นเอง และหากเราอัพพาสซีฟที่เพิ่มระดับความยากของแดนวิปลาส (Twisted Domain Difficulty) แล้วมาปราบบอสอีกครั้ง เราก็จะได้รับแต้มพาสซีฟบรีซนี้เพิ่มขึ้นอีก 2 แต้มนั่นเอง 

สำหรับไอเทมที่ดรอปเฉพาะในคอนเท้นต์บรีซก็จะมีพวก Catalyst ชนิดต่างๆ ที่เอาไว้เพิ่มคุณภาพ Mod ให้กับแหวนและสร้อย, Breach Ring และพวก Unique อุปกรณ์สีส้มที่จะสุ่มได้รับมาตอนปราบบอสประจำคอนเท้นต์ เซ็ซท์ ซึ่งจะมีทั้งหมด 7 ชิ้นด้วยกัน

Skin of the Loyal Garment
Xoph’s Blood Amer Amulet
Hand of Wisdom and Action Braced Wraps
Controlled Metamorphosis Diamond
Beyond Reach Visceral Quiver
The Pandemonius Lapis Amulet
Choir of the Storm Jade Amulet

เดลิเรียม (Delirium)

คอนเท้นต์นี้ ในการเริ่มต้นเราจะต้องเดินเข้าไปชนกระจก ที่อยู่ในแผนที่ หลังจากนั้นให้เราพยายามอยู่ในหมอกตลอดเวลา เดินเข้าไปในแผนที่ให้ลึกขึ้นเรื่อยๆ และกำจัดมอนสเตอร์ให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะมอนสเตอร์ที่ออกมาจากกระจก ซึ่งมันจะเป็นการเติมเกจอารมณ์ หลังจากจบคอนเท้นต์ เราจะได้รับ สารกลั่นอารมณ์ (Distilled Emotions) โดยหากนำสารกลั่นอารมณ์เรียงลำดับตามสีที่ถูกต้อง นำไปหยดใส่ สร้อย ก็จะทำให้ได้รับ พาสซีฟ ที่ต้องการได้ 1 อย่าง ส่วนวิธีดูว่าพาสซีฟไหนต้องการสีอะไรบ้าง ก็สามารถเข้าไปดูได้ในหน้าอัพพาสซีฟเลย แต่ละสกิลมันจะมีบอกเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องใช้สารกลั่นอารมณ์สีใดบ้าง เรียงลำดับยังไง นอกจากนี้มอนสเตอร์ที่อยู่ในเดลิเรียมยังมีโอกาสดรอป สะเก็ดเมืองจำแลง (Simulacrum Splinter) หากเราสะสมได้ครบ 300 ชิ้น จะรวมกันกลายเป็น เมืองจำแลง (Simulacrum) ให้นำไปใช้ที่ ประตูข้ามอาณาจักร เพื่อเปิดแผนที่พิเศษ เมืองจำแลง (Simulacrum) ในแผนที่นี้เราจะต้องเผชิญกับการต่อสู้แบบเป็นรอบ ซึ่งหากเราเอาชนะได้ทั้งหมด 15 รอบด้วยกัน ก็จะได้รับ แต้ม​พาสซีฟ​แอตลาส​เดลิเรียม 2 แต้ม นั่นเอง และหากเพิ่มความยากของเมืองจำแลง แล้วมาลง 15 รอบใหม่เมื่อเอาชนะได้ก็จะได้รับแต้ม​พาสซีฟ​แอตลาส​เดลิเรียม 2 แต้ม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เพิ่มความยากนั่นแหละ

ส่วนบอสประจำคอนเท้นต์นี้จะชื่อว่า โคซิส ผู้เผยความกระจ่าง (Kosis, The Revelation) เจอมันได้ที่เมืองจำแลง หากกำจัดมันก็จะมีโอกาสได้รับไอเทมสีส้ม Unique ถึง 6 ชนิดด้วยกัน

Melting Maelstrom Ultimate Mana Flask
Strugglescream Stellar Amulet
Perfidy Knight Armour
Collapsing Horizon Wyrm Quarterstaff
Assailum Closed Helm

กองสำรวจ (Expedition)

สำหรับกองสำรวจ เมื่อเราเจอ NPC มันจะให้เราสามารถเลือกตำแหน่งวางระเบิดได้สูงสุด 5 ตำแหน่งด้วยกัน เมื่อเราระเบิดและกำจัดมอนสเตอร์ที่ออกมาได้แล้ว ก็จะได้รับของรางวัล ซึ่งในคอนเท้นต์กองสำรวจนี้ เราจะได้รับเป็น เหรียญต่างแดน และ พวกโบราณวัตถุชนิดต่างๆ โดยความพิเศษของคอนเท้นต์นี้จะอยู่ตรงที่ เมื่อเราเจอเหล่า NPC ของกองสำรวจแล้ว เมื่อเรากลับไปที่ซ่อนของเรา จะสามารถเรียก NPC เหล่านั้นออกมาในที่ซ่อนของเราได้ ซึ่ง NPC แต่ละคนจะสามารถแลกอุปกรณ์สวมใส่ได้ โดยใช้โบราณวัตถุนี่แหละเป็นตัวแลก ความพิเศษจะอยู่ตรงที่เราสามารถ อัพเกรด Mod ของอุปกรณ์สวมใส่พวกนั้นได้ ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกแลกเปลี่ยนกับเหล่า NPC ของกองสำรวจ 

