สำหรับเกมเมอร์มือใหม่หรือคนที่คิดกำลังจะหาเครื่องเล่นเกมดีๆ สักเครื่องก็คงอยากศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเครื่องเล่นเกม ที่เรียกโดยรวมกันว่าเครื่อง Console ในยุคสมัยนี้ หลักๆ แล้วก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ค่ายด้วยกันก็คือ PlayStation และ Xbox ทั้ง 2 ค่ายนี้ก็จะมีระบบที่แตกต่างกันออกไป หากเราซื้อเกมในระบบของ PlayStation มันจะไม่สามารถใช้ร่วมกับ Xbox ได้เลย ส่วนที่เราแนะนำเฉพาะฝั่ง PlayStation นั้นเป็นเพราะว่าตัวผู้เขียนเอง เคยจับแต่เฉพาะใน PlayStation เท่านั้น และมันได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศไทย อีกทั้งยังมี Official Store และตัวแทนอยู่เยอะมาก ทำให้มันไม่ค่อยยุ่งยากในเรื่องของการซื้อและการเคลมเวลาที่เครื่องหรือจอยเกมมีปัญหา
PlayStation 5
สำหรับเครื่องเล่นเกมอันดับ 1 ของไทยเราที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น PlayStation 5 หรือ PS5 นั่นแหละ สำหรับ PS5 ตอนนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยกันก็คือ PS5 Pro, PS5 Slim และ PS5 ตัวธรรมดา (ตัวนี้จะหาซื้อแบบ Official ไม่ได้แล้ว เพราะถูกแทนที่ด้วย PS5 Slim) สำหรับเกมในตัว PS5 นั้นจะสามารถเล่นเกมของ PS4 ได้ทั้งหมด (ยกเว้นเกมเก่ามากๆ บางเกมที่ไม่สามารถเล่นได้)

PlayStation 5 Slim
สำหรับตัว PS5 Slim นี้มันก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ ก็คือ
– เครื่องที่ใส่แผ่นเกมได้จะเรียกว่า PlayStation 5 Slim Disc Edition (ราคา 18,690 บาท)
– เครื่องที่ไม่มีช่องใส่แผ่นเกมจะมีชื่อว่า PlayStation 5 Slim Digital Edition (ราคา 15,690 บาท)

ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อแบบออนไลน์จะต้องสังเกตุชื่อของทั้ง 2 รุ่นนี้ให้ดี ระหว่าง Disc Edition กับ Digital Edition เพราะตัวหนึ่งมีช่องใส่แผ่นมาให้ กับอีกตัวคือไม่มีช่องใส่แผ่น หากซื้อแบบไม่มีช่องใส่แผ่น ถ้าจะเล่นเกมก็ต้องซื้อเกมผ่าน Store แล้วดาวน์โหลดมาเล่นเท่านั้น แต่กรณีที่ใครซื้อแบบไม่มีช่องใส่แผ่นแล้วเกิดอยากใส่แผ่นขึ้นมาทีหลังก็ต้องทำการซื้ออุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า PlayStation5 Disc Drive ราคาอยู่ที่ 3,790 บาท มาต่อเข้ากับเครื่องที่ไม่มีช่องใส่แผ่น ทีนี้มันก็จะสามารถใส่แผ่นเล่นเกมได้ตามปกติแล้ว สำหรับข้อดีของการมีช่องใส่แผ่นหลักๆ เลยก็คือ เรื่องของแผ่นเกมมือ 2 ที่ราคาจะถูกกว่าแผ่นเกมมือ 1 ยิ่งเป็นเกมเก่าก็จะมีราคาที่ถูกมาก แต่หากอยากเล่นเกมใหม่ๆ แล้วรอแผ่นมือ 2 บางเกมที่นิยมราคาก็จะไม่ค่อยแตกต่างจากมือ 1 มากนัก อาจจะถูกกว่าประมาณ 200 – 500 บาท ส่วนข้อดีอีกหนึ่งอย่างก็คือ คุณค่าทางใจ เอาไว้เก็บสะสม หากใครจัดห้องเล่นเกมหรือโซนเล่นเกมเอาไว้อย่างดี แค่เรามองเห็นแผ่นเกมเรียงกันมันก็รู้สึกใจฟูแล้วล่ะ
PlayStation 5 Pro
สำหรับตัวนี้เป็นรุ่นออกใหม่ล่าสุดเสนอราคาอยู่ที่ 29,490 บาท ราคาแพงกว่าตัว Slim ถึง 2 เท่าด้วยกัน แถมตัวมันจะเป็นรุ่นแบบ Digital Edition เท่านั้น ก็คือไม่มีช่องใส่แผ่นเกมมาให้ หากต้องการใส่แผ่นก็จะต้องซื้อ PlayStation 5 Disc Drive มาต่อเสริม (สามารถใช้ได้กับตัวที่ต่อกับรุ่น Slim) จุดเด่นหลักของมันก็คือเครื่องที่มีความแรงมากกว่าตัว Slim ทำให้บางเกมภาพจะสวยกว่าและบางเกมจะรันที่ 60 FPS ส่วนใน Slim อาจจะรันอยู่แค่ 30 FPS เป็นต้น นอกจากนั้นนี้ข้อดีหลักๆ ของมันอีกอย่างหนึ่งก็คือใช้เวลาในการโหลดเข้าเกม โหลดระหว่างฉาก เร็วขึ้นกว่า Slim แน่นอน ใครที่เงินถึงก็แนะนำให้ซื้อตัว Pro ไปเลยก็ได้

PlayStation 4
เครื่อง PlayStation 4 มันตกรุ่นไปแล้ว ไม่สามารถหาซื้อจาก Official Store ได้ แต่หากต้องการซื้อก็สามารถหาซื้อตามร้านขายเกมทั่วไปได้อยู่ สำหรับ PS4 นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยเช่นกันก็คือ PS4 Pro, PS4 Slim และ PS4 ตัวธรรมดา รุ่นย่อยนี้ก็จะเหมือนกับ PS5 ด้านบนเลย เพียงแต่ PS4 ทุกเครื่องจะมีช่องใส่แผ่นทั้งหมด ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง PS4 และ PS5 เลยก็คือเรื่องของเกม ตอนนี้จะมีบางเกมที่รองรับเฉพาะ PS5 เท่านั้น ออกมาจำหน่ายบ้างแล้ว และในอนาคตมันก็จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ หากใครเป็นมือใหม่ก็ไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อ PS4 เท่าไหร่นัก อยากแนะนำให้ไปซื้อ PS5 เลย เพราะเครื่อง PS4 มือหนึ่งราคามันจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 – 12,000 บาท ด้วยราคาที่สูงถ้าอยากจะซื้อมือหนึ่งก็เลยแนะนำให้ซื้อ PS5 ไปเลยจะดีกว่าเพียงแต่สำหรับคนงบน้อยจริงๆ ก็แนะนำให้ซื้อเครื่อง PS4 มือสองแทน ราคาตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 6,000 บาท

 
				 
															 
								 
															 
								