บทสรุป Act 1

เมื่อสร้างตัวละครเสร็จแล้ว จะมาถูกส่งมาที่ ริมตลิ่ง (The RiverBank) ภายในแผนที่นี้จะเหมือนเป็นระบบฝึกสอนเบื้องต้นบางอย่าง นอกจากนั้นแนะนำให้กดปุ่ม Z บนคีย์บอร์ด 1 ครั้ง จะทำให้เราเห็นชื่อไอเทมที่ตกอยู่บนพื้นตลอดเวลา (สามารถเปิด/ปิด การเห็นชื่อนี้ได้ด้วยการกดปุ่ม Z) ทีนี้ให้เราพยายามวิ่งไปจนเจอเข้ากับบอสประจำฉาก เจ้าของโรงสีขึ้นอืด (The Bloated Miller) เมื่อเอาชนะมันได้แล้วจะเปิดทางเข้าไปสู่ ค่ายเคลียร์เฟล (Clearfell Encampment)

เมื่อมาถึงค่ายแล้วให้คุยกับ เรนลีย์ (Renly) แล้วเราจะได้รับ หินสกิลหยาบ (Uncut Skill Gem) เลเวล 1 มา ก็ให้กดใช้เพื่อปลดสกิลทั่วไปมาใช้เพิ่มอีก 1 สกิล สำหรับหินสกิลหยาบนี้ ถ้าเลือกสกิลมาผิด หรือใช้แล้วไม่ค่อยชอบก็ไม่เป็นไร ทนๆ ใช้ไปก่อนช่วงแรก หินสกิลหยาบนี้ไม่ได้หายากมันจะตกมาจากมอนสเตอร์อยู่เรื่อยๆ ใช้ได้เลยไม่ต้องเสียดาย จากนั้นให้ไปคุยกับ อูน่า (Una) แล้วเราจะได้รับเควสมาเพิ่มอีกหนึ่งเควส ทีนี้ก็ให้ออกจากค่ายเคลียร์เฟลนี้ไปทางด้านบน ก็จะเข้าสู่แผนที่ เคลียร์เฟล (Clearfell)

เคลียร์เฟล (Clearfell)

หลังจากแผนที่นี้เป็นต้นไป แนะนำให้พยายามเดินสำรวจให้ทั่วทั้งแผนที่ ฆ่าศัตรูทุกตัวที่เจอ เมื่อสำรวจทั่วทั้งแผนที่แล้ว ค่อยเข้าไปแผนที่ใหม่ การทำแบบนี้จะช่วยทำให้เราค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับตัวเกมและช่วยเพิ่มเลเวล ฟาร์มอุปกรณ์ให้กับเราด้วยเช่นกัน สำหรับอุปกรณ์ที่เจอหากเป็นชื่อสีทองและเราไม่ต้องการใช้งานมัน ให้ไปคุยกับอูน่าแล้วเลือกหัวข้อ สลายไอเทม (Disenchant Items) ทีนี้นำไอเทมชื่อสีทองใส่ลงไป แล้วเราจะได้รับ เศษ Regal (Regal Shard) มา ซึ่งเศษ Regal นี้ เมื่อรวบรวมครบ 10 อัน มันจะกลายเป็น Regal ซึ่งพอมูลค่าอยู่บ้าง และสามารถใช้งานมันเพื่อทำให้ไอเทมชื่อสีขาวกลายเป็นสีทองได้เลย แนะนำให้เก็บเอาไว้ไปกดใช้ใส่ ศิลานำทาง (Waystone) ในช่วงท้ายเกมการเล่นใน Atlas

ทีนี้ในแผนที่เคลียร์เฟลสิ่งที่สำคัญที่เราต้องทำก็จะมี

1. ปราบ เบย์ร่าแห่งฝูงหมาป่าสามานย์ (Beira of the Rotten Pack) จะได้รับไอเทมที่เพิ่มค่าต้านทานธาตุน้ำแข็ง 10% แบบถาวร
2. ลงไปในโพรงโคลน (Mud Burrow) ปราบ ตัวสวาปาม (The Devourer) เสร็จแล้วให้กลับไปหา เรนลีย์ ที่ค่ายเคลียร์เฟล จะได้รับ หินเสริมหยาบ (Uncut Support Gem) เลเวล 1 สำหรับหินเสริมนี้จะปลดล็อคเพื่อนำหินเสริมความสามารถของสกิลต่างๆ มาใช้งานได้
3. เข้าสู่ป่าเกรลวูด (The Grelwood)