นอกจากไอเทมทั้ง 2 อย่างแล้ว มอนสเตอร์ในคอนเท้นต์กองสำรวจจะมีโอกาสดรอปไอเทมที่ชื่อว่า สมุดปูมเดินทางกองสำรวจ (Expedition Logbook) เมื่อกดใช้จะทำให้เราเข้าสู่แผนที่พิเศษ ภายในนั้นเราจะเลือกวางระเบิดได้สูงสุดถึง 20 จุดด้วยกัน ที่สำคัญก็คือในแผนที่นี้จะมี หัวกระโหลกขนาดใหญ่ ปรากฏอยู่ในแผนที่ เมื่อเราระเบิดจุดนั้นจะเข้าสู่พื้นที่พิเศษ โดยเราจะมีโอกาสต่อสู้กับบอสประจำคอนเท้นต์ ออลรอธ ต้นกำเนิดความวินาศ (Olroth, Origin of the Fall) บอสตัวนี้จะมีโอกาสเจอเฉพาะในแผนที่ที่มีเลเวล 79 ขึ้นไปเท่านั้น และเมื่อปราบได้ก็จะได้รับแต้มพาสซีฟกองสำรวจ 2 แต้มเหมือนกับคอนเท้นต์อื่นๆ ส่วนอุปกรณ์สีส้มระดับ Unique จะมีโอกาสดรอปทั้งหมด 5 ชนิดด้วยกัน

Svalinn Crucible Tower Shield
Olroth’s Resolve Ultimate Life Flask
Olrovasara Torment Club
Heroic Tragedy Timeless Jewel
Keeper of the Arc Spiritbone Crown

พิธีกรรม (Ritual)

ในคอนเท้นต์นี้เราจะได้เจอกับแท่นพิธีกรรมที่อยู่ในแผนที่ ซึ่งจะมีอยู่ประมาณ 3-4 อัน เมื่อทำพิธีสำเร็จก็จะเพิ่มแต้มพิธีกรรมได้ ซึ่งแต้มนี้เราจะสามารถสะสมเพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนไอเทมได้ โดยไอเทมพิเศษในคอนเท้นต์นี้ก็จะมีพวก ลางบอกเหตุ (Omen) ชนิดต่างๆ ซึ่งมันเป็นส่วนช่วยในการทำ Mod ไอเทมให้ดีขึ้นได้ นอกจากนั้นก็จะมีไอเทมพิเศษ เข้าเฝ้าราชัน (An Audience with the King) ซึ่งไอเทมชิ้นนี้เมื่อได้รับมาแล้วนำไปใช้กับ ประตูข้ามอาณาจักร จะทำให้เราเข้าสู่แผนที่พิเศษ รากฐานแห่งความว่างเปล่า (Crux of Nothingness) เจอกับบอสประจำคอนเท้นต์ ราชันในม่านหมอก (The King in the Mists) เมื่อปราบได้ก็จะได้รับแต้มพาสซีฟพิธีกรรมเช่นกัน พร้อมกับมีโอกาสได้รับอุปกรณ์สีส้ม Unique อีก 5 ชนิด

Pragmatism Explorer Armour
Beetlebite Velour Shoes
The Burden of Shadows Chiming Staff
From Nothing Diamond
Ingenuity Utility Belt

อนุสาวรีย์เพลิงพิโรธ (The Burning Monolith)

แผนที่สำหรับเข้าปราบบอสอีกหนึ่งตัวที่ชื่อว่า ตลาการเถ้าธุลี (The Arbiter of Ash) ซึ่งวิธีการเข้าเจอบอสได้จะต้องใช้กุญแจทั้ง 3 อย่าง โดยหาได้จากการเข้าไปปราบบอสในแผนที่ ปราการทองแดง, ปราการเหล็ก, ปราการศิลา ซึ่งทั้ง 3 ปราการนี้จะมีโอกาสพบได้ค่อนข้างยากหน่อย แต่เมื่อรวบรวมได้ครบแล้วก็สามารถใช้กุญแจไขเข้าไปได้ และปราบบอส ตุลาการเถ้าธุลี ก็จะมีโอกาสได้รับอุปกรณ์สีส้ม Unique ทั้งหมด 6 ชนิดด้วยกัน

Solus Ipse Grand Visage
Ab Aeterno Grand Cuisses
Morior Invictus Grand Regalia
Sine Aequo Grand Manchettes
Sacred Flame Shrine Sceptre
Prism of Belief Diamond

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.