บทที่ 2 สู่ความลึก
เช้าวันถัดมาจากงานปาร์ตี้ปลาหมึกยักษ์ ด็อกเตอร์เบคอนก็จะเข้ามาพูดคุยด้วย แต่ตอนนี้สภาพของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากเมื่อคืนดื่มมากเกินไปก็เลยแฮงค์ ส่วนเรื่องธุระก็ไม่มีอะไรมากเพียงแค่มาบอกว่าตอนนี้มีหมวกไฟฉายแล้ว สามารถลงไปบริเวณที่ลึกได้ แต่ก็อย่าลืมทำการอัพเกรดชุดดำน้ำด้วย เมื่อพูดจบเขาก็อ้วกออกมา ทิ้งคราบอ้วกเอาไว้กลางทะเลแล้วก็ขับเรืออกไป

ภารกิจหลักในการดำน้ำวันนี้ก็คือพยายามลงไปส่วนที่ลึกขึ้นกว่าเดิม ก็ให้อัพเกรดชุดดำน้ำให้เป็นเลเวล 4 จะทำให้สามารถลงไปได้ลึกถึง 230 เมตร หากใครไม่มีเงินก็แนะนำให้ไปกดขายไอเทมกับคอบร้า แนะนำให้ขาย Large Gold Bar ที่ได้เป็นของรางวัลมาจากการช่วยปลาโลมาครั้งที่ 2 ได้เลย จะได้รับเงินมา 500 ทอง ก็เอาไปอัพเกรดชุดดำน้ำได้เลย

เมื่อเราลงมาในน้ำจะเจอจอห์นวัตสันเข้ามากล่าวหาว่าเราได้ทำร้ายทะเล ทำแม้กระทั่งอ้วกใส่ แกมันสิ่งมีชีวิตน่ารังเกียจเสียจริง เดฟก็พยายามบอกว่าเขาไม่ได้ทำ แต่จอห์นวัตสันก็ไม่ฟังคำแก้ตัว ตอนนี้แกโดนจอห์น วัตสันแห่งซีบลู ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเลจับได้แล้ว แกคงไม่ได้จากไปง่ายๆ หรอก ฉันจะทำให้แกกลายเป็นอาหารปลา จากนั้นจอห์นวัตสันก็ได้ยิงปืนระเบิดเข้าใส่เดฟ แต่กลับพลาดเป้าไปโดนปลาที่ว่ายอยู่แทน จอห์นวัตสันก็โมโหและบอกว่าเป็นความผิดของแก แกกล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับทะเลอันล้ำค่า เดฟก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วบอกว่านายเป็นคนยิงระเบิดเองนะ และสิ่งที่ฉันทำก็มีแค่จับปลาไม่กี่ตัวเพื่อให้ร้านอาหารสามารถดำเนินการได้ ทำไมนายไม่ลองไปดูเรือประมงที่จับปลานับพันตัว ไม่ใช่มาคอยจับตาดูนักดำน้ำแบบฉัน จอห์นวัตสันก็ถึงกับเถียงไม่ออกเลยตะโกนว่า หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ฉันจะปิดปากคนขี้บ่นของแกซะ แล้วเราก็จะต้องสู้กับจอห์นวัตสัน

เมื่อเอาชนะเขาได้แล้วจอห์นวัตสันก็จะพูดว่า อั่ก…แกกล้าดียังไงที่สู้กับฉัน จอห์นวัตสัน อดีตหน่วยซีลของกองทัพเรือ จากนั้นเขาก็หันหน้าไปอีกทางแล้วยิงระเบิดเข้าไปที่พื้น ทำให้พื้นเป็นหลุมลึก แล้วหันมาพูดกับเดฟว่า นั่นเป็นแค่การเตือน ตอนนี้ฉันจะกลับไปก่อนเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ฉันจะไม่ปล่อยแกไปโดยไม่ได้ลงโทษ หากแกยังคงทำลายทะเลต่อไป พวกเราจะคอยจับตาดูแก พูดจบแล้วจอห์นวัตสันก็ได้ว่ายน้ำมุดลงไปที่หลุมนั้น

จบเรื่องแล้วก็ให้เราว่ายลงไปสำรวจตามที่จุดเรด้าร์ได้ระบุเอาไว้ เมื่อลงมาถึงระดับความลึกใหม่ หมวกไฟฉายของเราก็จะทำงาน ในพื้นที่นี้จะมีจุดที่เหมือนเป็นทางเล็กๆ แต่พวกหนอนท่อสีแดงจะขวางทางเอาไว้อยู่ เราจำเป็นจะต้องเปิดกล่องสีเหลืองเพื่อหาไฟฉาย UV ให้เก็บมาแล้วเอาไฟฉาย UV นี้ส่องไปทางหนอนพวกนั้นแหละ แล้วพวกมันจะหดตัวทำให้เราสามารถเดินผ่านทางเล็กพวกนี้ได้

