บทสรุป Act 2

ชายแดนวาสตีรี (Vastiri Outskirts)

เมื่อมาถึงใน Act 2 ให้เริ่มคุยกับผู้คลุมกายเพื่อรับเควสใหม่ จากนั้นให้เดินไปตามทางจนถึง ตลาดค้าขายมาราเค็ท (Maraketh Bazzaar) ให้เราพยายามมองหาคนที่ชื่อ ชาร์คา (Zarka) คุยกับเธอแล้วเราก็จะได้รับเควสใหม่เพื่อออกไปปราบบอสที่อยู่แถวนี้ จากนั้นให้เราหาเดินออกจากส่วนของตลาดไปยังจุดที่มีมอนสเตอร์ สำรวจทางให้ทั่วจนได้เจอเข้ากับ หน้าผาผู้รุกราน (Raiders’ Cliffs) และปราบบอสที่ชื่อว่า แรธเบรกเกอร์ (Rathbreaker) หลังจากเอาชนะมันได้แล้วก็ให้เปิดวาร์ปกลับไปคุยกับ ชาร์คา ได้เลย เธอจะมอบหินสกิลเลเวล 5 มาให้ด้วย และเปิดทางให้เราสามารถขึ้นไปยังบนรถของกองคาราวานอาร์ดูร่า (The Ardura Caravan)

คาราวานอาร์ดูร่า (The Ardura Caravan)  

พอขึ้นมาแล้วก็ให้พูดคุยกับผู้คลุมกาย จากนั้นเดินขึ้นไปด้านบนจนสุด แล้วคุยกับ เช็คเคมาอะชาล่า (Sekhema Asala) เธอจะเปิดทางให้ แล้วให้เดินเข้าไปด้านในคุยกับเธออีกครั้ง เมื่อคุยเสร็จแล้วให้กดที่โต๊ะ แผนที่ทะเลทราย (Desert Map) เพื่อเปิดแผนที่เดินทาง ให้เลือกไปตรงจุดที่อยู่บริเวณซ้ายล่าง เหมืองผิวดินมอว์ดัน (Mawdun Quarry) พอเลือกเสร็จแล้วให้รอสักนิดหนึ่ง ประตูที่อยู่ทางด้านซ้ายจะเปิดออก ทำให้เราสามารถออกจากคาราวานไปยังเหมืองผิวดินมอว์ดันได้

เหมืองผิวดินมอว์ดัน (Mawdun Quarry) 

ที่เหมืองผิวดันมอว์ดันนี้ จะไม่มีอะไรสำคัญนัก ให้พยายามเดินหาทางเพื่อลงไปสู่ เหมืองแร่มอว์ดัน (Mawdun Mine) พอลงมาแล้วให้หาทางเข้าไปปราบบอสของแผนที่ที่ชื่อว่า รุดจา วิศวกรเขย่าขวัญ (Rudja, The Dread Engineer) ปราบได้เสร็จให้เดินไปด้านบนเพื่อปล่อยคนออกมาจากกรงที่ถูกขังอยู่ เธอจะชื่อว่า รีสุ ฟาริดันผู้แปรพักตร์ (Risu, Faridun Defector) คุยกับเธอจากนั้นก็ให้วาร์ปกลับไปกองคาราวาน พอกลับมาแล้วก็เดินขึ้นไปด้านบนสุดอีกครั้ง แล้วคุยกับรีสุและเช็คเคมาอะชาล่า จากนั้นให้กดที่โต๊ะ เปิดแผนที่ทะเลทราย คราวนี้ให้เลือกไปที่จุดตรงกลาง ประตูฮาลานี (The Halani Gates) แต่พอลงมาจริงๆ มันจะกลายเป็นแผนที่ ทางผ่านผู้ทรยศ (Traitor’s Passage)

ทางผ่านผู้ทรยศ (Traitor’s Passage)

