บทที่ 6 ธารน้ำแข็งละลาย
ในเช้าวันต่อมาด็อกเตอร์เบคอนจะขับเรือเข้ามาถามว่าตอนนี้ทุกอย่างโอเคมั้ย เดฟก็เลยเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ได้เปิดทางเดินเข้าไปสู่ส่วนพื้นที่ธารน้ำแข็งแล้ว แต่ก็สำรวจไปต่อไม่ได้เพราะว่ามันเย็นเกินไป ด็อกเตอร์เบคอนก็เข้าใจ เดฟเลยเล่าต่อว่าได้รับผ้ามาจากชาวทะเลแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ด็อกเตอร์เบคอนพอได้จับผ้าก็รู้สึกว่ามันอุ่นดี แถมเขาก็ได้รับเครื่องช่วยหายใจมาจากในถ้ำ แต่ขาดชิ้นส่วนเครื่องกลไป หากนำมารวมกันก็น่าจะสร้างชุดที่ป้องกันความเย็นได้ คอบร้าก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีชิ้นส่วนเครื่องกลอยู่พอดีได้มาจากชุดของจอห์น วัตสัน ด็อกเตอร์เบคอนก็บอกว่าชิ้นส่วนเป็นตัวปรับความดันน้ำอัตโนมัติ ใช้งานได้พอดี แต่ชิ้นส่วนมันได้รับความเสียหายมากไปหน่อย คงจะใช้มันไม่ได้ไม่ได้รับการซ่อมแซม ถ้าได้อันใหม่คงจะดีกว่า คอบร้าก็นึกไอเดียอะไรดีๆ ออก แต่ก็ยังไม่เฉลยว่าคืออะไร ให้เดฟมาพบกันตอนเย็นก็พอ ระหว่างนี้เขาจะไปเตรียมตัวก่อน เดฟก็บอกว่ารู้สึกไม่ดีเรื่องนี้เลย

เมื่อมาถึงตอนเย็นเดฟก็ถามว่าไอเดียของคอบร้าคืออะไรล่ะ คอบร้าก็เลยบอกว่ามันคือการลอบเข้าไปในฐานทัพของซีบลูเพื่อเอาชิ้นส่วนเครื่องกลมายังไงล่ะ พวกซีบลูน่ะคอยตรวจตราทะเลแถวนี้อยู่เสมอโดยใช้โดรนในตอนกลางคืน ถ้าตามโดรนนั่นไปก็น่าจะเจอฐานทัพของซีบลูได้ไม่ยาก เดฟเลยบอกว่าฟังดูเป็นเรื่องอันตรายอีกแล้ว คอบร้าเลยบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงไป คราวนี้เขาได้เตรียมชุดแทรกซึมที่มีลายพรางเอาไว้ให้แล้ว ถึงแม้จะรับประกันไม่ได้ก็เถอะว่าพวกมันจะไม่สังเกตุเห็นนาย แต่ตอนนี้มันยังมืดไม่พอไว้รอถึงตอนที่มันมืดกว่านี้ค่อยมาเจอกันใหม่ ทีนี้ก็ให้เราเข้าไปทำงานที่ร้านซูชิหรือลงทะเลก่อนก็ยังได้ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะมาพบกับคอบร้าอีกครั้ง

คราวนี้เราจะต้องลงไปในน้ำแล้วจะเจอเข้ากับโดรน ให้เราพยายามจับตาดูมันอยู่ห่างๆ ตามมันไปเรื่อยๆ แต่ห้ามเข้าใกล้มันมากเกินไป ไม่อย่างงั้นตัวโดรนจะจับเราได้แล้วจะต้องกด Restart เพื่อเริ่มใหม่ พอตามไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็จะแทรกซึมเข้ามาในฐานทัพของซีบลูได้

เมื่อเข้ามาในฐานทัพจะเห็นว่ามันคือโรงงานผลิตเนื้อโลมา มีพวกโจรสลัดถือปืนเฝ้าอยู่ด้วย ทำให้เดฟข้อใจขึ้นมาทันที ฉากหน้าของซีบลูคือองค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแต่เบื้องหลังทำแบบนี้อย่างงั้นหรอ แต่ก็เป็นเรื่องที่เดฟทำอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจที่ทำตามแบบเดิมคือขโมยชิ้นส่วนเครื่องกล ในฐานทัพนี้จะเป็นเหมือนมินิเกมที่ให้เราลอบขึ้นไปยังบนสุดให้ได้ โดยที่ไม่ปล่อยให้พวกโจรสลัดเจอตัว ให้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในฉากเป็นที่หลบหลีก

เพียงแต่จะมีส่วนสำคัญก็คือเมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 แล้ว เมื่อเดินมาตรงกลางๆ หน่อย เราจะเจอเข้ากับ เสบียงอาหาร (ration) เป็นกล่องสีน้ำตาลเล็กๆ อันนี้ถ้าใครเป็นสายเก็บถ้วย (Trophy/Achievement) เราจะต้องทำการกินเสบียงอาหารนี้ด้วย เพราะมันเป็นหนึ่งในถ้วยที่พลาดได้ หากพลาดตรงนี้ไปจะทำให้ต้องโหลดเซฟหรือเล่นรอบใหม่เลย

เมื่อเราเดินมาจนเจอเข้ากับห้องสีเขียวแล้ว ให้สำรวจตรงจุดที่มีแว่นขยายทั้ง 3 อัน เมื่อเสร็จแล้วเดฟก็กำลังจะเอาชิ้นส่วนเครื่องกลแล้วกลับไปนอน แต่ตอนนั้นเองพวกโจรสลัดก็เจอตัวเราเข้าพอดี เดฟก็เลยหยิบชิ้นส่วนให้กระโดดหนีออกไปทางกระจกลงไปในน้ำ หนีรอดกลับขึ้นมาบนเรือได้อย่างปลอดภัย คอบร้าดูแปลกใจที่เดฟกลับมาได้แบบไม่เป็นอะไรเลย เดฟก็เลยบอกว่าทำไมนายทำหน้าทำเสียงเหมือนสงสัยในความสามารถของฉันขนาดนั้นล่ะ คอบร้าก็เลยหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วไปพูดเรื่องชิ้นส่วนเครื่องกลแทน เดฟเลยถามว่าทำไมนายไม่เตือนฉันเรื่องที่จะต้องเจอพวกโจรสลัดติดอาวุธด้วย คอบร้าก็ตอบอย่างสัตย์จริงว่าเขาก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เดฟเลยเล่าให้ฟังว่าที่ฐานทัพมันไม่ปกติขนาดไหน คอบร้าก็เลยได้รู้เช่นกันแล้วว่าองค์กรซีบลูมันไม่ได้เพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เป็นพวกหน้าซื่อใจคด ยิ่งทำให้รู้สึกว่าพวกเขาอันตรายก็เลยเตือนให้เดฟระวังตัวด้วย เสร็จแล้วคอบร้าก็บอกให้แยกย้ายไปพักผ่อนกันดีกว่า

ในตอนเช้าเราก็จะได้มอบชิ้นส่วนเครื่องกลให้กับด็อกเตอร์เบคอน ด็อกเตอร์เบคอนก็บอกกับเราว่าก่อนลงไปสำรวจพื้นที่ธารน้ำแข็ง ควรจะต้องอัพเกรดอุปกรณ์อื่นๆ ให้ดีด้วย ตอนนี้ที่ห้องแล็บได้มีวัสดุใหม่ทำให้เดฟสามารถอัพเกรด Dive Knife ได้ผ่านแอป iDiver นั่นแหละ หากอัพเกรดมีดเป็นเลเวล 3 แล้ว จะทำให้ขุดแร่ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีอีเต้อ ส่วนการผลิตชุดดำน้ำใหม่ให้รออีก 1 วัน

ต่อมาซาโต้จะเข้ามาหาเพื่อแนะนำเกมใหม่ที่ชื่อว่า GYAO! มันเป็นเกมที่ให้เราเลี้ยงปลาแบบดิจิตอลได้ ต้องคอยให้อาหารและเล่นกับมัน จากนั้นมันจะโตและกลายพันธุ์ (มันคือทามาก๊อตจินั่นแหละ) โดยสามารถเข้าไปเล่นได้ในมือถือเลย

โรงตีเหล็กของชาวทะเล (The Sea People’s Workshop)
หลังจากทุกคนไปแล้วคอบร้าก็จะบอกว่าเขาเห็นด้วยกับที่ด็อกเตอร์เบคอนพูดนะ ควรจะทำการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงอาวุธด้วย เดฟก็นึกได้แบบนั้นเลยกะว่าจะโทรหาดัฟฟ์เพื่อปรึกษาในเรื่องนี้ ทีนี้ก็ให้เรากดโทรหาดัฟฟ์ได้เลย เดฟจะเล่าเรื่องที่จะไปสำรวจพื้นที่ธารน้ำแข็งให้ดัฟฟ์ฟัง ดัฟฟ์ก็บอกว่าหากนำแร่แบบใหม่ มาให้เขาได้ก็น่าจะอัพเกรดปืนให้ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน แล้วแนะนำให้ลองไปคุยกับพวกชาวทะเลดูสิ พวกเขาน่าจะมีแร่ใหม่ๆ อยู่บ้าง เดฟก็เลยนึกถึงโรงตีเหล็กที่หมู่บ้านชาวทะเล

ทีนี้ก็ให้เราไปที่หมู่บ้านชาวทะเลแล้วคุยกับดูวาในโรงตีเหล็ก ดูวาเขาจะบอกว่าถึงแม้จะป่วยอยู่แต่ก็สามารถเปิดร้านโรงตีเหล็กได้แล้ว ที่ร้านของดูวานี้เราจะสามารถหาคือวัสดุบางอย่างที่เอาไว้ใช้เพื่อการอัพเกรดและสร้างพวกปืนได้ รวมไปถึงสามารถนำของทั่วไปที่เราไม่ใช้มาขายได้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่อัตราแลกเปลี่ยนที่นี่จะใช้เป็นเหรียญเบี้ยทั้งหมด

เมื่อขึ้นมาบนเรือดัฟฟ์จะโทรหาเพราะรู้ว่าตอนนี้เดฟได้แร่ใหม่มาแล้ว เขาก็เลยทำการอัพเดทลิสรายการปืนเอาไว้ให้ล่วงหน้า หากมีแร่ตามที่กำหนดก็สามารถพัฒนาปืนได้เลย ตอนนี้หากเข้าไปดูที่ส่วนร้านค้าปืนก็จะเห็นรายการปืนใหม่เพิ่มขึ้นมา

สำรวจพื้นที่ธารน้ำแข็ง (Explore the Glacial Area)
ในตอนเช้าวันนี้ด็อกเตอร์เบคอนก็จะมอบชุดดำน้ำอันใหม่ให้กับเรา ซึ่งชุดนี้จะทนความเย็นได้เป็นอย่างดี แถมตัวชุดก็จะถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เมื่อด็อกเตอร์เบคอนจากไปแล้ว ให้เรากดที่กระจกแล้วเลือก Glacial Area ได้เลย มันจะส่งเราไปที่กระจกใหญ่ ซึ่งลงไปข้างล่างก็จะพื้นที่ธารน้ำแข็งแล้ว ในพื้นที่นี้จะเห็นว่าเต็มไปด้วยสีขาวแห่งความหนาวเย็น


ในพื้นที่นี้ให้ลองสำรวจให้ทั่วก่อนก็ได้ยังไม่ต้องรีบทำอะไร หากพบเห็นกระจกที่ดูหม่นมัว ก็ให้ทำการสำรวจเพื่อเช็ดกระจก มันจะกลายเป็นจุดวาร์ปที่ให้เราสามารถกลับไปยังหมู่บ้านหรือขึ้นไปที่เรือได้เลย