อีกหนึ่งอย่างที่เป็นเรื่องใหม่ก็คือในพื้นที่นี้ จะมีแร่บางชนิดที่เราไม่สามารถใช้มีดหรืออุปกรณ์อื่นทั่วไป ทำการขุดมันมาได้ จะต้องหา อีเต้อ (Pickaxe) ที่ได้จากการเปิดกล่องเหลือง มาทำการขุดมันเท่านั้น แร่พวกนี้จะต้องใช้เพื่ออัพเกรดอาวุธปืนของเรา

เมื่อเราว่ายมาตามทางจนถึงจุดที่เรด้าร์ระบุเอาไว้ จะได้เจอกับชาวทะเลทั้ง 2 คนที่ได้เจอก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายหญิงดูเหมือนกำลังนอนสลบอยู่ ส่วนฝ่ายชายเมื่อเห็นเดฟก็เกิดอาการแตกตื่นตกใจเป็นอย่างมากและพูดอะไรสักอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้ เดฟที่เห็นแบบนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจกันได้ ก็เลยโทรหาด็อกเตอร์เบคอน ด็อกเตอร์เบคอนที่รับสายก็ตกใจที่ได้รู้ว่าชาวทะเลมีตัวตนจริงๆ เดฟก็บอกปัญหาว่าตอนนี้พวกเขาพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่เข้าใจ ด็อกเตอร์เบคอนก็บอกว่าขอเวลาให้เขาได้วิเคราะห์รูปแบบภาษา อาจทำให้สามารถแปลภาษาได้ ตอนนี้ให้กลับขึ้นไปที่เรือก่อน เขาจะคิดหาวิธีการแปลภาษาเอง ตอนนี้ก็ให้เราเดินทางกลับขึ้นไปบนเรือได้เลย เมื่อขึ้นมาด้านบนด็อกเตอร์เบคอนก็ได้เข้ามาขอบคุณเราที่ได้พิสูจน์แล้วว่าชาวทะเลมีจริง นี่คือการค้นพบแห่งศตวรรษเลยทีเดียว

เครื่องแปลภาษาชาวทะเล (Sea People Language Translator)
คอบร้าจะดีใจมากและอยากปล่อยข่าวเรื่องชาวทะเลให้ดังออกไปทั่วโลก แต่ทางด็อกเตอร์เบคอนไม่เห็นด้วย ถ้าเกิดเป็นข่าวค้นพบเรื่องของซากปรักหังพังน่ะมันไม่เป็นไรหรอก แต่นี่คือชาวทะเล หากข่าวดังออกไปจะต้องมีพวกล่าสัตว์ปรากฏตัวขึ้นแน่นอน พวกเขาจะทำการล่าชาวทะเล คอบร้าก็เริ่มเข้าใจเรื่องนี้แล้ว ด็อกเตอร์เบคอนก็เลยบอกว่า ตอนนี้พวกเราควรสร้างเครื่องแปลขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์คลื่นเสียงและหาคำตอบว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน สำหรับการจะทำเครื่องแปลได้ จะต้องมี แผ่นหินของชาวทะเล (Sea People Stone Tablet) ที่มีอะไรบางอย่างเขียนเอาไว้ แล้วก็ ไมโครโฟน (Microphone) และ อเมทิสต์ (Amethyst) ไมโครโฟนนั้นจะหาได้จากส่วนของข้างในเรือล่ม ส่วนแผ่นหินของชาวทะเลจะหาได้ภายในห้องบันทึกของชาวทะเล และแร่อเมทิสต์จะหาได้ที่ส่วนลึกเกินกว่า 150 เมตร และจะต้องใช้อีเต้อในการขุดมัน แน่นอนว่าสำหรับใครที่จำไม่ได้ด็อกเตอร์เบคอนก็ได้ลงแอปที่ชื่อว่า To-Do App เราสามารถดูรายละเอียดของภารกิจกันได้