พอมาถึงที่นี่แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือพยายามเดินให้ทั่วจนได้เจอเข้ากับประตูที่มียันหลายใบแปะอยู่หน้าประตู มันคือห้องบอส เมื่อเข้าไปแล้วจะได้เจอกับ บัลบาล่า ผู้ทรยศ (Balbala, The Traitor) พอปราบเธอได้ เราจะได้รับไอเทมที่ชื่อว่า บาร์ย่าของบัลบาล่า (Balbala’s Barya) ไอเทมชิ้นนี้จะเอาไว้เพื่อใช้ในการเปลี่ยน Class ของเรา พอเก็บไอเทมได้แล้วก็ให้กลับออกมาจากห้องนั้น แล้วเดินหาทางจาก ทางผ่านผู้ทรยศขึ้นไปสู่ ประตูฮาลานี (The Halani Gates)

ประตูฮาลานี (The Halani Gates) 

ทีนี่จะไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เราเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนสุดทางจะได้เจอกับบอสที่ชื่อว่า จามันรา กษัตริย์คืนชีพ (Jamanra, The Risen King) ถ้าเราลดเลือดของมันจนเหลือประมาณ 30-40% ได้แล้ว มันจะหนีไป บันไดทางขวาของฉากก็จะเปิดออก ให้เราลงไปที่บันได แล้ววิ่งตามทางไปจนสุด จนกระทั่งเจอพายุทรายของจามันรา (Jamanra’s Sandstorm) ปิดทางไว้ ทีนี้ก็ให้วาร์ปกลับไปยังคาราวานได้เลย

พอกลับมาถึงคาราวานแล้วให้คุยกับชาร์คาจะได้รับหินสกิลเลเวล 7 จากนั้นให้เดินขึ้นไปด้านบนสุดเพื่อคุยกับ เช็คเคมาอะชาล่า แล้วเปิดแผนที่ทะเลทรายขึ้นมา ตรงจุดนี้เราจะมีทั้งหมด 4 แผนที่ที่สามารถเลือกทำได้ ซึ่งจะทำอะไรก่อนหรือหลังก็ได้ แต่ก็แนะนำให้ทำตามลำดับดังนี้

  • บททดสอบแห่งเช็คเคมา (Trial of the Sekhemas) (จุดด้านบน ทำเพื่อเปลี่ยนคราสเสริม)
  • นครเจ็ดสายธาร เค็ท (Keth) (จุดทางซ้าย)
  • แดนกันดารมาสโตดอน (Mastodon Badlands) (จุดด้านบนซ้ายที่มีโครงกระดูก)
  • หุบเขาแห่งไททัน (Valley of the Titans) (จุดด้านล่างซ้ายถัดจากเหมืองมอว์ดัน)

บททดสอบแห่งเช็คเคมา (Trial of the Sekhemas)

ที่แห่งนี้ก็คือบทสอบที่จะทำให้เราสามารถเลือกเปลี่ยน Class ประจำอาชีพได้ ให้เดินไปจนเจอกับแท่นวัตถุตกทอด (Relic Altar) แล้วกดที่มันแล้วจะเป็นการนำไอเทม บาร์ย่าของบัลบาล่า (Balbala’s Barya) เข้าไปใส่ ทีนี้ บัลบาล่า จะปรากฏตัวออกมาก็ให้คุยกับเธอแล้วเราจะได้รับ วัตถุตกทอด (Relic) มา 1 ชิ้น ซึ่งวัตถุตกทอด (Relic) นี้จะเหมือนไอเทมที่ติดตั้งเพื่อช่วยเพิ่มค่าต่างๆ ในการลงบททดสอบนี้ได้ ทีนี้ก็ให้เรากดที่แท่นอีกครั้งแล้วนำวัตถุตกทอดวางลงไปด้วย จากนั้นก็กดที่คำว่า ยืนยัน (Confirm) แล้วประตูก็จะเปิดออก