หากต้องการทำภารกิจหลักเริ่มจากที่ด้านบนสุด ให้เราว่ายไปทางฝั่งขวาของแผนที่ แล้วจะเจอกับพื้นหินยื่นออกมา ทีนี้ให้เราว่ายลงไปเล็กน้อยจนเจอเข้ากับพื้นหินอีกชั้นหนึ่ง ให้เราว่ายต่อไปทางขวาจนสุดทาง เดฟจะเจอเข้ากับสิ่งที่เหมือนประตูแต่มันถูกปิดอยู่ ที่ข้างประตูจะเห็นว่ามีแผ่นหินที่มีตัวอักษรเขียนเอาไว้ ทีนี้ก็ให้กดถ่ายรูปเพื่อจะเอาไปให้ด็อกเตอร์ดูเผื่อจะถอดรหัสภาษาที่เห็นนี้ได้ จากนั้นก็ให้เรากลับขึ้นไปบนเรือ

แผ่นหินโบราณ (Ancient Stone Slab)
เมื่อมาถึงแล้วเราก็จะเอารูปถ่ายให้ด็อกเตอร์เบคอนดู ด็อกเตอร์เบคอนก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นแผ่นหินโบราณของชาวทะเล เขาเลยขอรูปภาพมาจากเราแล้วใช้อุปกรณ์ถอดรหัสเพื่ออ่านข้อความ ตรงนี้ก็จะเป็นเหมือนมินิเกม ให้เราถอดรหัสตัวอักษร

พอทำเสร็จแล้วด็อกเตอร์ก็จะบอกเขาสามารถอ่านมันได้แล้ว ดูเหมือนจะเป็นคาถาบางอย่าง แต่เขาก็ไม่มีความรู้ส่วนนี้ก็เลยแนะนำให้ลองไปถามชาวทะเลดูจะดีกว่า เดฟก็นึกได้ว่าที่หอในหมู่บ้านชาวทะเลเก็บหนังสือเอาไว้อยู่เยอะมากนีอาโมที่อยู่ในหอแห่งนั้นน่าจะพอช่วยอะไรได้ ทีนี้ก็ให้เรามุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านชาวทะเล วาร์ปขึ้นไปส่วนบนแล้วไปทางฝั่งขวาเข้าหอแล้วคุยกับนีอาโม เดฟก็จะยื่นรูปให้นีอาโมดู นีอาโมดูก็ถามว่าแผ่นหินนี่เจออยู่ที่ไหนหรอ เดฟเลยบอกว่าเจอที่หน้าประตูในพื้นที่ธารน้ำแแข็ง นีอาโมก็เข้าใจเลยบอกว่าในหนังสือได้เคยบอกเอาไว้ว่า จะมีประตูใหญ่ทั้งหมด 3 บานในพื้นที่ธารน้ำแข็ง ในแต่ละประตูนั้นจะมีสวิทที่นำทางไปสู่ห้องควบคุมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เธอได้ทำการวิเคราะห์และพบว่าแผ่นดินไหวน่าจะเกิดจากห้องควบคุมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั่น เลยบอกให้เราไปสับสวิททั้ง 3 เพื่อเข้าไปที่ห้องควบคุมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เดฟก็บอกว่าน่าจะเป็นงานยาก ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจะเปิดประตูใหญ่พวกนั้นได้ยังไง นีอาโมก็บอกว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับประตูพวกนั้น แล้วก็ยื่นของที่เหมือนหนังสือมาให้กับเดฟ ของสิ่งนี้แหละ มันจะช่วยให้นายร่ายคาถาเพื่อเปิดประตูได้ แต่เดฟบอกว่าเขาไม่รู้ภาษาชาวทะเลเลยนะจะให้ทำยังไง นีอาโมเลยบอกให้พาซูวอนไปด้วยสิ ซูวอนไม่ปฏิเสธพูดว่า มนุษย์ นายทำอะไรไม่เป็นเลยถ้าไม่มีฉันสินะ ฮาฮา เอาเถอะครั้งนี้ดูนายจะมีปัญหาอยู่ ฉันจะยื่นมือเข้าช่วยเอง หยุดกังวลได้แล้วนำทางฉันไปสิมนุษย์

ทีนี้เดฟกับซูวอนก็จะมาอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ในพื้นที่ธารน้ำแข็ง ซูวอนก็ร่ายคาถาด้วยท่าทางแปลกๆ แล้วประตูมันก็เปิดออก เดฟเลยชวนซูวอนให้เข้าไปข้างในด้วยกัน แต่ซูวอนบอกว่าเพราะเต้นร่ายคาถาไปเมื่อกี้ทำให้ข้อมือเคล็ดเลยเข้าไปด้วยไม่ได้ นายต้องเข้าไปคนเดียวแล้วล่ะมนุษย์ เดฟก็ส่ายหัวสุดท้ายก็ต้องเข้าประตูไปคนเดียว

ในประตูนี้จะเป็นเหมือนทางแคบ ให้เราว่ายดันแท่นหมุนไปอีกด้านหนึ่ง การดันแท่นหมุนจะทำให้กลไกกับดักทำงาน ก็ให้พยายามว่ายไปตามทางต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พบกับห้องกลไกใหญ่ห้องหนึ่ง ในห้องนี้เราจะต้องดันแท่นหมุนทางซ้ายและขวา เพื่อให้หินกลิ้งลงมาตรงกลางเพื่อเปิดทางให้ไปต่อได้ หากดันแท่นหมุนจนพอใจแล้วก็ให้กดที่ปุ่มทางด้านซ้ายหินก็จะกลิ้งตกลงมา หากตกลงมาตรงกลางมันจะทับน้ำแข็งให้หล่นหายไป เราก็จะลงไปด้านล่างเพื่อไปยังห้องต่อไปได้

ห้องต่อมาจะไม่มีอะไรมากนักให้เราว่ายไปห้องทางซ้ายได้เลย ในห้องนี้เราจะพบกับรูปปั้นและภาพจิตกรรมฝาผนัง ให้เราดันแท่นหมุนทั้ง 3 ที่อยู่ในห้องจนกระทั่งรูปปั้นทำท่าทางเหมือนกับที่อยู่ในภาพจิตกรรมฝาผนังที่อยู่ด้านหลัง พอตรงกันแล้วจะเหมือนกลไกบางอย่างได้ทำงาน ส่วนหัวของรูปปั้นจะยิงลำแสงสร้างเป็นทางให้เราสามารถว่ายกลับออกไปยังประตูเดิมได้ จากนั้นก็ให้กลับไปคุยกับเท็นซินที่หมู่บ้านชาวทะเล

เท็นซินบอกว่าเขารู้เรื่องคร่าวๆ จากนีอาโมมาบ้างแล้ว เดฟก็รายงานว่าตอนนี้ได้สับสวิทไปหนึ่งอัน เท็นซินเลยบอก ตอนนี้เขาพอจะนึกอะไรขึ้นมาบ้างได้แล้ว รู้สึกว่ามีคนงานบางคนได้เปลี่ยนกลายเป็นกาดอน เนื่องจากแผนการของดาเช่ บรรพบุรุษของเขาได้ทำการสร้างสวิทพวกนี้กระจายกันออกไปในพื้นที่ธารน้ำแข็งเพื่อเป็นระบบป้องกันการเข้าห้องควบคุม แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะกลายเป็นอุปสรรคไปแทนเสียแล้ว เดฟก็พูดว่าพื้นที่นั้นมันก็ยังหนาวเย็นอยู่ เพียงแต่ที่ด้านล่างมันมีความร้อนขึ้นมาจากพื้นดินและละลายน้ำแข็ง เท็นซินเลยบอกว่าน่าจะเป็นเพราะในห้องควบคุมเกิดความร้อนที่มากเกินไป เลยทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น นีอาโมบอกว่าหากทำให้อุปกรณ์มันเสถียร อุณหภูมิในน้ำก็น่าจะกลับเป็นปกติได้ เมื่อได้ยินแบบนั้นเท็นซินเลยพูดว่าถึงรู้ว่ามันไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่นัก แต่ได้โปรดช่วยรีบดำเนินการก่อนที่บ้านบรรพบุรุษของเราถูกทำลายจนหมดสิ้น เดฟตอบตกลงพร้อมพูดว่าตอนนี้มันเหลืออีก 2 ประตูเขาจะรีบหามันให้เจอ

การหายตัวไปของเบลูก้า (The Missing Beluga)
เมื่อออกมาจากบ้านของเท็นซินเราจะเจอกับราโมและผู้คุ้มกันหมู่บ้าน พวกเขากำลังมองหาเบลูก้า แต่พบว่ามันหายตัวไป เลยคิดมันอาจจะเข้าไปที่ประตูทางผ่านช่องธารน้ำแข็งแล้ว เดฟก็เลยบอกว่าเขาจะช่วยหาตัวมันด้วยก็แล้วกัน

ทีนี้ให้เราไปที่พื้นที่ธารน้ำแข็งแล้วว่ายไปทางซ้าย พยายามสำรวจพื้นที่น้ำแข็งในส่วนนี้ให้ทั่วเราจะพบกับเบูลก้าที่นอนอยู่ แล้วเราจะเห็นปลาหมึกโผล่ออกมาตัวหนึ่ง ทำให้รู้ว่าที่เบลูก้านอนอยู่แบบนี้เป็นเพราะโดนพิษจากปลาหมึกตัวนี้นั่นเอง

จากนั้นก็ให้เราว่ายไล่ตามปลาหมึกตัวนี้ไปเรื่อยๆ จนมันจนมุม ตอนนี้จะมี 2 ตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือกระหว่าง Harvest (ล่ามัน) กับ Rescue (ช่วยมัน) ตรงนี้เราแนะนำให้เลือกช่วยมันจะดีกว่า เพราะจะทำให้เราได้รับ รูปปั้นหยกปลา (Jade Fish Status) และ ยาถอนพิษมา ซึ่งรูปปั้นหยกปลาเมื่อนำไปขายกับดูวาจะได้รับมา 300 เหรียญเบี้ย แต่หากเลือกฆ่ามันเราจะได้รับแค่เพียงยาถอนพิษเท่านั้น

ก่อนที่จะไปบริเวณนี้เราจะเห็นประตูอันใหญ่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ แต่ให้จำตำแหน่งของมันไว้ให้ดีเพราะเดี๋ยวเราจะต้องมาหามันในภายหลัง ทีนี้ให้กลับไปหาเบลูก้าเพื่อนำยาถอนพิษไปรักษา แล้วน้องก็จะหายดีเป็นปกติ เดฟก็เลยบอกให้มันกลับไปที่หมู่บ้านด้วยตัวเองนะ น้องก็พยักหน้าแล้วว่ายกลับไปเอง ทีนี้เราสามารถสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ต่อได้เลย ส่วนของเนื้อเรื่องหลักจะดำเนินต่อวันพรุ่งนี้

ตรวจสอบทางเข้าห้องควบคุม (Check the Control Room Entrance)
เช้าวันต่อมาเดฟจะตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าไปที่ถ้ำที่มีกระแสน้ำไหลออกเพื่อสับสวิทอันที่สอง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปในถ้ำนั้นยังไงดี วันนี้กระแสน้ำมันอาจจะลดลงก็ได้เลยจะลองไปเช็คดูก่อน

ทีนี้ก็ให้เรากลับไปที่พื้นที่ธารน้ำแแข็ง ไปที่ประตูใหญ่ที่เห็นตอนภารกิจช่วยเบลูก้า เมื่อมาถึงหน้าประตูเดฟก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะกระแสน้ำมันไหลออกมาทำให้เข้าไปในประตูไม่ได้ และแล้วเจ้าเบลูก้าก็ว่ายมาหาเรา สาเหตุที่น้องมาที่นี่ก็เพราะว่าจะช่วยเดฟนั่นเอง เมื่อขี่หลังเบลูก้าเราก็จะฝ่ากระแสน้ำเข้าไปในประตูได้