เมื่อด็อกเตอร์ได้ขับเรือออกไป ซาโต้ก็จะถีบเรือเข้ามาต่อ ที่เขามาก็เป็นเพราะว่าได้รับการแจ้งเตือนจากในแอป MarinCa ว่าเดฟเก็บการ์ดบอสปลาหมึกยักษ์ได้ เลยอยากถามว่าเดฟไปเอามันมาได้ยังไง เพราะมันคือการ์ดหายากมาก เดฟก็เลยเล่าให้ฟังว่า เขาแค่กำลังตามหากล่องพัสดุและได้โอกาสเจอมันเข้าพอดี ซาโต้ก็ไม่เข้าใจว่าเดฟหมายถึงอะไร แต่ก็ช่างเถอะและเขาก็บอกว่าให้เดฟพยายามรวบรวมเหล่าการ์ดบอสเข้าล่ะ อาจจะมีบางอย่างที่ดีเกิดขึ้นก็เป็นได้ และซาโต้ก็ได้อธิบายเพิ่มอีกด้วย เมื่อเข้าไปในพื้นที่ใหม่ตัวระบบก็จะปลดล็อคการ์ดชุดใหม่ให้เราด้วย

ซาโต้จากไปแล้วเราก็จะได้รับโทรศัทพ์จาก อูโดะ (Udo) เขาเป็นนักข่าวจากหนังสือที่ชื่อว่า Weekly Fish เดฟก็เลยบอกว่าเขาก็อ่านหนังสือนี้ด้วยเช่นกัน อูโดะก็ดีใจถามเราว่าเขาได้ยินมาว่าที่หลุมสีน้ำเงินมันมีปลาหลากหลายสายพันธุ์เลยใช่มั้ย เดฟก็บอกว่าจะพูดว่าแบบนั้นก็ได้ มีปลาหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก อูโดะก็ดีใจรู้สึกว่าเขามาถูกที่แล้ว เขาล่ะอยากจะถ่ายรูปเพื่อนำไปลงหนังสือแต่เขาดำน้ำไม่เป็น ก็เลยอยากจะรบกวนให้เดฟช่วยถ่ายรูปมาให้เขาได้มั้ย เดฟก็เลยบอกว่าเขาไม่เก่งเรื่องถ่ายรูปเท่าไหร่กลัวจะได้ภาพไม่ดีนัก อูโดะเลยบอกว่าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงยังไงคุณก็เป็นคนอ่านหนังสือ Weekly Fish อยู่แล้วน่าจะพอรู้ว่าต้องถ่ายรูปประมาณไหน และแน่นอนว่าจะมีรางวัลให้ด้วยหากถ่ายรูปสวยๆ มาได้ เดฟพอได้ยินว่ามีรางวัลก็หูผึ่งรีบตอบตกลงทันที ตอนนี้ก็จะปลดล็อคระบบใหม่ที่เรียกว่า Photo Spot เมื่อเราดำน้ำแล้วพบสัญลักษณ์กล้องขึ้นมา ก็ให้เราไปทำการถ่ายรูปบริเวณนั้น แล้วเราไปรับรางวัลจากอูโดะได้เลย

เมื่อเก็บรวบรวมของทั้ง 3 อย่างได้ครบแล้วตอนที่เราขึ้นมาบนเรือด็อกเตอร์เบคอนก็จะขับเรือมาหาเพื่อเอาของทั้ง 3 อย่างนั้นไปสร้างเป็นเครื่องแปลภาษาให้ หากทำเสร็จแล้วเขาจะติดต่อมาหาเราอีกครั้งเอง