*ข้อ 1 กับ 2 ทำอะไรก่อนหรือหลังก็ได้ พอเสร็จทั้ง 1 และ 2 แล้วค่อยทำข้อ 3

ภายในป่าเกรลวูด (The Grelwood)

1. ปราบ ภูติไม้หนาม (The Brambleghast) 
2. หากระท่อมที่มี หม้อต้ม (Cauldron) ให้เจอ จะเป็นกระท่อมที่มีจุดเช็คพอยน์อยู่ข้างหน้า ให้เข้าไปข้างในกดที่หม้อต้ม จะได้รับขวดยา พอออกมานอกบ้านเราจะพบกับบอสที่ชื่อ อาเรียกน์ แม่มดผู้ถูกลืม (Areagne, Forgotten Witch) ปราบมันให้ได้
3. ตามหาทางลงไปยัง คูน้ำเคี้ยวคด (The Grim Tangle) และเปิดเวย์พอยต์ภายในนั้น
4. ตามหาต้นไม้ใหญ่ที่มีชายที่ชื่อ ผู้คลุมกาย (The Hooded One) ถูกแขวนคออยู่ ให้เราทำการเปิดเวย์พอยต์ที่อยู่ในบริเวณนั้น แล้วกดไปที่ เรียกอูน่า (Summon Una) ออกมา จากนั้นก็คุยกับเธอ แล้วเราจะได้รับเควสใหม่ให้ไปที่ห้วยสีชาด (Red Vale)
5. หาทางไปที่แผนที่ ห้วยสีชาด (Red Vale)

*ข้อ 1 ถึง 4 ทำอะไรก่อนหรือหลังก็ได้ พอเสร็จทั้งหมดแล้วค่อยทำข้อ 5

ห้วยสีชาด (The Red Vale)

ในแผนที่เราจะต้องตามหาเสาหินสนิม (Obelisk of Rust) ให้เจอและกดเพื่อปลดผนึกมัน จากนั้นก็จะมีมอนสเตอร์ออกมาเป็นจำนวนมาก ปราบให้หมด จะเป็นการคลายผนึกออก แล้วเราจะได้รับไอเทมที่ชื่อว่า สายรัดสลักอักขระ (Runed Girdle) ทีนี้ก็ให้เราไปตามเสาหินสนิมอันต่อไป และทำแบบเดิม พอคลายผนึกออกก็จะได้รับไอเทมที่ชื่อว่า โกร่งดาบสลักอักขระ (Runed Guard) ส่วนเสาหินสนิมอันที่ 3 ที่เราเจอ เมื่อปลดผนึกมันเราจะเจอกับบอสที่ชื่อว่า กษัตริย์สนิม (The Rust King) ปราบมันให้ได้แล้วเราจะได้รับ หมวกสลักอักขระ (Runed Skull Cap) เมื่อรวบรวมไอเทมจากเสาครบทั้ง 3 อันแล้ว ให้กลับไปที่ค่ายเคลียร์เฟล

จากนั้นไปคุยกับ เรนลีย์ ที่อยู่ด้านบนของค่าย เขาจะทำการหลอมไอเทมทั้ง 3 ให้กลายเป็น เหล็กแหลมสลักอักขระ (Runed Spikes) เมื่อได้ไอเทมมาแล้ว ให้เดินไปที่จุด เวย์พอยน์ (Waypoint) ที่อยู่ทางด้านล่างของค่าย ใช้มันแล้ววาร์ปไปยัง ป่าเกรลวูด (The Grelwood) 

เมื่อมาถึงแล้วก็ให้คุยกับ อูน่า จากนั้นเดินไปยังจุดที่มีอักขระเวทมนตร์ตรงรากไม้ทั้ง 3 จุด เพื่อใช้เหล็กแหลมที่ได้รับมา ตอกใส่อักขระเวทมนตร์ หลังจากทำครบทั้ง 3 จุดแล้ว ชายในชุดคลุมดำจะตกลงมา