ตอนนี้ก็จะเหมือนมินิเกมให้เราว่ายไปตามทาง ทำลายกำแพงน้ำแข็งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่ห้องใหญ่จะเจอกับ แม่แมงกระพรุน วิธีสู้ก็คือคอยหลบการโจมตี แล้วให้เบลูก้าพุ่งเข้าชนที่ดวงตาสีแดง จนสุดท้ายแม่แมงกระพรุนก็จะหนีไป จากนั้นให้ลงไปแร่หนวดของแมงกระพรุนแล้วค่อยเข้าไปที่ประตูที่อยู่ขวาล่าง ในห้องนี้ก็ให้เราสับสวิท แล้วประตูจะเปิดให้เรากลับออกมาข้างนอกได้

ห้องควบคุมโบราณ (Ancient Control Room)
ตอนนี้เราจะสามารถสำรวจลงไปลึกจากระดับเดิมในพื้นที่ธารน้ำแข็งได้แล้ว (ก่อนหน้านี้จะไม่สามารถลงมาได้ เพราะน้ำมันร้อนเกินไป) แต่ก่อนที่จะสำรวจลงมาลึกได้นี้เราจะต้องทำการอัพเกรดชุดดำน้ำให้กลายเป็นระดับสูงสุด ที่สามารถทนน้ำลึกระดับ 800 เมตรได้

ให้ไปที่พื้นที่ธารน้ำแข็งคราวนี้ให้เราว่ายลงไปทางด้านขวาล่างของแผนที่ได้เลย มันจะมีซอกหินเป็นทางอยู่ เมื่อมาถึงแล้วที่หน้าประตูบานสุดท้ายเราจะพบกับซูวอน 
เดฟ: ซูวอน นายมาทำอะไรที่นี่
ซูวอน: ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะเห็นว่าความร้อนในพื้นที่ธารน้ำแข็งมันลดลงแล้ว ฉันยังไม่เชื่อใจพวกมนุษย์อย่างนายเต็ม 100% แล้วก็ฉันคือฮีโร่ของชาวทะเลผู้พิชิตกาดอนยักษ์เชียวนะ ฉันจะเป็นคนสับสวิทนั่นด้วยตัวเอง แต่ฉันก็ต้องการความช่วยเหลือของนาย เพราะข้างในมันค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียว
เดฟ: โอ้ อย่างงั้นหรอ มันวุ่นวายแค่ไหนกัน?
ซูวอน: นายจะเห็นด้วยตาตัวเอง

หลังจากที่เข้ามาข้างในพื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนก็คือส่วนที่ไม่มีน้ำและส่วนที่อยู่ในน้ำ จุดนี้จะเป็นเหมือนปริศนาซึ่งเราจะต้องสลับการควบคุมระหว่างเดฟและซูวอนไปมา เพื่อเปิดสวิททำให้เส้นทางของแต่ละคนสามารถเดินหน้าไปต่อได้
- บังคับเดฟ ให้เดินไปเหยียบสวิทเพื่อเปิดทางให้ซูวอน
- บังคับซูวอนให้ว่ายไปตามทางจนเจอแล้วกับทางที่มีหินลอยเข้ามาหา ให้หลบอยู่ตรงที่ว่างด้านล่างก่อน หาจังหวะแล้วพยายามวิ่งผ่านมันไปตามทาง จนกระทั่งได้สับสวิท
- บังคับเดฟ เดินไปข้างหน้าได้เลยถึงจะเห็นว่ามันมีช่องทางอยู่นิดเดียว แต่เดี๋ยวเดฟจะย่อตัวมุดเข้าไปได้ พอมุดออกมาก็เดินไปข้างหน้าต่อได้เลย จนกระทั่งกดลูกแก้วที่สีเขียวที่เฟืองเพื่อเปิดมาให้ซูวอน
- บังคับซูวอน ว่ายไปกดลูกแก้วสีเขียวที่เฟือง
- บังคับเดฟ เดินไปข้างหน้า จนถึงจุดที่มีแท่นหินทับขึ้นลง ตรงนี้ให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ เดินไปแล้วย่อตามจุด เมื่อหลุดมาได้ก็ให้ไปกดลูกแก้วสีเขียวที่เฟือง
- บังคับซูวอน ว่ายมาตามทางเรื่อยๆ จนได้พบทางตรงที่ขึ้นไปข้างบนยาว ให้เรารอจังหวะหินทับมาทีหนึ่งแล้ววิ่งกด Dash พุ่งขึ้นไปด้านบน ถ้าช้าเกินไปจะถูกบีบเอาได้ เมื่อผ่านแล้วก็มาให้สับสวิทเพื่อเปิดทางให้เดฟ
- บังคับเดฟ เดินไปหยิบผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ แล้วโยนลงไปที่รูตรงกลางด้านล่างเพื่อให้ซูวอน
- บังคับซูวอน ให้หยิบผลไม้ไปวางแบนแท่น แท่นก็จะยิงแสงออกมาแต่ละลายน้ำแข็ง แล้วจะเห็นสวิทก็ให้ซูวอนกดสวิทตัวนี้แล้วกลับไปบังคับเดฟ
- บังคับเดฟ เดินมายืนตรงจุดที่กำแพงเลื่อนขึ้นลง
- บังคับซูวอน สับสวิทอีกครั้ง คราวนี้เดฟจะขึ้นไปด้านบนตามกำแพงที่ยืนอยู่
- บังคับเดฟ เดินตามทางไปเหยียบสวิทอีกอัน แสงจะส่องละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
- บังคับซูวอน ว่ายไปตามทางแล้วดึงโซ่ที่อยู่ในห้อง จะทำให้แผ่นหินด้านบนปิดกลายเป็นทางให้เดฟ
- บังคับเดฟ เดินไปดึงคันโยก แล้วซูวอนก็จะดึงพร้อมกัน

สวิทจะเป็นการปล่อยน้ำ ทำให้ระดับน้ำภายในห้องสูงขึ้นมา ตอนนี้เดฟและซูวอนก็จะมารวมตัวกันอีกครั้ง และว่ายเข้าไปที่ห้องใหม่ ซูวอนรู้สึกว่าที่นี่เต็มไปด้วยรากของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มันเติบโตเร็วแบบผิดปกติ น่าจะมีอะไรไปกระตุ้นมันอยู่แน่ เลยอยากจะได้ดูที่ห้องควบคุมเพื่อหาสาเหตุ จากจุดนี้เราจะต้องควบคุมทั้ง 2 คนพร้อมกัน ตัวซูวอนเองจะมีความสามารถตรงที่สามารถขับไล่หนอนท่อได้ เมื่อเจอก็ให้นำซูวอนไปอยู่ข้างหน้าเดฟ

ในห้องส่วนนี้ปริศนาจะไม่มีอะไรมาก เพียงแค่สับสวิทไปเรื่อยๆ ก็น่าจะผ่านกันได้ไม่ยากเลย แต่จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่มีสวิททั้งหมด 4 อัน ให้เราทำการกดข้างบน 2 อันพร้อมกัน เสร็จแล้วให้รีบว่ายลงมากดสวิทอีก 2 อันข้างล่างพร้อมกันให้หมด ก็จะทำให้เปิดทางไปต่อได้ แล้วก็ว่ายต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงห้องใหม่แล้ว

ห้องใหม่นี้จะได้สู้กับฉลามปากแส้หนาม เดฟจะเล่าให้ฟังว่ามันคือสิ่งมีชีวิตโบราณที่น่าจะสูญพันธุ์ไปเมื่อ 200 ล้านปีก่อน อาจจะเป็นเพราะมันเคยถูกแช่งแข็งและน้ำแข็งพึ่งละลายก็เลยมาเจอมันอยู่ที่นี่ได้ ส่วนตัวซูวอนด้วยความกลัวก็หนีขึ้นไปอยู่ด้านบนแล้ว เขาบอกว่าจะช่วยด้วยการตีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ให้แทน

วิธีการสู้ก็คือยิงมันไปเรื่อยๆ นั่นแหละ เพียงแต่หากล่อมันมาด้านบนได้ ก็ให้ขยับตัวซูวอนมาตีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์จะช่วยทำให้ฉลามมันสลบไปชั่วขณะ ตอนนี้เราก็จะสามารถยิงใส่มันได้รัวๆ หลังจากที่เอาชนะได้ฉลามจะพุ่งไปชนกองหินที่ด้านล่างเปิดทางให้กับเรา

ให้แล่เนื้อฉลามแล้วเข้าไปที่ประตูจะมาถึงห้องสุดท้าย เดฟและซูวอนก็จะช่วยกันสับสวิท แล้วประตูสู่ห้องควบคุมที่อยู่ด้านล่างสุดของพื้นที่ธารน้ำแข็งก็จะถูกเปิดออก ให้เราออกจากห้องนี้ทางขวาล่างแล้วจะโผล่ออกมาที่ประตูเดิมในครั้งแรก

ตรวจสอบทางเข้าห้องควบคุม (Check the Control Room Entrance)
เมื่อออกมาที่พื้นที่ธารน้ำแข็งแล้ว ให้เราว่ายไปที่ด้านล่างตรงกลางของบริเวณนี้ได้เลย เมื่อมาถึงแล้วจะเห็นว่าประตูที่เปิดสู่ห้องควบคุมเหมือนติดขัดทำงานผิดปกติ น่าจะเป็นเพราะติดรากของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แต่แล้วโจทเก่าจอห์น วัตสันก็โผล่ออกมาพร้อมกับเรือดำน้ำของเขา

จอห์น: นายอยู่ที่นี่นี่เอง
เดฟ: จอห์น วัตสัน นายตามฉันมาได้ยังไง?
จอห์น: ด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไทเทเนียม ไม่มีที่ไหนหรอกที่ Dekken-9 จะไปไม่ได้ ฉันเห็นทางผ่านในหมู่บ้านประหลาด ก็เลยพังมันจนมาที่นี่ได้ไง ฮาฮาฮา นายมาทำลายโบราณสถานที่สวยงามแห่งนี้ใช่ไหม? ฉันไม่อยากเชื่อเลย นายมันเป็นเหมือนเชื้อโรคของโลกใบนี้ และฉันจะกำจัดเชื้อโรคอย่างนายเอง
เดฟ: ไอพวกหน้าไหว้หลังหลอก! ฉันรู้นะว่าพวกซีบลูน่ะทำอะไรกันอยู่ลับๆ
จอห์น: …งั้นก็เป็นฝีมือนายนี่เอง…ถึงว่าทำไมรายละเอียดของผู้ต้องสงสัยถึงตรงกับนายพอดีเป๊ะ
เดฟ: (ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าพวกมันบรรยายรายละเอียดของฉันว่ายังไง)
จอห์น: ทีนี้ก็มีเหตุผลมากขึ้นที่ฉันจะไม่ปล่อยนายไป ฉันจอห์น วัตสันแห่งซีบลู ผู้พิทักษ์ท้องทะเล จะขจัดมลทิน ออกจากทะเลเอง

ศึกนี้ให้พยายามแค่คอยหลบมิสไซล์ที่ยิงออกมาก็พอ แล้วฉากจะตัดมาจอห์น วัตสันก็หัวเราะ ฮาฮา นายนี่มันวิ่งหนีเหมือนหนูเลย แต่นายหลบไอนี่ไม่ได้แน่นอน! คิริซาเมะแห่งความตาย!!! แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อยู่ดีๆ ก็มีสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาคาบเรือดำน้ำไว้ในปากแล้วเหวี่ยงมันออกไปชนเข้ากับประตูหินทำให้มันพังทันที มันคือ โครโนซอรัส เดฟก็เลยตัดสินใจเข้าสู้กับมันเพื่อเปิดทางให้เข้าไปที่ห้องควบคุมได้ และเดฟก็สังเกตุไปเห็นที่พื้นว่ามีเครื่องยิงมิสไซล์จากเรือดำน้ำตกอยู่