คุณลูกค้าที่เสียงดัง (A Noisy Customer)
ในคืนแรกของบทที่ 2 บันโชจะโทรเข้ามาหาบอกว่ามีลูกค้าท่าทางแปลกๆ มาอยู่ที่ร้าน เลยอยากให้เดฟช่วยเข้ามาที่ร้านเพื่อจัดการหน่อย เมื่อมาถึงร้านซูชิแล้วจะเห็นชายคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนชาวไร่ นั่งดื่มเบียร์แล้วโวยวายอยู่ ให้เราเดินเข้าไปคุยกับเขา ชายคนนี้ชื่อว่า อ็อตโต้ (Otto) เดฟก็บอกว่าตอนนี้ร้านยังไม่เปิด คุณจะเข้ามาในร้านแบบนี้ไม่ได้ อ็อตโต้ตอบกลับว่า นายนี่เข้มงวดจังนะ ฉันแค่จะพูดไม่กี่คำ ฉันไม่ได้ไปชายหาดมาสักพักแล้ว และมันก็ทำให้ฉันนึกถึงความทรงจำเก่าๆ ฉันเป็นนักดำน้ำที่เก่งมากก่อนที่จะโดนฉมวกแทงที่หัวเข่า เดฟก็ดีใจ คุณคือนักดำน้ำสินะ ผมก็เป็นนักดำน้ำเหมือนเดิม อ็ออโต้เลยพูดต่อว่า งั้นนายต้องรู้เกี่ยวกับความฝันของนักดำน้ำที่อยากว่ายน้ำในทะเลทุกแห่งของโลกแน่ๆ ป่าแนวปะการัง! กลุ่มปลาวาฬสเปิร์ม! การต่อสู้ถึงชีวิตกับฉลามเสือ! อืม..ทำให้ฉันนึกถึงอาหารจานหนึ่งที่ฉันอยากกินมาก เดฟเลยถามว่าคุณอยากกินอะไรล่ะ อ็อตโต้ก็บอก เมื่อตอนเด็กๆ แกงปลาไหลมอเรย์ที่หมู่บ้านประมงของฉันมันโด่งดังมาก ฉันลืมรสชาติของมันไม่ได้เลยล่ะ หากนายทำอาหารจานนั้นได้ บางทีฉันอาจจะให้ของขวัญดีๆ กับนายก็ได้ ฮี่ฮี่ เดฟก็คิดว่าแกงปลาไหลมอเรย์งั้นหรอ ปลาไหลมอเรย์ชอบซ่อนตัวอยู่ในหิน ทำให้จับตัวมันได้ยาก ว่าแต่คุณจับตัวมันมาได้ยังไง อ็อตโต้บอกว่าฮาฮา นายนี่รู้จักการดำน้ำ แต่ไม่รู้จักระบบนิเวศเลยสินะ ปลาไหลมอเรย์น่ะออกหากินเวลากลางคืน มันจะออกมาเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น นายมีอุปกรณ์สำหรับดำน้ำในตอนกลางคืนหรือเปล่าล่ะ เดฟก็บอกว่าพึ่งได้หมวกไฟฉายมาไม่นานนี้เอง อ็อตโต้เลยบอกว่านั่นก็โอเคแล้ว ทีนี้ก็ให้ไปดำน้ำในช่วงกลางคืนแล้วจับปลาไหลมอเรย์มาช่วยให้ฉันสมหวังที

จากนี้ไปเราจะสามารถดำน้ำในตอนกลางคืนได้แล้ว ทำให้ใน 1 วันเราสามารถดำน้ำได้สูงสุด 3 ครั้ง โดยหากเราดำน้ำตอนกลางคืนก็จะพบกับพวกปลาที่แตกต่างจากช่วงเวลากลางวันอีกด้วย เพียงแต่หากเราเลือกดำน้ำในตอนกลางคืน มันจะทำให้ช่วงเวลาเปิดร้ายขายซูชิลดลงไป 1 ใน 3 ส่วน

แต่การที่จะทำเมนู แกงปลาไหลมอเรย์ (Moray Eel Curry) ได้ ก่อนอื่นเลยในแอป Cooksta ของเราจะต้องถูกเลื่อนขั้นเป็นระดับ เงิน (Silver) ก่อน ถึงจะสามารถเรียนรู้เมนู แกงปลาไหลมอเรย์นี้ได้

และแน่นอนว่าเราจะต้องดำน้ำในตอนกลางคืนเพื่อจับตัวปลาไหลมอเรย์มา ซึ่งตัวปลาไหลนี้ก็จะหาได้ไม่ยาก เพียงแค่ว่ายน้ำไปไม่นานก็น่าจะได้เห็นแล้ว มันจะเป็นปลาตัวยาวๆ สังเกตุได้ไม่ยาก

พอมีวัตถุดิบครบและเรียนรู้เมนูแล้ว ตอนลงทะเบียนเมนูก็อย่าลืมนำแกงปลาไหลมอเรย์ลงทะเบียนเข้าไปด้วย ทีนี้ก็เปิดร้านแล้วนำมันไปเสิร์ฟให้กับอ็อตโต้ได้เลย พออ็อตโต้ก็ได้กินก็รู้สึกพอใจมาก แล้วบอกว่าให้เราไปพบกับเขาที่พื้นที่ว่างด้านหลังร้านอาหาร

สำรวจปะการังประหลาด (Investigate the Strange Coral)
ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาหลังจากที่เราไปเจอชาวทะเลทั้ง 2 คนมาแล้ว เมื่อเราว่ายน้ำที่ระดับความลึกประมาณ 70 เมตร จะมีโอกาสได้เจอปะการังรูปร่างประหลาด แต่เมื่อเข้าสำรวจใกล้ๆ จะได้พบปลาหมึกแดงโผล่ออกมาจากปะการัง มันจะพ่นน้ำหมึกใส่เรา ให้เราว่ายน้ำตามปลาหมึกแดงนั่นไป แล้วมันจะมุดหนีเข้าไปประตู ก็ให้ใช้เครื่องตัดแก๊สผ่าประตูได้เลย ทีนี้เราก็จะเข้าสู่พื้นที่ใหม่ เมื่อเข้ามาถึงปลาหมึกแดงก็จะมุดรูหนีออกไป แต่ตรงพื้นจะมีกำไรหล่นอยู่อันหนึ่ง เมื่อเก็บได้แล้วขึ้นไปบนเรือก็จะเช็ดทำความสะอาดแล้วพบว่ามันคือเครื่องราง Octopus Bracelet เมื่อใส่จะทำให้เราสามารถ Dash พุ่งไปข้างหน้าได้เล็กน้อยโดยไม่ใช้ออกซิเจนเลย แต่หลังจากใช้แล้วจะมีเวลาคูลดาวน์นิดหน่อยถึงจะใช้งานมันใหม่ได้อีกครั้ง