การเล่นในบททดสอบแห่งเช็คเคมาให้ผ่าน เราจำเป็นต้องผ่านบททดสอบทั้งหมด 8 ห้องด้วยกัน (7 ห้องธรรมดา และ 1 ห้องบอส รวมกันเรียกว่า 1 รอบ) ซึ่งในห้องธรรมดานั้นจะมีทั้งหมด 5 รูปแบบ เมื่อเราผ่านบททดสอบได้แล้วทุกครั้ง เราจะต้องมาเลือกห้องต่อไปที่เราจะต้องการทดสอบ ซึ่งแต่ละห้องก็จะบอกด้วยว่าเราจะเจอกับบททดสอบอะไร และได้รับรางวัลเป็นอะไรบ้าง จุดนี้สิ่งที่เราต้องระวังก็คือจะมีบางห้องที่มีสัญลักษณ์สีม่วง หากเราเลือกห้องนั้นไปจะทำให้ได้รับการลงทัณฑ์ ซึ่งจะมีบทลงโทษลดความสามารถของเราลงตลอดจนกระทั่งจบการทดสอบในแต่ละรอบเลย

  • บททดสอบหลบหนี (Escape Trial): บททดสอบนี้แค่เพียงเราวิ่งไปกดที่แท่นคริสตัสทั้งหมด โดยเมื่อกดอันแรกแล้ว ก็จะมีแสงพุ่งไปตามทางเพื่อบอกเราด้วยว่าแท่นอันต่อไปอยู่ที่ไหน นับว่าเป็นบททดสอบที่ง่ายที่สุดในบรรดาอันอื่นๆ แล้ว
  • บททดสอบพิธีกรรม (Ritual Trial): บททดสอบที่ให้เราทำลายแท่นพิธีกรรมให้หมด ก็จะผ่านการทดสอบ
  • บททดสอบพละกำลัง (Hourglass Trial): เปิดนาฬิกาทราย ให้เราเอาตัวรอดจนกว่าจะหมดเวลา หากฆ่ามอนสเตอร์แรร์ได้ก็จะช่วยลดระยะเวลาลงด้วย
  • บททดสอบถ้วยจอก (Chalice Trial): บททดสอบนี้จะให้เราปราบมอนสเตอร์แรร์ให้หมดในห้อง
  • บททดสอบฝ่าอันตราย (Gauntlet Trial): บททดสอบนี้จะให้เราวิ่งฝ่าอันตรายต่างๆ เพื่อหาทางไปยังประตู นับว่าเป็นบททดสอบที่ยากที่สุด ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้

ข้อควรระวังในบทสอบก็คือทุกครั้งที่เราได้รับความเสียหาย ก็จะลดค่าเกียรติ (Honour) ลงไปด้วย หากค่าเกียรตินี้หมดก็จะเท่ากับทำให้เราแพ้การทดสอบนี้ทันที วิธีการแก้ไขที่ช่วยทำให้ค่าเกรียติลดน้อยลงก็คือ ให้เราหาวัตถุตกทอดที่มี Mod ที่เขียนว่า +x% to Honour Resistance ยิ่งมีเยอะยิ่งดี จะทำให้เวลาที่เราได้รับความเสียหาย ค่าเกียรติก็จะลดน้อยลง เพราะฉะนั้นในการเล่นรอบแรกๆ ไม่ต้องหวังว่าจะผ่านก็ได้ แค่เพียงพยายามกำจัดมอนสเตอร์แรร์ที่เจอให้เยอะที่สุด เพื่อที่จะได้รับวัตถุตกทอดมา แล้วลุ้นให้ดวงเปิดได้รับวัตถุตกทอดที่มี Mod +x% to Honour Resistance แล้วนำมาใส่ลงไปในแท่นก่อนเริ่มรอบใหม่

หากเราแพ้ก็จะถือว่าจบการเล่นในรอบนั้นๆ ทันที ทีนี้ก็จะเริ่มเล่นรอบใหม่ให้เราคุยกับ บัลบาล่า แล้วเลือก เผชิญบททดสอบอีกครั้ง บัลบาล่าก็จะให้ไอเทมเพื่อเปิดบททดสอบมาให้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งเราสามารถเล่นได้เรื่อยๆ จะแพ้กี่ครั้งก็ไม่เป็นไร ซึ่งหากเป็นการลงบททดสอบครั้งแรกกว่าจะผ่านได้ ก็ต้องเล่นหลายรอบหน่อยจนกว่าเราจะชินและพอรู้วิธีการเล่นแบบครบถ้วนแล้ว แต่หากว่ายังรู้สึกว่าไม่ไหวก็แนะนำให้ลองไปทำเควสอื่นก่อนก็ได้ พอเลเวลเราเยอะแล้วหรือประมาณจบ Act 2 ก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาทำบททดสอบใหม่ ก็จะพบว่าผ่านมันได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