วิธีการสู้กับโครโนซอรัส ก่อนอื่นเลยก็คือว่ายลงไปแบกเครื่องยิงมิสไซล์ แล้วกดปุ่มค้างตามที่เกมบอก เมื่อจุดสัญญาณพร้อมแล้วมันจะกระพริบก็ให้ปล่อยปุ่มจะเป็นการยิงมิสไซล์ออกไป หลังจากที่ยิงได้ 1 ลูกแล้ว ตัวปืนจะต้องรอเวลาอีกสักพักถึงจะยิงได้ใหม่ เพียงแต่ในระหว่างที่แบกมิสไซส์เราจะเคลื่อนที่ช้ามาก ก็ต้องระวังตัวหน่อย แนะนำให้พยายามล่อโครโนซอรัสให้ออกห่างจากเครื่องยิงมิสไซล์ก่อน แล้วค่อยวิ่งไปเก็บจากนั้นให้ยิงมันจากระยะไกล ตัวลูกมิสไซล์มันจะวิ่งเข้าไปหาและโดนเป้าหมายแบบ 100% แน่นอน ในระหว่างนี้เราก็สลับใช้ปืนธรรมดายิงเข้าไปด้วยก็ได้เช่นกัน

พอกำจัดโครโนซอรัสได้แล้ว ก็จะมีโดรนลำหนึ่งมาหาเรา นั่นคือโดรนจากด็อกเตอร์เบคอน
เดฟ: หืม โดรนนี่มันอะไรกัน?
ด็อกเตอร์เบคอน: เฮ้เดฟ ขอโทษทีนะที่ฉันมาช้าไป ฉันกำลังสร้างโดรนสำรวจเพื่อช่วยนายอยู่ เพราะเห็นว่าพื้นที่ธารน้ำแข็งมันดูอันตราย และเพิ่งสร้างเสร็จเอง
เดฟ: ด็อกเตอร์เบคอน! ฉันไม่รู้เลยว่าเครื่องส่งสัญญาณของนายมันจะลงมาได้ลึกขนาดนี้
ด็อกเตอร์เบคอน: ฮาฮา! มันคือความภาคภูมิใจและความสุขของห้องแล็บฉัน โดรนนี่มันไม่ใช่แค่เอาไว้สื่อสารเท่านั้นนะ มันทำได้หลายอย่างเลยล่ะ ทุกอย่างนี่ก็ต้องขอบคุณดัฟฟ์
ดัฟฟ์: ดีใจที่ได้เห็นนายอีกครั้งนะเดฟ น้ำแข็งขนาดใหญ่ในระดับความลึกนี้ ราวกับว่ามันถูกสัมผัสจากกาเบรียลาด้วยนิ้วมืออันเย็นเฉียบของเธอเลย หากฉันสามารถบรรเทาความเหงาของเธอได้ ฮึ่ม เอาเถอะ ตอนนี้ดูเหมือนว่ารากมันจะขวางประตูเอาไว้อยู่ โดรนนี่สามารถตัดรากของมันได้ด้วยการใช้เครื่องตัดเลเซอร์
เดฟ: โอ้ มันสะดวกดีไม่ใช่เหรอ?
ดัฟฟ์: ฮาฮา! ฉันคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็เลยติดตั้งมันไว้ด้วย
ด็อกเตอร์เบคอน: ฮาฮา! โชคดีจริงๆ เอาล่ะนายเปิดใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์สิ
ตอนนี้โดรนก็จะบินไปยิงเครื่องตัดเลเซอร์
ด็อกเตอร์เบคอน: ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มันแข็งมาก ไม่เหมือนต้นไม้ธรรมดาทั่วไปเลย น่าจะต้องใช้เวลา 2 วันกว่าจะจัดการเสร็จ ระหว่างนี้นายก็ไปทำอย่างอื่นรอได้เลย ถ้าเสร็จแล้วจะฉันบอกนายเอง
พอคุยกันเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมไปแล่โครโนซอรัสเพื่อเอาเนื้อมันมาล่ะ ทีนี้ก็ให้เรารอเวลาอีก 2 วัน ก็จะเข้าสู่บทที่ 7 ห้องควบคุมที่พังทลาย
Chapter 7: Broken Control Room

ปลดล็อคฟาร์มไก่
เนื้อเรื่องนี้จะปรากฏขึ้นมาหลังจากเคลียร์ภารกิจ VIP ของแซมมี่แล้ว ในตอนเช้าอ็อตโต้จะโทรมาหาเรา เดฟก็เลยถามว่าเมื่อคืนใช้เวลาคุยกับแซมมี่จนพอใจกันแล้วหรือยัง อ็อตโตก็เลยบอกว่าแน่นอน พวกเราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว เมื่อคืนเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก แต่เขาก็มีอะไรจะให้เดฟดูช่วยมาที่ฟาร์มหน่อย เมื่อมาถึงฟาร์มจะมีสิ่งใหม่นั่นก็คือไก่ แถมยังมีแซมมี่อยู่ด้วย แซมมี่ก็บอกว่าเมื่อคืนเขาคุยกับพ่อแล้วและตกลงจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน แซมมี่จะรับหน้าที่เป็นคนทำฟาร์มเลี้ยงไก่ให้เอง โดยไก่จะออกไข่ให้กับเราทุกวันเพียงแต่ไข่จะมีทั้งเกรดเอและเกรดบี ยิ่งไก่ที่เราซื้อเพิ่มเข้ามาในฟาร์มมีคุณภาพดี ก็จะมีโอกาสออกไข่เกรดเอมากขึ้นตามไปด้วย ไข่พวกนี้จะสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารได้

การแข่งขันทำอาหารจีน! (Chinese Cuisine Contest!)
ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาหลังจากเคลียร์ภารกิจ VIP ของแซมมี่แล้ว ในคืนวันหนึ่งที่ร้านซูชิบันโชจะมีแขก VIP คนใหม่เข้ามาเยี่ยมร้านเขาชื่อว่า หวังพัง (Wang Pang) สุดยอดเชฟอาหารจีน

ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC วันนี้เราจะมานำรายการใหม่ที่ชื่อว่า ท้าทาย♦ยอดเชฟ (Challenge the♦Chef) นำเสนอโดยคุณวินเซนต์ ยามาโอกะ
วินเซนต์: ไม่ได้เจอกันนานเลยนะทุกคน ผมคือวินเซนต์ ยามาโอกะ
ยุย: และนี่คือแชมป์ของเราจากในซีซั่นก่อน บันโช ผู้ได้รับการยกย่องจากคุณวินเซนต์! วันเขานี้จะสามารถป้องกันแชมป์ได้หรือไม่
บันโช: ป้องกันแชมป์งั้นหรอ?
ยุย: ผู้ท้าทายคนแรกในซีซั่นนี้ก็คือคุณหวังพัง
หวังพัง: เป็นเกียรติที่ผมได้มาที่นี่ ผมคือหวังพังจากฮ่องกง
บันโช: ยินดีที่ได้พบคุณหวังพัง
ยุย: เอาล่ะ ตอนนี้เราก็ได้พบผู้เข้าแข่งขันกันแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาเริ่มการแสดงกันได้! พวกคุณทั้ง 2 คนจะต้องทำอาหารในวันเดียวกันและสถานที่ดีเดียว โดยจะมีหัวข้อของอาหารที่กำหนดไว้ และผู้ตัดสินของเราก็คือคุณวินเซนต์ ยามาโอกะ หัวข้อของเราในวันนี้ก็คือ อาหารจีนค่ะ!
เดฟ: โอ้แบบนี้ไม่ดีแน่
วินเซนต์: อย่างที่พวกคุณก็รู้กัน อาหารจีน มีการพัฒนาหลากหลายรูปแบบและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของมันเอง เมื่อเราพูดถึงอาหารจีนหลายคนก็คงนึกถึง ผัดเนื้อสัตว์และผัก แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มันยังมีอะไรมากกว่านั้นอีก ครั้งนี้พวกคุณทั้ง 2 คนจะต้องทำอาหารโดยการใช้ปลา ทำอาหารจีนโดยการใช้ปลาเป็นส่วนประกอบหลัก ขอให้เชฟที่เก่งที่สุดเป็นผู้ชนะ!
หวังพัง: ฉันได้ยินชื่อเสียงของคุณมาแล้ว บันโช แต่ฉันจะเอาชนะคุณด้วยสูตรอาหารที่ยอดเยี่ยมจากฮ่องกง
ยุย: โอ้ คุณหวังพังได้ประกาศท้าทายอย่างเป็นทางการแล้ว นี่มันน่าสนใจมากจริงๆ เลยค่ะ พวกคุณก็น่าจะทราบกติกากันดีแล้ว พวกเราจะกลับมาในอีก 2 วัน เพื่อถ่ายทอดการแข่งขันให้ได้รับชมกันแบบสดๆ โปรดรอติดตามว่าจะเกิดขึ้นในรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ 
ตอนนี้ทั้งคณะก็ได้เดินจากไป
เดฟ: นายโอเคหรือเปล่า? นายไม่ค่อยถนัดอาหารจีนใช่มั้ย?
บันโช: ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนเพื่อแข่งขันกับเขา ฉันจะใช้สไตล์การทำอาหารจีนแต่ใช้ปลาชนิดพิเศษที่พวกเขาไม่เคยกินมาก่อน!!
เดฟ: อย่าทำให้มันมากเกินไปเลยบันโช
บันโช: ฉันไม่สามารถให้บทเรียนกับเขาได้ ถ้าใช้ปลาธรรมดาทั่วไป
เดฟ: ถ้านายพูดแบบนั้นล่ะก็
บันโช: นำวัตถุดิบที่ฉันต้องการกลับมาภายใน 2 วันล่ะ อาหารจีนไม่ใช่ปัญหา ฉันแค่ต้องการ์ปลาสตาร์เกเซอร์ (Stargazers), ข้าวสาลี (Wheat), น้ำมันมะกอก (Olive Oil) และไข่ (Eggs)

สำหรับวัตถุดิบทั้งหมดนี้สามารถหาได้ง่ายๆ อยู่แล้ว โดยข้าวสาลีและไข่จะสามารถหาได้ที่ฟาร์มของอ็อตโต้เลย ส่วนน้ำมันมะกอกจะสุ่มหาเจอได้กับหม้ออาหารสีแดงในทะเล ส่วนปลา Bluespotted Stargazer จะหาได้ที่ความลึกระดับ 130-250 เมตร มันจะเป็นปลาที่มุดตัวอยู่ใต้พื้น ใครที่เห็นก็น่าจะรู้ทันที วิธีการฆ่ามันก็คือให้พยายามยิงด้วยฉมวกไปเรื่อยๆ จนมันตาย หรือจะเอาหินมาทับมันแทนก็ได้วิธีนี้จะเร็วกว่า

เมื่อเรารวบรวมวัตถุดิบได้ครบและถึงวันนัดหมาย
ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC คุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย อย่างที่พวกคุณรู้กัน วันนี้คือวันที่การแสดงของ ท้าทาย♦ยอดเชฟ  จะเริ่มขึ้นแล้ว! บันโชคุณเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยังคะ?
บันโช: แน่นอน
ยุย: แล้วคุณหวังพังล่ะคะ?
หวังพัง: พร้อมแล้วเช่นกัน แทบจะรอไม่ไหวแล้ว!
ยุย: เยี่ยมเลยค่ะ! ถ้าอย่างนั้นก็มาเริ่มการแข่งขัน ท้าทาย♦ยอดเชฟ กันได้เลย!
ตอนนี้ฉากก็จะตัดไปยังมินิเกมทำอาหาร ให้เราทำตามที่ขั้นตอนได้บอกเอาไว้ เมื่อเสร็จแล้วทั้ง 2 คนก็จะนำอาหารมาให้กับวินเซนต์ได้ชิม และผู้ชนะของการแข่งขันครั้งนี้ก็คือบันโช