พูดคุยกับชาวทะเล (Speak with the Sea People)
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เรานำของทั้ง 3 อย่างมอบให้กับด็อกเตอร์เบคอนแล้ว เขาก็จะนั่งเรือมาหา บอกว่าการสร้างเครื่องแปลภาษาคนเดียวมันเป็นเรื่องยากเกินไป เลยขอความช่วยเหลือจากดัฟฟ์จนในที่สุดเครื่องแปลภาษาก็ทำเสร็จแล้ว ตอนนี้เราสามารถแปลภาษาของชาวทะเลได้ ทีนี้เป้าหมายต่อไปของเราก็คือการกลับไปหาชาวทะเลทั้ง 2 อีกครั้ง

แต่ก่อนหน้านั้นดัฟฟ์จะโทรศัพท์เข้ามาหาเรา เขาจะมอบความช่วยเหลือโดยการอัพเกรดปืนให้กับเรา เพื่อตอบแทนที่เราช่วยเหลือในภารกิจลีอาห์-จัง ระบบพัฒนาอาวุธนี้คือระบบที่ดีมาก โดยหากเรารวบรวมวัสดุที่เก็บจากในทะเลได้ครบแล้ว จะสามารถเลือกพัฒนาอาวุธได้ตามที่ต้องการ นับว่าเป็นระบบสำคัญมาก ที่เราจะเลือกอาวุธประจำตัวที่ชื่นชอบได้

ทีนี้ก็ให้เราดำน้ำไปยังจุดที่เราเจอชาวทะเลทั้ง 2 คน พอได้ลองใช้เครื่องแปลภาษาแล้วก็พบว่ามันทำงานได้ผลเป็นอย่างดี ทำให้เราสามารถคุยกับชาวทะเลได้รู้เรื่องแล้ว
เดฟ: อ่า..อ่า…คุณ…ได้ยินผมมั้ย?
ซูวอน: อะไรนะ! ทำไมพวกมนุษย์ถึงพูดภาษาเราได้ล่ะ? เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ…ร่างกายของเขาดูแตกต่างจากมนุษย์ที่เราเห็นเมื่อคราวก่อน
เดฟ: …
ซูวอน: ยังไงก็เถอะ ฉันควรจะแนะนำตัวหน่อย ฉันชื่อซูวอน ในหมู่พวกเราชาวใต้พื้นดิน… อ้อ คุณเรียกพวกเรา ว่าชาวทะเลใช่ไหม? คุณอาจจะบอกได้ว่าฉันคือผู้ชายที่กล้าหาญและเจ๋งที่สุด อะแฮ่ม!
เดฟ: ซูวอน..ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อว่าเดฟ
ซูวอน: ฮี่ฮี่ เดฟ…ในภาษาพวกเรา ชื่อของคุณมันออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “ฝาชักโครกแตก”
เดฟ: (สิ่งมีชีวิตนี้มันมันยังไงกันเนี่ย?)
ซูวอน: ยังไงก็เถอะ ผู้หญิงที่นอนอยู่นี่คือลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านชาวทะเล เธอชื่อว่าราโม ตั้งแต่ถูกเจ้าปลาหมึกยักษ์โง่นั่น ลักพาตัวไป เธอก็หมดสติตลอดเวลาเลย ถ้าฉันรู้ตัวเร็วกว่านี้สักนิดนะ จะโชว์ให้มันเห็นดีสักอย่างสองอย่างแล้วล่ะ ส่วนนายมนุษย์ อย่าทำตัวหยิ่งเพราะว่าปราบไอ้ปลาหมึกไร้ค่านั่นได้เชียวล่ะ ฉันคือคนที่ปกป้องราโม
เดฟ: นายนี่มันน่ารำคาญจริงเชียว เอาเถอะดูเหมือนนายจะมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูด ว่ามาสิ
ซูวอน: โอ้เกี่ยวกับเรื่องนั้น เพื่อทำให้ราโมฟื้นตัวขึ้นมาได้ พวกเราต้องการ ยาสมุนไพร (Medicinal Herbs) แต่ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้ เพราะต้องคอยดูแลราโม มนุษย์นายจะต้องไปเอายาสมุนไพรมาเพื่อช่วยราโม นายต้องไป ปะการังขนนก (Feather Coral) และปะการังลิลลี่ (Lily Coral) ที่ขึ้นอยู่แถวนี้มา แล้วทำให้มันเตรียมพร้อมกินได้ แล้วค่อยมามอบให้ฉัน
เดฟ: ทำให้มันกินได้? แล้วฉันจะทำยังไง?
ซูวอน: นั่นมันเป็นเรื่องที่นายต้องหาทางเอาเองสิมนุษย์! ไปหาเชฟหรืออะไรสักอย่างเพื่อช่วยซะ!
เดฟ: อืมม เธอป่วยอยู่ เลยทำให้ฉันปฏิเสธไม่ช่วยไม่ได้สินะ ปะการังขนนกและปะการังลิลลี่ ฉันจะไปลองค้นหาแถวๆ นี้ดูแล้วกัน