หากเราผ่านบททดสอบปราบบอสได้แล้ว ก็จะได้สู่ห้องรับรางวัล ภายในนั้นจะมี แท่นครองอำนาจ เมื่อเราสำรวจแล้วก็จะเลือกเปลี่ยนคราสของเราได้เลย เพียงแต่ในการเลือกเปลี่ยนคราสนี้จะต้องระวัง หากเลือกแล้วเราไม่สามารถเปลี่ยนไปอีกสายได้เลย หากต้องการเปลี่ยนสายก็มีแค่ต้องสร้างตัวใหม่เท่านั้น นอกจากนั้นเราก็จะได้รับแต้มนี้การอัพพาสซีฟประจำคราสมา 2 แต้ม ส่วนแต้มที่ 3 และ 4 นั้น เราจะได้รับใน Act 3 หลังจากผ่านการทดสอบในวิหารเคออส 

อีกหนึ่งเรื่องก็คือหลังจากที่เราผ่านการทดสอบครั้งแรกนี้แล้ว หากต้องการเข้าเล่นในบททดสอบแห่งเช็คเคมานี้อีก เราจะต้องหา บาร์ย่าของบัลบาล่า มาเอง และทุกครั้งที่แพ้ไอเทม บาร์ย่าของบัลบาล่า ก็จะหายไปอีกด้วย โดยบาร์ย่าของบัลบาล่านี้ก็จะหาได้จากการฆ่ามอนสเตอร์ทั่วไปภายในเกมนี่แหละ เพียงแต่หากเราต้องการเพิ่มแต้มพาสซีฟประจำคราสนั้นจะต้องหา บาร์ย่าของบัลบาล่า ในระดับที่สูงขึ้น โดยตอนนี้แนะนำให้ข้ามไปก่อนไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจำเป็นต้องมีเลเวลที่สูงมากก่อนถึงจะมาหาเพิ่มขึ้นได้ในภายหลัง

ตอนนี้ก็ให้เรากลับไปที่คาราวานกดที่แผนที่ทะเลทรายแล้วเลือกไปยัง นครเจ็ดสายธาร เค็ท (Keth) ก่อน

นครเจ็ดสาย เค็ท (Keth)

เมื่อเข้ามาในแผนที่นี้มีอยู่ 3 สิ่งที่ต้องทำ 

  • หาวัตถุโบราณเผ่าคาบาล่า (Kabala Clan Relic) โดยให้เราพยายามกำจัดมอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไปเรื่อยๆ หรือมอนสเตอร์แรร์ในแผนที่นี้จนกว่ามันจะตกลงมาให้เก็บ เมื่อตกลงมามันจะเป็นไอเทมชื่อสีเขียวที่เห็นได้ชัดเจน
  • ตามหาและปราบบอสที่ชื่อ คาบาล่า ราชินีงูยักษ์ (Kabala, Constrictor Queen) เมื่อปราบได้แล้วจะได้รับ คัมภีร์เฉพาะทาง (Book of Specialisation) กดใช้เพื่อรับแต้มพาสซีฟชุดอาวุธอีก 2 แต้ม
  • หาทางไปต่อยังแผนที่ นครที่สาบสูญ (The Lost City) จากนั้นให้หาทางไปต่อยังแผนที่ อารามจมทราย (Buried Shrines) และไปยัง อารามฮาลานี (The Heart of Keth) จะเจอกับบอสประจำแผนที่ แอชาเรียน บุตรผู้ถูกทอดทิ้ง (Azarian, the Forsaken Son) เมื่อปราบมันได้แล้ว จะเปิดทางไปต่อ เข้าไปคุยกับ ฮาลานี เทพีแห่งวารี (The Water Goddess) เมื่อคุยเสร็จแล้วให้เดินไปด้านในสุดกดที่ เถ้าถ่านชั่วกัลป์ (Everburning Cinders) แล้วกดใช้ใส่ ฮาลานี อีกครั้ง เถ้าถ่านจะเผาทำลายร่างของฮาลานีเพื่อส่งเธอไปสู่สุคติ เสร็จแล้วจะมีไอเทมที่ชื่อว่า แก่นแท้แห่งวารี (The Essence of Water) ตกลงมาก็ให้เก็บไว้ เป็นอันเสร็จสิ้น จากนั้นก็กลับไปยังกองคาราวาน คุยกับชาร์คา เมื่อมอบไอเทมให้กับเธอ แล้วเดินไปที่โต๊ะ แผนที่ทะเลทราย ไปต่อยังแผนที่ แดนกันดารมาสโตดอน (Mastodon Badlands)