ทีนี้ก็ให้เรากลับไปที่ค่ายเคลียร์เฟล คุยกับอูน่า จากนั้นก็ให้ไปคุยกับเรนลีย์ด้วย ทีนี้เควสก็จะอัพเดทเป้าหมายใหม่ทั้ง 2 อย่าง ให้เราใช้เวย์พอยน์วาร์ปไปยังคูน้ำเคี้ยวคด (The Grim Tangle)  เมื่อมาถึงแล้วก็กดไปยังจุด เรียกอูน่า (Summon Una) แล้วกดคุยกับเธออีกที ทีนี้เธอจะใช้มนต์โบราณเปิดทางให้กับเรา ในบริเวณพื้นที่ใหม่นี้ ให้เดินไปปราบบอสที่ชื่อ ดรูอิดกายเปื่อย (The Rotten Druid) เสร็จแล้วก็ค่อยเดินหาทางเข้าสู่แผนที่ สุสานชาวนิรันดร์ (Cemetery of the Eternals)

สุสานชาวนิรันดร์ (Cemetery of the Eternals)

เมื่อขึ้นมาถึงบริเวณนี้ให้เข้าไปคุยกับ ลาคแลนน์ ผู้พลัดพราก (Lachlann the Lost) จากนั้นเราจะต้องลงไปยังหลุมฝังศพ 2 จุด

1. หลุมฝังศพภริยา (Tomb of Consort) พอเข้ามาแล้วก็เดินสำรวจไปจนเจอเข้ากับบอส อะซีเนีย ภริยาข้าหลวง (Asinia, The Praetor’s Consort) ปราบเธอให้ได้ แล้วจะได้รับ ชิ้นส่วนกุญแจอนุสรณ์ของอะซีเนีย (Asinia’s Memorial Key Piece)
2. อนุสาวรีย์บรรจุศพข้าหลวง (Mausoleum of the Praetor) พอเข้ามาแล้วก็เดินสำรวจไปจนเจอเข้ากับบอส เดรเวน ข้าหลวงนิรันดร์ (Draven, The Eternal Praeto) ปราบเขาให้ได้ แล้วจะได้รับ ชิ้นส่วนกุญแจอนุสรณ์ของเดรเวน (Draven’s Memorial Key Piece)

เมื่อรวบรวมกุญแจจากทั้ง 2 หลุมฝังศพครบแล้วให้กลับไปคุยกับ ลาคแลนน์ ผู้พลัดพราก จากนั้นให้เราเดินไปเปิด ประตูอนุสรณ์ (Memorial Gate) ที่อยู่ด้านบน จากนั้นก็ให้เดินตามลาคแลนน์ไป ทีนี้ลาคแลนน์จะกลายร่างเป็นบอสที่ชื่อว่า ลาคแลนน์ ผู้ไม่สิ้นโศกา (Lachlann of Endless Lament) เข้าต่อสู้กับเราแทน เมื่อปราบเขาได้แล้วเราจะได้รับ แหวนของเคานต์ลาคแลนน์ (Count Lachlann’s Ring)

ทีนี้ก็ให้เราเดินขึ้นไปด้านบนจะเข้าสู่แผนที่ แดนนักล่า (Hunting Grounds) เดินตรงไปเล็กน้อยเพื่อปลดเวย์พอนต์แล้ววาร์ปกลับไปยังค่ายเคลียร์เฟลก่อน เมื่อกลับมาถึงค่ายแล้วให้คุยกับ ฟินน์ (Finn) เพื่อรับภารกิจใหม่ จากนั้นคุยกับ อูน่า เพื่อส่งแหวนของเคานต์ลาคแลนน์ให้กับเธอ แหวนวงนี้จะสลายคาถาผนึกให้กับผู้คลุมกาย พอผนึกปลดแล้วก็ให้คุยกับอูน่าอีกที เธอจะมอบเควสใหม่ให้กับเรา จากนั้นก็ให้คุยกับ ผู้คลุมกาย หลังจากนี้ไป เราสามารถคุยกับผู้คลุมกายแล้วเลือก ตรวจสอบไอเทม เพื่อให้ผู้คลุมกายทำการตรวจสอบไอเทมทั้งหมดที่เรามีได้ทันที ไม่จำเป็นต้องใช้ Scroll of Wisdom เพื่อตรวจสอบไอเทมทีละชิ้นเองแล้ว นับว่าสะดวกรวดเร็วมากๆ แถมหากเรากดปุ่ม Ctrl ค้างแล้วกดคลิ๊กซ้ายที่ตัวผู้คุลมกาย จะเป็นการตรวจสอบไอเทมทั้งหมดได้ทันทีเช่นกัน วิธีนี้รวดเร็วกว่าการกดคุยแล้วเลือกเมนู ตรวจสอบไอเทมเสียอีก นอกจากนั้นหากเราทำการกดปุ่ม Ctrl ค้างแล้วคลิ๊กซ้ายที่อูน่า จะเป็นการเรียกใช้งานเมนู สลายไอเทม ทันทีเช่นกัน เสร็จธุระที่นี่แล้วก็ให้ใช้งานเวย์พอยต์แล้ววาร์ปไปยังแดนนักล่า