ทีนี้ก็ให้เราลองว่ายค้นหาบริเวณรอบๆ แถวความลึกนี้ดูก็จะพบปะการังทั้ง 2 แบบได้ไม่ยาก เมื่อเก็บได้ครบแล้วให้ขึ้นจากน้ำไปที่เรือ แล้วเราจะไปขอความช่วยเหลือจากบันโชเพื่อปรุงให้มันกินได้

ของขวัญจากอ็อตโต้ (Otto’s Gift?)
ภารกิจนี้จะปรากฏขึ้นมาหลังจากที่เราทำแกงปลาไหลมอเรย์ให้กับอ็อตโต้ไปแล้ว ในตอนเช้าเขาจะโทรมาหาเพื่อบอกให้เราเข้าไปที่ด้านหลังของร้านอาหาร ก็ให้เราเดินทางไปตามที่ระบบฝึกสอนแนะนำได้เลย เมื่อมาถึงจะพบว่าที่นี่คือฟาร์มปลา โดยปลาในแต่ละบ่อจะแบ่งระดับตามความลึกที่พบได้ของมัน ในแต่ละบ่อนั้นจะสามารถจุปลาได้จำกัด แต่ก็สามารถเลือกอัพเกรดเพิ่มความจุได้ ปลาที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มปลานี้ หากเข้าไปตรวจสอบที่บ่อก็สามารถเลือกส่งปลาที่ต้องการไปยังร้านอาหารบันโชได้โดยตรง

ส่วนวิธีการเพิ่มปลาลงในบ่อฟาร์มปลาพวกนี้ เราจะต้องจับปลาให้ได้แบบมีชีวิต มันจะทำให้เราได้รับไข่ปลาของตัวปลาที่เราจับเป็นมาได้ ซึ่งไข่ปลาก็จะถูกนำมาเพาะในฟาร์มปลาให้แบบอัตโนมัติเลย อีกเรื่องหนึ่งก็คือหากเราสามารถจับปลาชนิดเดียวกันมาได้มากกว่า 2 ตัวขึ้นไป มันจะสามารถผสมพันธุ์และเพิ่มจำนวนได้เองอีกด้วย

รักษาราโม (Treat Ramo)
หลังจากได้ปะการังทั้ง 2 แบบแล้วให้กลับไปที่ร้านซูชิ แล้วเดินไปคุยกับบันโช (เวลาไหนก็ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน) บันโชก็จะทำการปรุงปะการังให้กลายเป็นโจ๊กอ่อนนุ่มกินได้ง่าย ทีนี้ก็ให้กลับลงไปหาซูวอนอีกครั้ง