วัตถุโบราณเผ่าคาบาล่า เมื่อตกไอเทมจะเป็นสีเขียวเห็นชัดเจน
คาบาล่า ราชินีงูยักษ์ เมื่อปราบจะได้รับแต้มพาสซีสชุดอาวุธ 2 แต้ม
แอชาเรียน บอสของนครเจ็ดสายธาร

แดนกันดารมาสโตดอน (Mastodon Badlands)

ในแดนกันดารมสโตดอนนี้ ไม่มีอะไรสำคัญมาก ให้เราเดินทางเพื่อหาทางไปยังแผนที่ หลุมกระดูก (The Bone Pits) ได้เลย ในแผนที่หลุมกระดูกนี้ ให้เราพยายามฆ่ามอนสเตอร์ธรรมดาทั่วไปและมอนสเตอร์แรร์จนกว่ามันจะตกไอเทมที่ชื่อว่า วัตถุโบราณเผ่าตะวัน (Sun Clan Relic) จากนั้นให้ค้นหาบอสของแผนที่ โดยแผนที่นี้เราจะได้เจอกับบอส 2 ตัวพร้อมกัน อิคทาน จ้าวมรณะ (Iktab, The Deathlord) และ เอ็คบาม ไอยราโบราณ (Ekbab, Ancient Steed) เมื่อปราบมันได้แล้วจะได้รับ งาช้างมาสโตดอน (Mastodon Tusks) จากนั้นกลับไปยังกองคาราวานคุยกับชาร์คา เมื่อมอบไอเทมให้กับเธอ แล้วเดินไปที่โต๊ะ แผนที่ทะเลทราย ไปต่อยังแผนที่ หุบเขาแห่งไททัน (Valley of the Titans)

จัดการมอนสเตอร์ทุกตัวในแผนที่หลุมกระดูกจนกว่า วัตถุโบราณเผ่าตะวัน จะตก
บอสคู่หู เมื่อปราบตัวใดตัวหนึ่งได้ อีกตัวที่เหลือจะเก่งขึ้น

หุบเขาแห่งไททัน (Valley of the Titans)