แดนนักล่า (Hunting Grounds)

ในแผนที่แดนนักล่าสิ่งที่เราต้องทำก็มีอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว

1. ค้นหาบอสที่ชื่อ โครวเบลล์ (The Crowbell) และปราบมันให้ได้ จะได้รับ คัมภีร์เฉพาะทาง (Book of Specialisation) เมื่อกดใช้จะได้รับ แต้มพาสซีฟชุดอาวุธ 2 แต้มแบบถาวร
2. ค้นหา แท่นพิธีกรรม เมื่อเจอแล้วให้กดที่แท่นเพื่อเริ่มพิธีกรรม ฆ่ามอนสเตอร์ให้หมด เสร็จแล้วจะมีจุดที่ให้ เรียกฟินน์ (Summon Finn) ออกมาได้ ทีนี้ก็ให้คุยกับฟินน์แล้วเราจะได้รับเบาะแสใหม่ ให้ค้นหาทางเข้าค้นหาทางเข้าสู่แผนที่ ชายคาเฟรย์ธอร์น (Freythorn)
3. เข้าสู่แผนที่ ชายคาเฟรย์ธอร์น (Freythorn) ค้นหาแท่นพิธีกรรม และทำพิธีกรรมปราบมอนสเตอร์ให้เสร็จทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน โดยจุดที่ 4 จุดสุดท้ายเราจะได้เจอกับบอสที่ชื่อว่า ราชันในม่านหมอก (The King in the Mist) เมื่อเอาชนะมันได้จะได้รับไอเทมที่ชื่อว่า กะโหลกงอกมณี (Gembloom Skull) หลังจากกดใช้จะได้รับค่าพลังวิญญาณ(Spirit) 30 หน่วยแบบถาวร และจะได้รับ หินพลังวิญญาณหยาบ (Uncut Spirit Gem) เลเวล 4 ก็ให้กดใช้เพื่อนำสกิลบัฟมาเปิดใช้งานได้เลย ซึ่งสกิลจากหินพลังวิญญาณหยาบนี้เวลาเปิดใช้งานจะต้องใช้ค่าพลังวิญญาณที่เราพึ่งได้รับมาด้วยนั่นเอง สิ่งที่เราควรต้องระวังก็คือหากเราทำการติดตั้งหินเสริมเข้าไปยังสกิลที่ใช้ค่าพลังวิญญาณ หินเสริมบางตัวจะมีระบุว่าต้องใช้งานพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นด้วย เช่นจากเดิมใช้งานพลังวิญญาณ 30 หน่วย กลายเป็นต้องใช้งานพลังวิญญาณ 40 หน่วยแทน ทำให้เราไม่สามารถเปิดใช้งานสกิลได้ ถ้าพบหินเสริมที่มีลักษณะนี้ก็ให้ถอดมันออกไปก่อน จนกว่าเราจะหาวิธีเพิ่มพลังวิญญาณได้ ซึ่งการเพิ่มพลังวิญญาณจะได้รับจากการทำเควสใน Act 3 และ Act 6 นอกจากนั้นก็คือออฟชั่นใน เสื้อเกราะ, อาวุธประเภท คทา (Scepter) และ สร้อย (Amulet) เมื่อเสร็จแล้วหากเรากดที่แท่นพิธีกรรม จะเห็นว่าเราจะมีแต้มบรรณาการอยู่จำนวนหนึ่ง สามารถใช้งานเพื่อแลกรับไอเทมได้ ตรงจุดนี้เราจะแลกไอเทมหรือไม่แลกก็ได้ไม่เป็นไร เพราะไอเทมไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ส่วนแต้มก็ปล่อยทิ้งเอาไว้เลยก็ได้ไม่ต้องเสียดาย ต่อมาให้คุยกับฟินน์เพื่อจบเควสแล้วเราจะสามารถเลือกรับของรางวัลได้ โดยให้เรากดเลือกรับ Sapphire Charm ที่อยู่ตรงกลางมา เนื่องด้วยบอสประจำ Act 1 นี้จะโจมตีเป็นธาตุน้ำแข็ง ซึ่งของรางวัลนี้มันจะเพิ่มค่าต้านทานธาตุน้ำแข็งให้กับเราก็กดสวมใส่ได้เลย
4. ค้นหาทางเข้าสู่แผนที่ ถิ่นเพาะปลูกอ็อกแฮม (Ogham Farmlands)