หวังพัง: ไม่นะ ฉันแพ้งั้นหรอ แต่ฉันคือสุดยอดเชฟจากฮ่องกงเลยนะ!
วินเซนต์: แน่นอน อาหารจานของคุณก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากนะหวังพัง คุณใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้รสชาติอาหารที่ไร้ที่ติ แต่มันไม่ดีพอที่จะทำให้ฉันประทับใจ แต่สำหรับจานอาหารของบันโช มันทำให้ผมได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ด้วยปลาที่ชื่อว่าปลาสตาร์เกเซอร์ ด้วยความสัตย์จริง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้กินปลานี้ บันโชทำให้ผมได้ลิ้มรสความน่าสนใจและความสดใหม่ของปลาสตาร์เกเซอร์และรสชาติคลาสสิกของซอสเปรี้ยวหวานที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว หากนับกันเฉพาะเรื่องของรสชาติแล้วนายทำได้ดีกว่านะหวังพัง แต่ผมชื่นชมความพยายามของบันโชที่นำเสนอรสนิยมต่างชาติในรูปแบบที่คุ้นเคย คำตัดสินสุดท้ายของผมคือก็คือบันโช ยินดีด้วย
ยุย: โอ้คุณวินเซนต์ได้ให้คำอธิบายที่ชัดเจนมาก สำหรับผลการตัดสิน บันโชได้ชนะในการแข่งขันนี้ค่ะ บันโชไม่ทราบว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ
บันโช: อ่า ในความคิดของผม ผมอยากจะนำเสนอ…
ยุย: ขอบคุณค่ะบันโช แชมป์ของเรามักเก็บคำพูดไว้เพื่อการกระทำที่มากขึ้นเสมอ และพวกเราชอบมัน ผู้ชนะในรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ วันนี้ก็คือบันโช ผู้ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ช่างเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและตัดสินที่เร้าใจ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า นี่คือการรายงานโดยยุยค่ะ
เดฟ: สุดยอดมากเลยบันโช นายสามารถเอาชนะหวังพังในประเภทอาหารที่เขาถนัดได้
บันโช: อืมม ใครจะสนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติกันล่ะในเมื่ออาหารน่ะตัดสินกันที่รสชาติ มันเป็นเกมที่ยุติธรรม
เดฟ: ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ารายการนี่มันจะกลับมาใหม่อีกครั้ง…แต่ฉันมีความมั่นใจเต็มที่ว่านายจะต้องชนะแน่
บันโช: เกี่ยวกับเรื่องการแข่งขัน ฉันได้แรงบันดาลใจใหม่เกี่ยวกับอาหารจีนมาในระหว่างแข่งขัน ฉันจะรีบเขียนมันลงไปก่อน หากนายมีเวลาต้องมาช่วยฉันเตรียมทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยล่ะ

อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับชาวทะเล? (A Nutritious Food for Sea People?)
ภารกิจนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อผ่านภารกิจปลดล็อคโรงตีเหล็กให้ขายแร่ให้กับเราแล้วเท่านั้น ให้เราไปที่โรงตีเหล็กแล้วคุยกับดูวา เดฟก็จะเห็นว่าดูวายังคงมีอาการไอและดูไม่สบายอยู่ เลยจะลองไปถามมิมะดูเผื่อมีอะไรให้ดูวากินเพื่อทำให้อาการดีขึ้นได้ ก็ให้เราว่ายไปร้านอาหารแล้วคุยกับมิมะ มิมะก็จะคิดเกี่ยวกับอาหารที่ช่วยรักษาอาการไอ เธอก็จะนึกได้ว่า ปูขน (Horsehair Crabs) มันจะดีต่อคนที่มีอาการไอ เพียงแต่จะหาปูขนได้เฉพาะในพื้นที่ธารน้ำแข็ง แถมบันทึกวิธีการจับมันก็หายไปแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนั้นเดฟก็เลยคิดว่าจะลองไปถามอ็อตโต้ดูเพราะเขาก็เคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน น่าจะพอรู้อะไรบ้าง ทีนี้ก็ให้กลับขึ้นเรือ แล้วไปที่ฟาร์มคุยกับอ็อตโต้

อ็อตโต้ก็เลยบอกว่าวิธีจับปูขนน่ะต้องใช้ กับดักปู เพียงแค่วางเหยื่อล่อเอาไว้ในกับดัก แล้วปูหรือล็อบสเตอร์ก็จะเข้ามาติดมันเอง เดฟก็เลยถามว่าพอจะมีกับดักให้เขาสักอันมั้ย อ็อตโต้ก็บอกว่าไม่มี แต่เขาสามารถทำมันได้ถ้ามีวัสดุมาให้ สำหรับของที่อ็อตโต้ต้องกาารก็จะมี ไม้ 3 อัน, เศษเหล็ก 2 อัน, เชือก 2 อัน และ ฟันของปลาฉลามเสือ 1 อัน สำหรับของพวก ไม้ เศษเหล็ก เชือก จะสามารถหาได้ทั่วไปจากในทะเลที่ความลึก 0-250 เมตร แต่ส่วนของปลาฉลามเสือ จะพบมันได้ที่ความลึกระดับ 50-130 เมตร ซึ่งฟันจะเป็นของหายากที่ได้จากมัน อาจจะต้องใช้เวลาในการล่าหลายตัวหน่อยถึงจะสุ่มได้ฟันเวลาที่เราแล่ หรือจะมีโอกาสมากขึ้นหากเราเรียกใช้งานโดรนมาเก็บศพของปลาฉลามเสือ

เมื่อหาวัสดุได้ครบแล้วก็ให้กลับไปคุยกับอ็อตโต้อีกครั้ง เขาก็จะทำกับดักปูมาให้กับเราทีนี้ก็ให้ลงไปยังพื้นที่ธารน้ำแข็ง ว่ายทางฝั่งซ้ายจะเห็นหินที่มันขยับได้อยู่ ตรงนั้นก็คือจุดที่เราสามารถวางกับดักปูเอาไว้ได้ ก็ให้วางลงไป แล้วใส่เหยื่อล่อลงไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาปูขนให้เจอ (จะใส่เหยื่อล่อหรือไม่ใส่ก็ได้) จากนั้นก็ทิ้งเวลาเอาไว้สักพัก หากมีเหยื่อเข้ามาอยู่ในกับดักแล้ว จะมีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายติ๊กถูกสีเขียว ก็ให้เรากลับมาสำรวจที่กับดักเพื่อเช็คดูว่าได้อะไรมาบ้าง หากไม่เจอปูขนก็ให้เราวางกับดักทำซ้ำใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตัวปูขนมา (การอัพเกรดกับดักจะช่วยเพิ่มจำนวนการวางกับดักในแต่ละรอบได้)


เมื่อได้ปูขนมาแล้วก็ให้นำกลับไปให้มิมะ เธอก็จะนึ่งปูพอเสร็จแล้วก็ให้เราออกมาหน้าร้าน ถือมันไปมอบให้กับดูวา ดูวาที่ได้กินปูนึ่งก็มีพลังขึ้นมารู้สึกดีขึ้นทันตาเห็นเป็นอันจบภารกิจ

ติดอยู่ในถ้ำธารน้ำแข็ง (Trapped in the Glacial Cave)
ตรงที่พื้นธารน้ำแข็งด้านบนสุดให้ไปที่ฝั่งขวา เมื่อเจอพื้นหินยื่นออกมาเราจะนับมันเป็นชั้นที่ 1 จากนั้นให้ว่ายลงมาเจอพื้นหินอีกเป็นชั้นที่ 2 ก็ให้ลงมาอีกครั้งจนเจอพื้นหินอีก ก็ให้นับเป็นชั้นที่ 3 ในชั้นที่ 3 นี้ให้เราว่ายไปทางขวาสุด เดฟจะได้ยินเสียงบางอย่างดังอยู่ภายในถ้ำแต่มันกลับถูกน้ำแข็งปกคลุมเอาไว้อยู่ ทำให้ผ่านเข้าไปไม่ได้ เดฟก็เลยคิดหาทางพังน้ำแข็งพวกนี้ ก็เลยคิดถึงเขาของวาฬนาร์วาล เพราะมันยาวและดูแข็งแรงดี

จากนั้นก็ให้เราว่ายออกไปล่อวาฬนาร์วาลมาตรงจุดนี้ได้เลย เราจะพบกับวาฬนาร์วาลอยู่บริเวณตรงกลางๆ พื้นที่ธารน้ำแข็งนี่แหละ แค่เราเจอตัวมัน มันก็จะพุ่งเข้ามาโจมตีเราเอง ก็ให้ค่อยๆ ล่อไปยังบริเวณถ้ำน้ำแข็งนี่ได้เลย พอมาถึงแล้ววาฬนาร์วาลจะพยายามพุ่งแทงที่ตัวเดฟ แต่เดฟหลบได้กลายเป็นทำลายน้ำแข็งให้แทน ทำให้เดฟสามารถเข้าไปที่ถ้ำได้

เมื่อเข้ามาในถ้ำแล้วก็ให้ว่ายต่อไปจนถึงห้องใหญ่ห้องหนึ่ง เราจะได้พบกับสหายเก่าซึจิและเต่าสัตว์เลี้ยง ซึจิก็บอกว่าเขาแค่พยายามหาสาหร่ายชนิดใหม่อยู่ จนกระทั่งมาติดอยู่ในถ้ำนี่ ช่วงนี้ก็ได้แต่กินสาหร่ายเพื่อประทังชีวิตแต่ก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว โชดดีที่ได้เจอเดฟ เดฟก็บอกว่าตอนนี้เขาก็คิดว่ากำลังติดอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ซึจิก็ต่อว่านายนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ พวกเราจะต้องหาทางทำลายกำแพงน้ำแข็งนี่แล้วแหละแต่มันก็แข็งเกินไป หากดูน่ากระแทกมันก็น่าจะทำลายกำแพงได้ แต่ดูน่าอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยมีแรง แต่แล้วเดฟก็เหลือบไปเห็นแท่งหิน 2 อันที่มันอยู่ข้างกันเลยนึกไอเดียอะไรดีๆ ออกซะอย่างงั้น โดยเขาจะใช้เชือกมาขึงระหว่างหินทั้ง 2 อันนี้ สร้างเครื่องยิงดูน่าเพื่อทำลายกำแพงได้ เมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้วให้เราดึงที่หางของดูน่า แล้วจะมีเส้นเหมือนให้เราเล็งองศาขึ้นมาและสามารถปรับความแรงได้ ตรงนี้เราต้องพยายามยิงดูน่าไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะสามารถทำลายกำแพงน้ำแข็งให้ได้นั่นเอง ซึ่งจะต้องยิงโดนน้ำแข็งทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน

เมื่อทำลายกำแพงเสร็จแล้วก็ให้คุยกับซึจิ แล้วพวกเราก็จะออกจากถ้ำแห่งนี้ไปพร้อมกัน ก่อนจากกันซึจิจะมอบที่เจาะน้ำแข็งมาให้กับเราสามารถเข้าถึงพื้นที่เล็กๆ ที่ถูกน้ำแข็งปิดกั้นได้ และหากเราไปที่ร้านอาหารของมิมะ เธอก็จะขอบคุณเราที่ช่วยชีวิตซึจิและดูน่า เธอจะเปิดขายเมนูใหม่ให้กับเราอีกด้วย

เซลจิโอ้หายตัว (The Disappearance of Selgio)
ภารกิจนี้จะทำได้หลังจากช่วยซึจิจากถ้ำในธารน้ำแข็งแล้ว ให้เราไปที่ร้านเล่นเกมแล้วคุยกับหลินเฉิน เธอจะบอกเซลจิโอ้หายตัวไปอีกแล้ว ทั้งๆ ที่คอยจับตาดูมันดีแล้วเชียว เธอคิดว่ามันน่าจะหายตัวไปที่ช่องธารน้ำแข็ง เลยวานให้เดฟช่วยลองไปตามตัวมันกลับมาให้ที