ที่แห่งนี้จะมี 3 สิ่งหลักที่เราต้องทำก็คือ

  • ปลดผนึกดึกดำบรรพ์ (Ancient Seal) ที่อยู่รอบๆ แผนที่นี้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 จุดด้วย
  • ค้นหาเครื่องอุทิศแด่แอมริท (Offering to Amirit) แล้วกดที่ Medallion ให้นำ วัตถุโบราณเผ่าคาบาล่า ที่ได้จากแผนที่เค็ท และ วัตถุโบราณเผ่าตะวัน ที่ได้จากแผนที่หลุมกระดูก นำไปใส่ โดยวิธีการใส่ให้เรากดเปิดหน้าไอเทมขึ้นมาแล้วกดปุ่ม Alt ค้าง จากนั้นลาก ไอเทมทั้ง 2 ไปวางยังสัญลักษณ์ที่ปรากฏขึ้นมาได้เลย เมื่อวานไอเทมทั้ง 2 แล้ว ทีนี้ก็ให้เราเลือกบัฟ 1 ใน 2 อย่างระหว่าง เพิ่มชาร์จของขลังที่ได้รับ 30% กับ เพิ่มอัตราการ เติมมานาจากขวดยา 15% ตรงนี้จะเลือกอะไรก็ได้ หากต้องการปรับเปลี่ยนก็สามารถกลับมาทำที่แท่นนี้ได้ในภายหลัง 
  • ที่บริเวณ ทางเข้าหัตถ์ประสาน (The Clasped Entry) จะเป็นเหมือนกองภูเขาใหญ่ หากเราทำการปลดผนึกรอบๆ ทั้ง 3 แล้ว บริเวณตรงกลางเราจะสามารถเข้าไปภายใน ถ้ำลอดไททัน (The Titan Grotto) ได้ 
  • ในถ้ำลอดไททัน เมื่อเดินไปสุดทางจะเจอกับบอส ซัลมาแรธ หุ่นมหึมา (Zalmarath, The Colossus) ปราบมันให้ได้แล้วจะได้รับ ทับทิมอัคคี (The Flame Ruby) กลับไปยังคาราวาน คุยกับชาร์คา เธอจะทำให้รวมไอเทมทั้ง 3 ที่เรามอบให้ ให้กลายเป็น แตรงาช้างแห่งวาสตีรี (The Horn of the Vastiri) เมื่อได้แตรมาแล้วให้เราเดินไปยังบริเวณด้านหน้าสุดของกองคาราวาน เลยตรงห้องที่มีแผนที่ทะเลทรายไปด้านบนอีก เมื่อมาถึงตรงบริเวณที่เป่าแตรแล้ว เราจะเห็นสัญลักษณ์ของเควส ก็ให้กดเป่าแตรงาช้างได้เลย เมื่อเป่าเสร็จแล้ว กลับไปคุยกับเช็คเคมาอะชาล่า แล้วกดที่โต๊ะ แผนที่ทะเลทรายเดินทางไปยัง เดชาร์ (Deshar)

ผนึกดึกดำบรรพ์ จะมีอยู่ทั้งหมด 3 จุดด้วยกันกระจายอยู่ในแผนที่
ที่เครื่องอุทิศแด่แอมริท เมื่อเราใส่วัตถุโบราณทั้ง 2 อันลงไป จะเลือกบัฟ 1 ใน 2 อย่างได้
ปลดผนึกครบ 3 ที่แล้ว ให้เดินมาที่ภูเขาใหญ่ จะมีถ้ำให้ผ่านเข้าไปได้
ที่ปลายทางของถ้ำ จะได้เจอกับบอสขนาดใหญ่

เดชาร์ (Deshar)

เมื่อมาถึงจะเห็นสัตว์ตัวหนึ่งที่ยืนอยู่ ไรอ์ที่ถูกทอดทิ้ง (Abandoned Rhoa) ให้กดคุยกับมันเพื่อรับเควส 

  • จากนั้นให้เดินตามหาศพ เด็คคาราสิ้นลม (Fallen Dekhara) (ชื่อสีเขียว) เมื่อกดพลิกศพจะได้รับ จดหมายสั่งเสีย (Final Letter) ให้นำจดหมายกลับไปยังคาราวานแล้วคุยกับ แชมบริน (Shambrin) (หญิงสาวตาบอดที่อยู่ใกล้ๆ กับ ชาร์คา) เลือก มอบจดหมายให้เธอ (Give Shambrin the Final Letter) แล้วเราจะได้รับ คัมภีร์เฉพาะทาง (Book of Specialisation) กดใช้เพื่อรับแต้มพาสซีฟชุดอาวุธอีก 2 แต้ม
  • ตามหาทางไปยังแผนที่เส้นทางอาลัย (Path of Mourning)

ศพจะนอนอยู่เป็นชื่อสีเขียว
กลับมาที่คาราวานแล้วคุยกับ แชมบริน เลือกมอบจดหมายให้เธอ แล้วจะได้รับแต้มพาสซีฟชุดอาวุธ 2 แต้ม

เส้นทางอาลัย (Path of Mourning)