เดฟ: อ่ะนี่ ฉันเอาโจ๊กปะการังมาให้
ซูวอน: โอ้โห นายเอามันมาจริงๆ สินะ *ฟุดฟิด* เหมือนว่าจะใช่
จากนั้นซูวอนก็จะมาเอาโจ๊กที่เราแล้วว่ายไปหาราโม
ซูวอน: ราโม กินโจ๊กปะการังนี่สิ ฉันเตรียมมันมาเองเลยนะ
เดฟ: …
ราโมก็จะตื่นขึ้นมากินโจ๊ก
ราโม: ฟิ้ว ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ฉันจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากเห็นหนวดปลาหมึกนั่น ห๊ะ! มนุษย์? มนุษย์มาทำอะไรที่นี่?
เดฟ: เอ่อก็..ฉันบอกได้ว่าฉันพึ่งช่วยชีวิตเธอ ปราบปลาหมึกยักษ์และเอาโจ๊กปะการังมาให้
ราโม: หืมม อย่างงั้นหรอ?
ซูวอน: เดี๋ยวสิ ราโม ไม่ใช่แบบนั้น ฉันนี่แหละคือคนที่…
ราโม: เอาล่ะ ถ้าแบบนั้น! มนุษย์! เจ้าจะต้องคุ้มกันข้ากลับหมู่บ้านของข้า!
เดฟ: ฉันหรอ? ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย?
ราโม: ข้าเป็นผู้หญิงที่บาดเจ็บอยู่นะ! เจ้าต้องป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ สิ!
ซูวอน: ราโม ฉันพาเธอกลับไปเอง..
ราโม: ซูวอน! นายน่ะออกไปก่อนแล้วสำรวจทางให้พวกเราสิ
ซูวอน: อะไรนะ? ทำไมเธอถึงต้องให้มนุษย์คุ้มกันด้วยล่ะ! ฉันก็ดูแลเธอให้ปลอดภัยได้และ…
ราโม: นายน่ะแม้กระทั่งการทดสอบกลยุทธ์ในหมู่บ้าน ก็ยังไม่ผ่านเลย! การมาถึงที่นี่ก็ยากพออยู่แล้ว
ซูวอน: อั่ก เธอจี้ใจดำฉัน!
ราโม: ซูวอน! นายหยุดบ่นได้แล้วและไปดูเส้นทางข้างหน้าเลย ส่วนเจ้ามนุษย์ เจ้าต้องมาอุ้มข้าไว้บนหลังด้วย
เดฟ: บนหลังฉันหรอ? ข้างล่างนี้มันก็เคลื่อนไหวได้ยากอยู่แล้วนะ
ราโม: โอ้ย..แผลที่ครีบของฉันมันปวดขึ้นมาอีกแล้ว..
เดฟ: เธอนี่มันเหลือเกิน ฉันพาเธอไปที่หมู่บ้านก็พอแล้วใช่มั้ย ไม่มีอะไรอีกนะ?

ทีนี้ก็ให้เราเข้าไปอุ้มราโมเอาไว้ที่หลังแล้วให้ว่ายตามซูวอนไปเรื่อยๆ ส่วนตัวราโมเธอจะมีพลังพิเศษทำให้พวกหนอนท่อมันกลัวหดตัวไปเอง ไม่ต้องฉายแสง UV ในระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่ ทะเลจะเกิดการสั่นไหว ราโมก็บอกว่าการสั่นแรงแบบนี้ค่อนข้างเจอได้ยาก หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านกันนะ พวกเราต้องรีบกลับไป มนุษย์เร่งมือหน่อย! ระหว่างทางซูวอนก็จะมีพูดจาแซะเราอีกเล็กน้อยว่า เฮ้มนุษย์ ตอนนี้นายเหนื่อยแล้วหรือเปล่า? พาเธอมาแบบระมัดระวังด้วยล่ะ! จนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง ซูวอนจะบอกกับราโมว่า 
ซูวอน: เกิดเรื่องขึ้นแล้วราโม มันมีหินหล่นมาปิดทางพวกเรา 
ราโม: ไม่นะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน
เดฟ: อืมม บางทีมันอาจจะเป็นเพราะแรงสั่นที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ได้
ราโม: ซูวอน นายต้องคิดอะไรสักอย่าง ฉันต้องรีบกลับไปก่อนที่พ่อจะดุฉันมากไปกว่านี้!
ซูวอน: อืมม ฮืมมม บางทีพวกเราสามารถเปิดทางได้ด้วยการ ปล่อยกองหินใส่ลงไปที่นั่น ข้างบนนั่นไง ถ้าพวกเราทำให้มันหล่นลงมาก็อาจช่วยได้
ราโม: หวังว่ามันจะได้ผลนะ ว่าแต่พวกเราจะทำยังไงให้มันหล่นลงมาล่ะ หืมม? ฉันเห็นหมุดอยู่ตรงนั้น.. บางทีถ้าเราดึงมันออกล่ะ? มนุษย์! เจ้าจงไปดึงหมุดนั่นออกมาได้มั้ย?
เดฟ: หมุดงั้นหรอ? ถุงมือที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้ ถ้าไปดึงหมุดนั่นจะทำให้ฉันเจ็บมือแทนน่ะสิ หากได้เปลี่ยนถุงมือที่หนาและยึดเกาะได้ดีกว่านี้ก็น่าจะเป็นไปได้
ด็อกเตอร์เบคอน: เดฟ…ขอโทษทีนะ…ฉันได้ติดตั้งไมโครโฟนเอาไว้ที่มันพอดี เพราะฉันอยากรู้มากว่านายกำลังพูดอะไรกับชาวทะเล ถ้าหากนายต้องการพัฒนาถุงมือล่ะก็ ในห้องแล็บของฉันอาจจะช่วยได้
เดฟ: ถุงมือใหม่งั้นหรอ?
ด็อกเตอร์เบคอน: ฮ่าๆ อุปกรณ์ก็ต้องคู่กับการสำรวจไม่ใช่เหรอ? ขึ้นมาบนเรือสิ
เดฟ: ฉันคิดว่ามีวิธีแล้วล่ะ พวกเธอรอฉันอยู่ตรงนี้สักหน่อยได้มั้ย?
ซูวอน: เดี๋ยวก่อนมนุษย์ นายวางแผนจะทิ้งราโมไว้ในที่อันตรายแบบนี้งั้นหรอ? แต่โชคยังดีนะ เธอยังมีฉันคอยปกป้องอยู่ งั้นนายก็รีบกลับมาล่ะ