*ข้อ 2 สามารถข้ามได้เลย ให้ทำข้อ 1 และ 3 ให้เสร็จก่อน จากนั้นค่อยทำข้อ 4

ถิ่นเพาะปลูกอ็อกแฮม (Ogham Farmlands)

ในแผนที่นี้จะมีสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำอยู่ 1 อย่างเท่านั้น แล้วค่อยไปสู่แผนที่ต่อไป

1. ค้นหาบ้านของอูน่า (Una’s Home) ให้เจอ โดยภายในบ้านของเธอจะมีกล่องลูทของอูน่า (Una’s Lute Box) อยู่ เปิดมันแล้วเราจะได้รับ ลูทของอูน่า (Una’s Lute) ทีนี้ก็ให้วาร์ปกลับไปยังค่ายเคลียร์เฟล มอบลูทให้กับอูน่า เราจะได้รับ คัมภีร์เฉพาะทาง (Book of Specialisation) มาเป็นรางวัลก็ให้กดใช้เพื่อรับ แต้มพาสซีฟชุดอาวุธ 2 แต้มแบบถาวร มาได้เลย
2. ค้นหาทางเข้าสู่แผนที่ หมู่บ้านอ็อกแฮม (Ogham Village)

หมู่บ้านอ็อกแฮม (Ogham Village)

แผนที่นี้จะมี 2 อย่างให้เราทำก่อนจะเข้าสู่คฤหาสน์ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของ Act 1 นี้แล้ว

1. ค้นหาโรงเหล็กของเรนลีย์ (Renly’s workshop) ให้เจอ ภายในนั้นเราจะได้รับ เครื่องมือตีเหล็ก (Renly’s Tools) จากนั้นให้วาร์ปกลับไปยังค่ายเคลียร์เฟล คุยกับ เรนลีย์ แล้วเราจะปลดล็อคสิ่งที่เรียกว่า โต๊ะรื้อ (Salvage Bench) มันจะอยู่บริเวณทางซ้ายมือจาก เรนลีย์ โต๊ะรื้อนี้สำคัญมาก หลังจากนี้เป็นต้นไป เมื่อเราเจอกับไอเทมที่มีรู (Socket) หรือไอเทมที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า Superior ให้เก็บไอเทมนั้นกลับมา แล้วนำมันมายังโต๊ะรื้อ เพื่อย่อยไอเทมเหล่านั้น โดยหากเราย่อยไอเทมที่มีรู จะได้รับเป็น Artificer’s Shard เมื่อรวบรวมครบ 10 จะกลายเป็น Artificer’s Orb ไอเทมชิ้นนี้เมื่อกดใช้จะเป็นการทำให้ไอเทมที่กดใช้ใส่มีรูขึ้นมาทันที เป็นไอเทมที่สำคัญมาก และถูกใช้ค่อนข้างบ่อยเมื่อเราอยากทำการพัฒนาอาวุธและอุปกรณ์ หากทำการย่อยไอเทมที่มีชื่อ Superior นำหน้า ถ้าเป็นอาวุธเราจะได้รับ Blacksmith’s Whetstones ไอเทมชิ้นนี้เมื่อกดใช้ใส่อาวุธ มันจะเพิ่มค่า Quality ให้กับอาวุธทำให้โจมตีได้แรงขึ้น โดยสามารถเพิ่มค่า Quality นี้ได้สูงสุดที่ 20% ส่วนถ้าเป็นอุปกรณ์สวมใส่จะได้รับเป็น Armourer’s Scraps ไอเทมชิ้นนี้เมื่อกดใช้ใส่อุปกรณ์สวมใส่ มันจะเพิ่มค่า Quality ให้ โดยสามารถเพิ่มค่า Quality นี้ได้สูงสุดที่ 20% เช่นกัน โปรดจำไว้เลยว่าต่อไปนี้ถ้าหากเจอไอเทมที่มีรู และมีคำว่า Superior นำหน้าให้นำกลับมาย่อยที่ โต๊ะรื้อ ด้วย
2. เข้าสู่ลานมรณะ (Courtyard of Death) ปราบบอส เพชฌฆาต (The Executioner) เสร็จแล้วให้เดินขึ้นไปด้านบน แล้วดึงคันโยก (Lever) เพื่อปลดปล่อยเลทิส (Leitis) จากการถูกจับกุม จากนั้นก็ให้คุยกับเลทิส
3. เดินเข้าสู่ ปราการคฤหาสน์ (The Manor Ramparts) จากนั้นวาร์ปกลับไปยังค่ายเคลียร์เฟล พูดคุยกับเลทิส แล้วจะได้รับ หินสกิลหยาบ เลเวล 5 ก็ให้กดใช้เพื่อปลดล็อคสกิลระดับใหม่ได้เลย จากนั้นก็ให้คุยกับเธออีกครั้งเพื่อรับเควสใหม่ที่ให้เราเข้าไปยังคฤหาสน์ ก็ให้เราวาร์ปกลับไปยัง ปราการคฤหาสน์ได้เลย