ให้เราเข้าไปที่ประตูที่อยู่หลังหมู่บ้าน ที่จะอยู่ข้างๆ บ้านของเท็นซิน เมื่อเข้ามาจะพบกับแมงกะพรุนเรืองแสง ก็ให้ว่ายตามมันไปจนสุดทาง เดฟก็คิดว่าเซลจิโอ้กำลังซ่อนตัวอยู่หลังแผ่นน้ำแข็ง ก็เลยใช้ที่เจาะน้ำแข็งที่ได้รับมาจากซึจิเจาะแผ่นน้ำแข็งนี้ให้แตก ตอนนี้เราก็จะเล่นมินิเกมเจาะแผ่นน้ำแข็งกัน

เมื่อเราล่อเซลจิโอ้ออกมาได้แล้วหลินเฉินก็จะตามมาด้วยเช่นกัน เธอบอกว่าเป็นห่วงมันมากก็เลยรออยู่เฉยๆ ไม่ได้ พร้อมกับขอบคุณเดฟแล้วบอกให้ไปเจอกันที่ร้านเล่นเกมเธอจะมอบของรางวัลให้ที่นั่น ก็ให้กลับไปคุยกับเธอที่ร้านก็จะได้รับเงิน 150 เหรียญเบี้ยมาเป็นอันจบภารกิจ

ลูกพะยูนหาย (Lost baby Manatee)
ภารกิจนี้จะทำได้หลังจากที่เราได้ช่วยเบลูก้าที่ติดพิษอยู่เสร็จแล้ว เมื่อกลับมาที่หมู่บ้านชาวทะเลให้ไปหากูโม (ชายที่ปลูกสาหร่ายให้เรา) กูโมจะเล่าให้ฟังว่าลูกของพะยูนหายตัวไป ทำให้แม่ของมันกังวลมาก ก็เลยถามว่าเดฟพอจะรู้เรื่องบ้างมั้ย เดฟก็เลยคิดว่าลูกพะยูนอาจจะตามเบลูก้าไปพื้นที่ธารน้ำแข็งหรือเปล่านะ ก็เลยว่าจะลองไปเช็คที่นั่นดู

ให้เราไปที่พื้นที่ธารน้ำแข็ง แถวๆ บริเวณที่เจอกับเบลูก้าดูระหว่างทางเราจะได้ยินเสียงร้องของลูกพะยูน ให้ตามไปจนสุดทางก็จะเห็นบริเวณที่พื้นน้ำแข็งมีรอยแตกอยู่ ซึ่งตรงนี้เราจะต้องไปหาหินมาวางทิ้งไปที่รอยแตกนั่นให้ครบ 3 ครั้ง หินทั้ง 3 ก็หาได้รอบๆ เลย พอครบ 3 ครั้งแล้วรอยแตกจะพังลงไปข้างล่างกลายเป็นหลุม ให้เราเข้าไปข้างในได้เลย

เดินไปจนสุดทางจะเจอกับลูกพยูนแต่มันกำลังกลัวอยู่ ก็ให้ลูบตัวมันจนในที่สุดลูกพยูนจะยอมตามเรามา ในระหว่างทางกลับเราจะต้องสู้กับงวาฬนาร์วาล และต่อด้วยฉลามพอร์บีเกิล เมื่อฆ่าพวกมันได้หมดแล้วเราก็จะออกมาข้างนอก เดฟก็จะบอกให้ลูกพยูนกลับไปที่หมู่บ้านก่อนได้เลย จากนั้นก็ให้เราตามมันกลับไปแล้วคุยกับกูโม เขาก็จะขอบคุณเราเป็นอันจบภารกิจ

อาหารทอดของใครอร่อยที่สุด? (Whose Fried food is the Best?)
ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาหลังจากเคลียร์ภารกิจ VIP ของหวังพังแล้ว ในคืนวันหนึ่งที่ร้านซูชิบันโชจะมีแขก VIP คนใหม่เข้ามาเยี่ยมร้านเขาชื่อว่า อเล็กซ์ (Alex) นักทอดปลา

ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC
วินเซนต์: ยินดีที่ได้พบทุกท่านอีกครั้ง ผมวินเซนต์ ยามาโอกะ
เดฟ: ในที่พวกเขาก็มาอีกแล้วสินะ
ยุย: ในตอนที่แล้วของรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ ร้อนแรงเหมือนดั่งลาวาเลยล่ะค่ะ มันเป็นการพัฒนาที่น่าสนใจจริงๆ และในวันนี้เราก็มีผู้ท้าชิงคนใหม่ เชิญพบกับคุณอเล็กซ์ คูเปอร์ ผู้ที่ได้รับระดับแพลทตินั่นใน Cooksta เชฟจากสหราชอาณาจักร
อเล็กซ์: อ่า นายต้องเป็นเชฟซูชิที่เอาชนะหวังพังในการแข่งขันคราวที่แล้วใช่ไหม? ฉันคาดหวังว่าร้านอาหารจะหรูหรากว่านี้..แต่ร้านของคุณก็เป็นกันเองจริงๆ
ยุย: โอ้ ผู้ท้าชิงได้เริ่มท้าทายแชมป์ของเราแล้วค่ะ การแข่งขันนี้ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ หัวข้อในวันนี้ก็คือ ทะเลทอด! ทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารในสหราชอาณาจักร อาหารทอดนั้นก็ถือว่าได้รับความนิยมทั้งคู่ ถึงแม้จะดูคล้ายกันแต่ก็เป็นของแท้ในแบบของตัวเอง อาหารของใครจะทำให้คุณวินเซนต์พอใจกันแน่ พวกคุณเดากันออกหรือเปล่าว่าใครจะเป็นผู้ชนะ? แค่คิดตอนนี้ฉันก็น้ำลายสอแล้วค่ะฮาฮา และก็เหมือนอย่างคราวที่แล้วที่เราจะให้เวลาเตรียมตัว 2 วัน ผู้ชมทุกท่านการแข่งขันครั้งนี้จะลุกเป็นไฟ! โปรดรอติดตามว่าจะเกิดขึ้นในรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ 
เดฟ: ครั้งนี้ดูท่าจะง่ายนะ ปลากะพงทอดหรือกุ้งลายเสือดำของนายน่าจะชนะได้ไม่ยากเลย
บันโช: ครั้งนี้ฉันเลือกใช้ปลาทะเลลึก
เดฟ: ทำไมล่ะ?
บันโช: ก็เมนูพวกนั้นมันเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และฉันก็ไม่อยากทำแค่เลียนแบบรสชาติเฉยๆ ฉันหยิบมีดทำครัวขึ้นมาเพื่อลองวัตถุดิบและรสชาติใหม่ๆ ของท้องทะเล เนื้อปลาทะเลลึกโดยทั่วไปจะนิ่มและเป็นวุ้น ฉันจะทอดมันแล้วทำให้มันแข็งเพื่อเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัส!
เดฟ: แต่นายยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสูตรอาหารของพวกปลาทะเลลึกนะ จะเป็นยังไงหากวิเซนต์ไม่ชอบอาหารของนายล่ะ
บันโช: ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะทำอาหารจานปลาทะเลลึกที่ดีที่สุดเอง สำหรับวัตถุดิบหลักก็จะเป็น ปลาฉลามคุกกี้คัตเตอร์ (Cookiecutter Sharks), หมึกแวมไพร์ (Vampire Squids) และ ปลาแบร์เรลอาย (Barreleye)
เดฟ: รายชื่อปลาพวกนี้มันค่อนข้างทะเยอทะยาน แต่ก็นะฉันเชื่อในสัญชาตญาณของนาย จะจับปลาพวกนั้นมาให้เอง
ปลาฉลามคุกกี้คัตเตอร์ (Cookiecutter Sharks) ปลาตัวนี้จะมีสีเหลืองหาตัวพบได้ยากหน่อย หาได้ที่ความลึก 130-250 เมตร

หมึกแวมไพร์ (Vampire Squid) หมึกตัวสีแดงรูปร่างโดดเด่น หาได้ที่ช่องธารน้ำแข็ง (เข้าประตูหลังที่หมู่บ้านชาวทะเล)

ปลาแบร์เรลอาย (Barreleye) ปลาตัวเล็กสีดำตาเขียว หาได้ที่ช่องธารน้ำแข็ง (เข้าประตูหลังที่หมู่บ้านชาวทะเล)

ส่วน Kelp สาหร่ายทะเลนั้นสามารถหาได้ทั่วไปง่ายๆ ที่ระดับความลึก 50-130 เมตร

เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วและถึงวันนัดหมาย
ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายทุกท่าน อย่างที่ทุกคนรู้กันดี วันนี้คือวันที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นในรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ บันโชคุณเตรียมพร้อมมั้ยคะ?
บันโช: พร้อมแล้ว
ยุย: แล้วคุณล่ะคะอเล็กซ์
อเล็กซ์: พร้อมแล้ว ตอนนี้นิวของฉันมันสั่นจนควบคุมไม่ได้แล้ว
ยุย: ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ถ้างั้นเราก็มาเริ่ม ท้าทาย♦ยอดเชฟ กันได้เลย!
ตอนนี้ฉากก็จะตัดไปยังมินิเกมทำอาหาร ให้เราทำตามที่ขั้นตอนได้บอกเอาไว้ เมื่อเสร็จแล้วทั้ง 2 คนก็จะนำอาหารมาให้กับวินเซนต์ได้ชิม และผู้ชนะของการแข่งขันครั้งนี้ก็คือบันโช
อเล็กซ์: อะไรเนี่ย?! ปลาและมันฝรั่งทอดของฉันแพ้หรือนี่? ช่างน่าผิดหวัง อาหารทอดของฉันคือที่สุดของโลก…
วินเซ็นต์: ใช่ปลาและมันฝรั่งทอดของคุณมีรสชาติที่เยี่ยมยอดจริงๆ น่าทึ่งมากจริงๆ แต่คุณอย่าลืมว่าหัวข้อในครั้งนี้อะไร?
อเล็กซ์: หัวข้อคือปลาทอดไม่ใช่หรอ?
วินเซ็นต์: มันก็ไม่ถูกเสียทีเดียว หัวข้อในครั้งนี้คือทะเลทอด! ปลาค็อดทอดที่ทอดอย่างพิถีพิถันนั้นอร่อยดีอยู่แล้ว แต่การทอดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแสดงถึงรสชาติของทะเลได้ ส่วนจานของบันโชนั้น…นายใช้ซอสอะไรหรอ?
บันโช: ฉันใส่สาหร่ายสีเขียวสับและใส่ลงในซีอิ๊วขาวธรรมดา
วินเซ็นต์: อย่างที่ฉันคาดหวังไว้ ฉันชอบการรวมกันของปลาฉลามและหมึก แต่ส่วนที่เป็นไฮไลท์มันคือสูตรซอสของนาย ซีอิ๊วขาวปรุงรสด้วยกลิ่นทะเล แสดงถึงรสชาติของทะเลได้ดีกว่า รสชาติช่างน่าประทับใจจริง อาหารของนายทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้สำรวจท้องทะเล ตั้งแต่ผืนน้ำชายฝั่งไปจนถึงท้องทะเลลึก นั่นเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจ! เนื้อสัมผัสของอาหารทอดของคุณก็อร่อยดี แต่สิ่งที่เปลี่ยนเกมคือซีอิ๊วของคุณ
อเล็กซ์: อนิจจา..เฟรนช์ฟรายที่สมบูรณ์แบบของฉันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้กรรมการพอใจ
ยุย: ช่างเป็นศึกที่สูสี มาฟังกันดีกว่าว่าคุณบันโชจะพูดอะไร!
บันโช: คุณควรจะระวังในการปรุงซีอิ้ว มันจะ…
ยุย: ขอบคุณค่ะบันโช แชมป์ของเรามักทำมากกว่าพูด และพวกเราก็ชอบมัน ก็ถึงเวลาสรุปผลการแข่งขันในวันนี้กับ ท้าทาย♦ยอดเชฟ ผู้ชนะของเราคือบันโช มันช่าง…
วินเซ็นต์: เดี๋ยวก่อน ผมค่อนข้างพอใจกับการแข่งขันในวันนี้ทีเดียวและอยากจะมอบคำแนะนำอะไรบางอย่างให้กับเขา นายก็เห็นว่าเมนูของนายเยอะขึ้น แต่เครื่องดื่มกลับเหมือนเดิมใช่มั้ย?
บันโช: นั่นเพราะว่าฉันคือเชฟ ไม่ใช่บาร์เทนเดอร์
วินเซ็นต์: นายก็พูดเหมือนเดิม การรับประทานอาหารคือประสบการณ์ที่ครอบคลุม นายจะจับคู่พาสต้ากับอะไร? ไวน์หนึ่งแก้ว, โค้กหนึ่งแก้ว หรือน้ำหนึ่งแก้ว? มันจะเปลี่ยนประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างมีนัยสำคัญ ร้านอาหารของนายไม่สามารถสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้ ด้วยเครื่องดื่มที่มีให้เลือกอย่างจำกัด รับนี่ไปสิเป็นของขวัญจากฉันเอง มันคือเครื่องทำค็อกเทล
บันโช: หืม? ค็อกเทล? พวกมันไม่ค่อยเข้ากับซูชิเท่าไหร่นัก
วินเซ็นต์: ไม่เอาน่า ค็อกเทลไม่ได้หวานไปทุกอันหรอกนะ นายสามารถทำค็อกเทลที่น่าสนใจได้ด้วยการสาเกเป็นฐาน ก็แน่ล่ะ นายไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบเรื่องเครื่องดื่มนี่นา ผู้ชายที่ดูหิวโหยคนนั้นน่ะ เฮ้! ใช่ นายนั่นแหละ!
เดฟ: ฉันหรอ?
วินเซ็นต์: ฉันจะวางเครื่องทำค็อกเทลไว้ที่นี่ นายน่าจะรู้วิธีการใช้มัน
ยุย: โอ้ของขวัญจากคุณวินเซ็นต์! เครื่องทำค็อกเทล! ร้านบันโชซูชิจะนำเสนอเมนูใหม่เพิ่มเติมเร็วๆ นี้! และเราแทบจะรอไม่ไหวที่จะดูว่าจะมีเมนูใหม่อะไรเพิ่มเข้ามาบ้าง! แล้วพบกันครั้งหน้า และนี่คือการรายงานโดยยุยค่ะ!
เดฟ: ค็อกเทล…เครื่องตัวนี้มันถูกออกแบบมาให้เสิร์ฟค็อกเทลที่ต่างกันได้ 3 ชนิดในเวลาเดียวกัน
บันโช: ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับค็อกเทลเลย แต่เมื่อลองคิดดูแล้ว นี่มันเหมือนโอมากาเสะเวอร์ชั่นเครื่องดื่มเลย
เดฟ: ใช่เลยฟังดูสมเหตุสมผลดี มันคืองานของเราที่จะเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้าที่ต้องการ ทำไมพวกเราไม่มาหาเงินเพิ่มด้วยการใส่ค็อกเทลลงไปในเมนูด้วยล่ะ?
หลังจากจบภารกิจ ในร้านของเราจะมีเครื่องดื่มใหม่เป็นค็อกเทลเสิร์ฟให้กับลูกค้าอีกด้วย