ในแผนที่นี้จะไม่มีอะไรสำคัญเลยให้เราเดินทางเพื่อหาทางไปยังแผนที่ต่อไป เดชาร์ (The Spires of Deshar) เมื่อมาถึงแล้ว ในแผนที่นี้ให้เราสำรวจจนเจอเข้ากับสถานที่ที่ชื่อว่า อารามแห่งพี่น้อง (Shrine of the Sisters) ซึ่งจะมีแท่นอยู่ตรงกลางที่ชื่อว่า พี่น้องการูคาน (Sisters of Garukhan) ให้กดที่มันแล้วเราจะได้รับ ค่าต้านทานสายฟ้า 10% แบบถาวรทันที จากนั้นก็จะมีกลุ่มมอนสเตอร์เข้ามารุมจู่โจมเรา ตรงนี้หากตายก็ไม่เป็นไร เพราะค่าต้านทานสายฟ้าเราจะได้รับมาตอนที่กดที่แท่นทันทีแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือการเดินทางต่อไปยังสุดทางเราจะเจอเข้ากับบอสประจำแผนที่ ทอร์ กัล ผู้เสื่อมทราม (Tor Gul the Defiler) พอเอาชนะได้แล้วก็ให้วาร์ปกลับไปยังคาราวานและพูดคุยกับเช็คเคมาอะชาล่า และกดที่โต๊ะแผนที่ทะเลทราย ไปยัง คาราวานประจัญบาน (The Dreadnought)

สิ่งสำคัญก่อนเข้าสู้บอสคือต้องมากดแท่น พี่น้องการูคาน เพื่อรับค่าต้านทานสายฟ้า 10% แบบถาวร
บอส ทอร์ กัล ผู้เสื่อมทราม

คาราวานประจัญบาน (The Dreadnought)

ในแผนที่นี้จะเป็นทางแคบๆ แล้วมีศัตรูกระโดดเข้ามาหาเราอยู่เรื่อยๆ หาไม่อึดพออาจจะตัวแตกตายได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นอย่ารีบร้อนค่อยๆ เดินเคลียร์มอนสเตอร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอกับแผนที่ต่อไป กองหน้าคาราวานประจัญบาน (Dreadnought Vanguard) สถานการณ์ในแผนที่นี้ก็ยังเป็นอยู่เช่นเดิม แต่ที่สุดทางเราจะได้เจอกับบอสประจำ Act 2 จามันรา อสุรกายคืนร่าง (Jamanra, the Abomination) เมื่อเราเริ่มสู้กับมันไปได้สักพัก จะมีอยู่ 1 ท่าที่มันปล่อยออกมาเรียกทะเลทรายเข้าพัดใส่ครอบคลุมทั้งแผนที่ วิธีหลบก็คือให้เราไปอยู่ข้างหลัง เช็คเคมาอะชาล่า เธอจะปล่อยพลังออกมาต้านการโจมตีนี้ และหลังจากลดเลือดของมันไปได้ประมาณ 50% ก็จะพบกับร่างที่ 2 ของมัน เมื่อปราบมันลงไปได้ ในตอนสุดท้ายให้เราคุยกับ เช็คเคมาอะชาล่า ที่นอนอยู่ เธอจะเป็นคนลงดาบสุดท้ายเพื่อฆ่าบอส หลังจากนั้นก็ให้คุยกับเช็คเคมาอะชาล่าอีกครั้ง แล้ววาร์ปกลับไปยังคาราวาน เมื่อกลับมาแล้วจะพบว่า ผู้คลุมกายจะไม่อยู่ในตำแหน่งเดิม และกองคาราวานกำลังจอดนิ่งอยู่ ให้เราเดินไปทางฝั่งซ้ายของกองคาราวาน จะมีทางเดินไปต่อบนพื้น ก็ให้เราเดินไปตามทางจนสุดจะเข้าสู่ อารามแห่งการูคาน (Shrine of Garukhan) ซึ่งผู้คลุมกายก็จะยืนอยู่ ให้คุยกับเขา เมื่อคุยเสร็จแล้วก็ให้กลับไปคุยกับเช็คเคมาอะชาล่า แล้วเลือก เดินทางไปยังบึงพัดทราย (Travel to the Sandswept Marsh) เพื่อเข้าสู่ Act 3

เมื่อบอสใช้ท่าพัดทรายทั้งฉาก อะชาล่าเธอจะมากางโล่ ให้หลบอยู่หลังเธอเพื่อความปลอดภัย
เมื่อเอาชนะบอสได้แล้ว สัญลักษณ์เควสจะปรากฏขึ้นที่อะชาล่า ให้คุยกับเธอ

บทสรุป Act 3

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.