ปราการคฤหาสน์ (The Manor Ramparts)

สถานที่แห่งนี้ไม่มีอะไรมากเป็นแค่เพียงทางผ่าน ให้เราสำรวจแผนที่ไปเรื่อยจนกระทั่งเจอเข้ากับทางไปสู่แผนที่ต่อไป คฤหาสน์อ็อกแฮม (Ogham Manor)

คฤหาสน์อ็อกแฮม (Ogham Manor)

นี้คือแผนที่สุดท้ายก่อนจบ Act 1 และเราจะได้เจอกับบอสประจำ Act สุดโหดที่ค่อนข้างท้าทายความสามารถอยู่พอสมควรหากเตรียมอาวุธและชุดเกราะมาไม่ดีพอ อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการปราบมัน แต่ก่อนที่จะเจอกับบอสแนะนำให้ไปปราบรองบอสที่อยู่ในแผนที่นี้ก่อนด้วย

1. ค้นหาบอสที่ชื่อว่า แคนเดิลแมส พิธีกรรมเดินดิน (Candlemass the Living Rite) ให้เจอและปราบมัน โดยมันจะอยู่ในชั้น 1 นี่แหละ หากเจอบันได (Stairs) ลงไปยังชั้นต่อไป ก็อย่าพึ่งเข้าไปให้ตามหาบอสเจอและปราบมันก่อน เมื่อเอาชนะมันได้จะได้รับ แก่นแท้ของแคนเดิลแมส (Candlemass’ Essence) เมื่อกดใช้จะเพิ่ม HP สูงสุดให้กับเรา 20 หน่วยแบบถาวร
2. ลงบันไดไปยังชั้นล่าง โดยเราจะต้องหาทางลงบันไดให้ครบ 2 ครั้ง พอถึงชั้นล่างสุดแล้ว เดินไปจนสุดทางก็จะพบกับลิฟที่ส่งเราลงไปยัง ลานประลอง ซึ่งเราจะได้พบกับบอสประจำ Act 1 ที่ชื่อว่า เคานต์จีโอนอร์ (Count Geonor) มันจะมี 2 ร่าง ให้พยายามเอาชนะมันให้ได้ แนะนำให้พยายามเรียนรู้รูปแบบการโจมตีแล้วคอยหลบหลีก หากพบว่าตายบ่อยก็นับว่าเป็นเรื่องปกติอย่าพึ่งท้อ หรือถ้าสุดจะทนแล้วจริงๆ ก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เล่นคนอื่นในช่องแชทได้เช่นกัน สุดท้ายเมื่อเอาชนะบอสได้แล้ว ผู้คลุมกายจะปรากฏตัวออกมา ทำการปลิดลมหายใจของเคานต์จีโอนอร์ เสร็จแล้วก็ให้เรากลับไปที่ค่ายเคลียร์เฟล พูดคุยกับทุกคน และสุดท้ายให้คุยกับ ผู้คุมกาย (The Hooded One) แล้วเลือกหัวข้อ ตามรอยบีสต์ (Follow the Beast’s trail) ก็จะเข้าสู่ Act 2 ทันที

บทสรุป Act 2