ความเจ็บปวดของบันโช? การประกวดพาสต้า! (Bancho’s Ordeal? Pasta Contest!)
ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาหลังจากเคลียร์ภารกิจ VIP ของอเล็กซ์แล้ว ในคืนวันหนึ่งที่ร้านซูชิบันโชจะมีแขก VIP คนใหม่เข้ามาเยี่ยมร้านเขาชื่อว่า พาวโทร (Pastro) จิตวิญญาณแห่งอิตาลี

ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC วันนี้พวกเรามีแขกรับเชิญพิเศษค่ะ เท่าที่พวกเรารู้มา แขกรับเชิญของเรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับบันโชมากก่อน เธอเคยเป็นคนไม่ดี เอ้ยนักแสดงระดับตำนานเลยล่ะ!
บันโช: ลอยจิ!
ลอยส์: ขอโทษนะ ชื่อของฉันคือลอยส์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะบันโช ครั้งล่าสุดที่ได้เห็นนายก็ตอนนายเป็นเจ้าของร้านอาหารในโรงแรม 5 ดาว ไม่ใช่ร้านโทรมๆ แบบนี้ อาหารจานปลาฉลามนั่นคงขายไม่ดีล่ะสิถ้า ฮาฮาฮา!
เดฟ: เธอนี่หยาบคายจริงๆ เธอเป็นนักวิจารณ์ร้านอาหารที่ทำให้นายเสียชื่อเสียงใช่ไหม?
บันโช: นายได้ยินเรื่องนี้มาจากคุณโยชิเอะหรอ? ใช่แล้ว นั่นเธอล่ะ เธอมาที่ต่ำต้อยแบบนี้ทำไม ฉันคิดว่าเธอจะวิจารณ์แต่ร้านอาหารหรูๆ เท่านั้น
ลอยส์: ก็เพราะการวิจารณ์ร้านอาหารก่อนหน้านี้ของนายนั่นแหละ มันกลายเป็นหนามยอกอกฉัน ชื่อเสียงของฉันได้รับผลกระทบจากคอมเม้นว่าฉันเป็น ‘พวกหัวแข็ง’ ‘ไม่เหมาะสมที่จะนักชิม ‘ และอื่นๆ อีก และอาชีพนักวิจารณ์ร้านอาหารของฉันก็ตกต่ำลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งหมดเป็นเพราะนายเสิร์ฟอาหารที่น่าขยะแขยงนั่นให้ฉัน
พาสโทร: เธอพยายามจะกลับมาด้วยการแสดงหนัง แต่มันก็ไม่เป็นไปด้วยดีเช่นกัน ช่างเป็นบาป..
ลอยส์: ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนั้น! ให้ฉันแนะนำหน่อยก็แล้วกันนี่คือ พาสโทร อันโตจิโอวานี ฉันพาเขามาจากอิตาลีเพื่อสอนให้นายรู้ว่าความสง่างามในการทำอาหารหมายถึงอะไร
พาสโทร: สวัสดีเพื่อน ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของนายมาเยอะมาก เชฟประหลาดที่ใช้วัตถุดิบแปลกๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ นายมันก็แค่เชฟการแสดงส่วนฉันจะพิสูจน์มันเองในวันนี้ ทำไมเชฟและคนทำอาหารจึงยึดติดกับส่วนผสมบางอย่าง เพราะส่วนผสมเหล่านั้นผ่านการช่วงเวลาแห่งการทดสอบและพิสูจน์มาแล้ว การแทนที่ส่วนผสมที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วตามกาลเวลาไม่ได้ทำให้อาหารดีขึ้น อาหารของนายมันน่าขยะแขยง ฉันจะทำให้นายเห็นเอง นายจะได้เรียนรู้ว่าทำไมอาหารอิตาลีจึงครองตำแหน่งผู้นำของโลกมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ
ยุย: โอ้ เรื่องดราม่าจากในอดีต! ฉันแทบจะรอดูไม่ไหวแล้วว่ามันจะพัฒนาไปเป็นรูปแบบไหนได้อีก! สำหรับหัวข้ออาหารในครั้งนี้ก็คือ พาสต้า!
เดฟ: ทำไมหัวข้อประเภทอาหารมันถึงทำให้ผู้ท้าชิงได้เปรียบเสมอเลยล่ะ!
ยุย: การต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ทั้ง 2 ท่านจะเป็นอย่างไร! แล้ววินเซนต์ล่ะจะเลือกใคร! เหมือนในคราวที่แล้วเราจะให้เวลาอีก 2 วันในการเตรียมตัว แล้วมาพบกันใหม่ในอีก 2 วันข้างหน้า โปรดรอติดตามว่าจะเกิดขึ้นในรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ 
เดฟ: พาสต้า? มันไม่ลำเอียงเกินไปเหรอ? เชฟชาวอิตาลีคนนี้ได้เปรียบแน่นอน
บันโช: ฉันเห็นรายการนี้ในทีวี เลยรู้ว่าสปอนเซอร์หลักของรายการนี้ก็คือบริษัท B&C
เดฟ: บริษัท B&C นั่นมันแฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดังไม่ใช่หรอ ร้านอาหารพวกเขาก็ค่อนข้างดีนะ แล้วปัญหาอยู่ตรงไหนล่ะ?
บันโช: พวกเขาเสิร์ฟอาหารที่ดี ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ แต่ตัวอักษร C จาก B&C นั่นน่ะ มาจากคำว่า ครอว์ฟอร์ด นั่นแหละปัญหา
เดฟ: อะไรนะ?! นั่นมันบริษัทของ ลอยส์ ครอว์ฟอร์ดอย่างงั้นหรอ!?
บันโช: อันที่จริงมันคือบริษัทของครอบครัวเธอ และวันหนึ่งเธอก็จะได้รับการสืบทอด
เดฟ: เข้าใจล่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอเป็นนักแสดงแต่มีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารเป็นอย่างดี ฉันพนันเลยว่าเธอน่าจะแก้แค้นนายผ่านรายการครั้งนี้
บันโช: เป็นไปได้ แต่ยังไงเธอก็ทำได้แค่เลือกหัวข้อให้การแข่ง สุดท้ายวินเซนต์จะเป็นผู้ตัดสินทุกอย่าง ลิ้นของเขาไม่เคยโกหก ฉันยังมีโอกาสชนะได้ถ้าหากเตรียมตัวได้ดีพอ ครั้งนี้ฉันจะทำอาหารที่ต้องใช้กุ้งและปลาหมึก นายช่วยไปเตรียม หมึกฮัมโบลต์ (Humboldt Squids), กุ้งขาว (White Shrimp), ข้าวสาลี และ กระเทียม (Garlic) มาให้ด้วยนะ หมึกฮัมโบลต์จะหาตัวได้เฉพาะในเวลากลางคืน เพราะงั้นนายก็อย่าลืมลงไปล่าในเวลานั้นด้วยล่ะ
เดฟ: เข้าใจแล้ว (หืม ดูท่าการแข่งครั้งนี้คงจะไม่ง่ายสำหรับบันโชเลย)
หมึกฮัมโบลต์ (Humboldt Squids) หาได้ที่ความลึก 50-130 เมตร เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น

กุ้งขาว (White Shrimp) หาได้ที่ความลึก 0-130 เมตร ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ช่วงกลางวันอาจจะหาตัวยากหน่อยเพราะสีของมันไม่ค่อยชัดเจน แต่หากช่วงกลางคืนเวลาที่อยู่ใกล้ตัวมันจะส่องแสงสีขาวเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เราต้องใช้ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน

ส่วนข้าวสาลีและกระเทียมเราสามารถปลูกได้ที่ฟาร์มของอ็อตโต้เลย

เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วและถึงวันนัดหมาย
ยุย: สวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่าน ดิฉันคือยุยจากสถานี NDC วันนี้คือวันที่พวกเราทุกคนรอคอย! ความขัดแย้งอันยาวนานนี้จะจบลงโดยชัยชนะของใคร? บันโชคุณเตรียมตัวพร้อมหรือยัง
บันโช: พร้อม
ยุย: คุณพาสโทร?
พาสโทร: ฉันพร้อมแล้ว มาเริ่มกันได้เลย
ยุย: เยี่ยมเลยค่ะ งั้นมาเริ่มรายการ ท้าทาย♦ยอดเชฟ กันได้เลย!
ตอนนี้ฉากก็จะตัดไปยังมินิเกมทำอาหาร ให้เราทำตามที่ขั้นตอนได้บอกเอาไว้ เมื่อเสร็จแล้วทั้ง 2 คนก็จะนำอาหารมาให้กับวินเซนต์ได้ชิม และผู้ชนะของการแข่งขันครั้งนี้ก็คือบันโช
พาสโทร: มัมมามียา! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! ฉันพาสโทร อันโตจิโอวานี แพ้ในการแข่งขันพาสต้าหรอเนี่ย? ฉันยอมรับคำตัดสินแบบนี้ไม่ได้ การแสดงนี้มันน่าเบื่อและไม่คุ้มกับเวลาของฉัน แย่มาก
พาสโทรก็เดินออกจากร้านไปด้วยความโมโห
วินเซนต์: ชิ ไอหมอนี่มันใจร้อนจริงเชียว คาร์โบนาร่าของเขาสุดยอดมาก มันอร่อยน่าเหลือเชื่อจริงๆ ฉันชอบการผสมผสานระหว่างซอสกวนชาเลรสเค็มและซอสไข่แดงที่นุ่ม มันอร่อยอย่างกับได้ขึ้นสวรรค์
ลอยส์: แล้วทำไมเขาถึงไม่ชนะล่ะวินเซนต์?
วินเซนต์: คุณลอยส์ คุณรู้มั้ยว่าทำไมอาหารจานนี้ถึงได้ใช้หมึกด้วย
ลอยส์: อะไรนะ? มันไม่ใช่แค่เพื่อทำสีอย่างนั้นหรอ? ทำไมต้องเสียเวลามาทำสีแบบนั้นด้วย?
วินเซนต์: มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะคุณลอยส์ สีสันที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลเท่านั้น หมึกของปลาหมึกทำให้คิดถึงรสชาติของน้ำทะเลธรรมชาติ ตอนที่ฉันกินพาสต้าของบันโชฉันเห็นความมืดมิดและทะเลที่เงียบสงบ พาสต้าสีดำ และสัตว์ทะเลในเวลากลางคืนที่กระจายตัวอยู่ทั่วทะเลดำ ฉันรู้สึกเหมือนได้ดำดิ่งลงไปในความมืดอันเงียบสงบ เปลือยกายในยามค่ำคืน
เดฟ: (ทำไมต้องแก้ผ้าด้วยล่ะ)
วินเซนต์: ความอร่อยเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล แม้แต่สำหรับนักวิจารณ์อย่างฉัน การจะตัดสินอย่างเป็นกลางไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉันชอบรสชาติอาหารทั้ง 2 จานเท่ากัน แต่ก็ให้คะแนนบันโชมากกว่าตรงจุดที่ เขานำเสนอได้ตามหัวข้อเกือบจะสมบูรณ์แบบในทุกซอกทุกมุม
ลอยส์: เหตุผลของนายมันไร้สาระมาก! นายรู้มั้ยว่าใครเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ในรายการของนาย?
วินเซนต์: ฉันรู้! โนแลน ครอว์ฟอร์ด ประธานบริษัทของกลุ่ม B&C พ่อของเธอ เขาเป็นอาจารย์ของฉันด้วย
ลอยส์: นายรู้จักพ่อของฉันเป็นการส่วนตัวหรอ? เป็นไปได้ยังไง?

ฉากจะตัดมายังอดีตวินเซนต์จะเล่าเรื่องที่ทำให้เขาได้รู้จักกับ โนแลน ครอว์ฟอร์ด ย้อนกลับไปในอดีตในสมัยที่ฉันยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นฉันทำงานในร้านอาหารของพ่อเธอที่นิวยอร์ก ช่วงเวลานั้นฉันยังไม่มีประสบการณ์กำลังเป็นพ่อครัวฝึกหัดแต่ก็โชคดีที่พ่อของเธอจ้างฉัน งานแรกก็ยังก็คือการทำไข่เจียว ถึงแม้ไข่จะเป็นวัตถุดิบทั่วไปแต่มันก็เป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่จะฝึกฝนให้ชำนาญได้ ตอนนั้นฉันมีปัญหาในการกลับด้านไข่เจียว แต่แล้วก็มีมือหนึ่งเข้ามาแตะที่ไหล่พร้อมด้วยรอยยิ้ม นั่นก็คือพ่อของเธอโนแลน ครอว์ฟอร์ด เขาได้สอนเคล็ดลับในการกลับด้านไข่เจียวให้กับฉัน

เขาที่เป็นถึงเจ้าของร้านอาหารแต่ก็ยังยอมเสียเวลามาสอนพ่อครัวฝึกหัดที่ถูกจ้างมาใหม่ ความหลงใหลและความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่มีต่ออาหารเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันอย่างแท้จริง เขาพยายามมองหาสิ่งใหม่และทดลองสูตรอาหารใหม่อยู่เสมอ เขาล้มเหลวหลายครั้งมาเกินกว่าที่ฉันจะจำได้ แต่สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จ ตอนนี้เขาเป็นผู้ประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ฉันเชื่อว่าความหลงใหลของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ฉันรู้สึกได้ คุณลอยส์ ทำเธอคุณถึงไม่ลองชิมพาสต้าของบันโชด้วยตัวเองล่ะ สุดท้ายลอยส์ก็ตัดสินใจที่จะกินพาสต้าของบันโชด้วยตัวเอง เราจะได้ชมฉากที่ศัตรูของบันโชได้กินอาหารของเขาสักที

ลอยส์: ฉันยอมรับแล้วว่าฉันมีอคติ พาสต้าจานนี้มัน…สุดยอดมาก ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์เท่านั้น มันมีรสธรรมชาติของส่วนผสมแต่ละอย่าง และฉันก็วิจารณ์อาหารของเขาโดยไม่ได้ลองชิมด้วยซ้ำ ฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นนักวิจารณ์ร้านอาหาร
บันโช: อย่าโทษตัวเองเลย พวกเราก็แค่มีปรัชญาเกี่ยวกับอาหารที่แตกต่างกัน
ลอยส์: บันโช ฉันรู้ว่ามันเป็นข้อเสนอที่ค่อนข้างกะทันหันแต่…นายสนใจเกี่ยวกับการเปิดร้านสาขาบ้างมั้ย?
บันโช: สาขางั้นหรอ?
ลอยส: ใช่แล้วร้านบันโชซูชิอีกร้านยังไงล่ะ ชัดเจนว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจปรัชญาอาหารของนาย แต่หากพวกเขาได้ลองชิมอาหารของนายสักครั้ง พวกเขาจะตื่นขึ้นสู่มิติใหม่ของอาหาร ฉันอยากให้พวกเขาได้มีโอกาสอันน่าทึ่งนั้น แต่ร้านอาหารของนายในตอนนี้มันเล็กเกินไป
บันโช: มันใหญ่พอแล้วสำหรับฉัน
ลอยส์: ร้านอาหารของนายเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างแล้ว ผู้คนจะแห่กันมาที่ร้านของนายในไม่ช้านี้ นายต้องเตรียมตัวรับมือและรักษาคุณภาพของอาหารนายไว้ก่อนที่จะเสิร์ฟให้ลูกค้า
เดฟ: แต่ถ้าหากเขาเปิดร้านสาขา นั่นจะยิ่งยากกว่าเดิมที่จะควบคุมคุณภาพอาหารนะ
ลอยส์: เขามีพนักงานที่ยึดมั่นและเดินตามรอยปรัชญาของเขาเหมือนกันใช่ไหม? พวกเขาก็น่าจะเป็นผู้จัดการในร้านสาขาได้
บันโช: ผู้จัดการงั้นหรอ
ลอยส์: ไม่ต้องกังวล เชื่อใจในพนักงานของนายสิ พวกเขารู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อรักษาชื่อเสียงที่นายสร้างไว้ เชื่อใจในพนักงานและทำให้ผู้คนได้ชิมอาหารของนายให้มากขึ้น
บันโช: แต่ฉันไม่มีระบบการจัดการที่ดีและไม่มีเงินทุนสำหรับเปิดสาขาใหม่
ลอยส์: เรื่องนั้นฉันจะเป็นคนช่วยเอง ฉันรู้วิธีการดำเนินงานของร้านแฟรนไชส์ ฉันก็ได้รับการฝึกสอนจากพ่อของฉันมาเป็นอย่างดี ฉันมีความสามารถและเงิน แถมฉันจะไม่ถามหาผลตอบแทนจากนายเลย ให้คิดซะว่ามันคือของรางวัลสำหรับผู้ชนะในการแข่งขันก็แล้วกัน
บันโช: ฉันไม่แน่ใจเลยว่าทำแบบนี้มันจะดีแล้วหรือเปล่า… บันโชซูชิที่ไม่มีฉันอยู่…
เดฟ: บันโชฉันคิดว่านายควรจะลองทำมันนะ นี่จะเป็นความท้าทายที่ดีสำหรับพนักงานในการเติบโตต่อไป
บันโช: ถ้าทุกคนคิดแบบนั้นล่ะก็ ฉันก็ไม่มีทางเลือกแล้ว โอเคฉันจะเปิดร้านสาขา แล้วฉันจะต้องทำอะไรบ้าง? สั่งไม้กระดานหรืออะไรบ้างล่ะ?
ลอยส์: ไม่ต้องห่วงเรื่องการก่อสร้าง บริษัท B&C จะจัดการมันให้เอง นายแค่แต่งตั้งผู้จัดการและตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนเสิร์ฟคนเตรียมวัตถุดิบและอาหารมาก็พอ ตอนนี้มันก็เป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว การก่อสร้างจะเสร็จในวันพรุ่งนี้เช้า
เดฟ: เธอต้องพูดล้อเล่นแน่นอน
ลอยส์: อย่างไรก็ตาม ฉันตระหนักว่าฉันเป็นคนหัวแข็งต่อแนวทางใหม่ๆ ของอาหาร ฉันขอโทษสำหรับการรีวิวอาหารของนายในทางที่ไม่ดีในอดีต จากนี้เป็นต้นไปฉันจะช่วยให้อาหารของนายกระจายให้กว้างไกลไปเลย แล้วฉันจะติดต่อมาอีกครั้งตอนที่ร้านสาขาพร้อมเปิดให้บริการก็แล้วกัน

ในเช้าวันต่อมาปรากฏว่าลอยส์ก็ได้โทรมาบอกว่าร้านสาขาพร้อมเปิดให้บริการแล้วตามที่เธอได้บอกเอาไว้ เดฟก็ตกใจว่ามันเร็วขนาดนี้เลยหรอ ลอยส์เลยบอกว่านี่แหละคือความไวของระดับท๊อปในอุตสาหกรรมอย่างบริษัทในเครือ B&C ตอนนี้นายก็บอกให้บันโชไปที่ร้านสาขาได้แล้ว ไว้เจอกันที่นั่นล่ะ แล้วเดฟ บันโชและคอบร้าก็จะมาเจอกับลอยส์ที่ร้านสาขา ก็จะเริ่มระบบฝึกสอนเกี่ยวกับการบริหารในร้านสาขาแห่งนี้ โดยเรื่องสำคัญก็คือจะต้องมีพนักงานประจำการอยู่ที่นี่อย่างน้อย 3 คน เพราะต้องมีคนเป็นผู้จัดการ 1, เป็นเชฟ 1 และคนเสิร์ฟอาหารอีก 1 จากนั้นก็ต้องมากำหนดวัตถุดิบที่จะให้ร้านสาขาใช้ โดยเราจะต้องแบ่งขนส่งพวกมันมาจากสาขาหลักอีกด้วย ในส่วนของปลาสามารถสั่งฟาร์มปลาให้มาส่งที่ร้านสาขาแห่งนี้ได้ด้วยเช่นกัน ส่วนจะใช้วัตถุดิบระดับใดได้บ้างนั้นก็คือขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการ เมื่อจบการฝึกสอนเบื้องต้นแล้วก็เป็นอันจบภารกิจ สำหรับร้านสาขาเราก็สามารถบริหารเพื่อให้ได้รับเงินต่อวันที่มากขึ้นได้นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้เยอะเทียบเท่ากับร้านหลักของเรา

 
				 
															 
								 
															



 
								