ตอนนี้ก็ให้เรากลับขึ้นไปบนเรือแล้วด็อกเตอร์เบคอนจะบอกกับเราว่า ประตูสู่หมู่บ้านชาวทะเลกำลังจะเปิดแล้วสินะ ตื่นเต้นมากจริงๆ ในห้องแล็บกำลังพัฒนาถุงมือดำน้ำเพื่อใช้ในการค้นหาโบราณวัตถุพอดี นอกจากจะใช้เพื่อดึงหมุดแล้วยังใช้เพื่อขยับวัตถุอย่างอื่นได้ด้วย รายละเอียดส่วนอื่นๆ เอาไว้บอกตอนพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน

เด็กสาวที่เงียบขรึม (Reticent Girl)
ภารกิจนี้จะปรากฏมาในคืนที่เราได้ให้โจ๊กกับราโมไปกินแล้ว เมื่อเราไปที่ร้านซูชิจะมีหญิงสาวท่าทางแปลกๆ ถือตุ๊กตาตัวหนึ่งหนึ่งเดินเข้ามาที่ร้าน

เดฟ: สาวน้อยร้านของเรายังไม่เปิดนะ
มากิ: …
เดฟ: สวัสดี? สาวน้อย?
มากิ: …
เดฟ: เอิ่ม..เธอดูเหมือนเด็กนักเรียน…ร้านพวกเรายังไม่เปิด…ค่อยกลับมาใหม่ทีหลังนะ
มากิ: ฟังนะ ไอ %$@#! ฉันได้ยินนายตั้งแต่พูดครั้งแรกแล้ว หยุดพูดพล่ามสักที
เดฟ: ก-เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?
มากิ: น-หนูขอโทษ! มันไม่ใช่หนูนะ…ไอ้ปลาปักเป้าเน่า แก! เอาอาหารมาให้ฉันสิ อาหาร!
เดฟ: เอิ่ม..เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?
บันโช: ฉันคิดว่าเคยได้อ่านอะไรแบบนี้มาก่อน มีวิธีการบำบัดโดยให้เด็กที่เคยประสบเหตุร้ายแรงได้พูดความคิดของตัวเองผ่านตุ๊กตา
มากิ: ตุ๊กตา? นายกล้าเรียกแบบนั้นได้ยังไง! ไองี่เง่านายมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่!
บันโช: ฉัน..คิดว่ามันอาจเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าที่บอก
เดฟ: ลองถามสิ่งที่เธอต้องการก่อนก็แล้วกัน
มากิ: ข้าวราดชาปลากะมงขาวใส่สาหร่ายคอมบุ ฉันต้องการมัน! เอามันมา!
เดฟ: เอิ่ม…นั่นฟังดูเหมือนสิ่งที่ผู้ชายสูงอายุต้องการ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราต้องให้สิ่งที่เธอต้องการเพื่อที่เราจะได้ลองพูดคุยกัน ข้าวราดชาปลากะมงขาวใส่สาหร่ายคอมบุ ลองดูวัตถุดิบก่อน

สำหรับเมนูนี้เราจะสามารถเรียนรู้วิธีทำได้หลังจากผ่านระดับเงิน (Silver) ใน Cooksta แล้ว โดยวัตถุดิบที่ต้องการก็จะมี White Trevally 3 ตัว, Kelp 1 อัน และ Soy Sauce 1 อัน หากมีวัตถุดิบครบและพร้อมแล้ว ในตอนที่จะเปิดร้านก็ให้ใส่เมนู White Trevally Kombu Ochazuke ลงไปที่เมนูเปิดขายของร้านด้วย แล้วก็นำไปเสิร์ฟให้กับสาวน้อยมากิได้เลย

มากิ: *สะอื้น*
เดฟ: หา? ทำไมเธอถึงร้องไห้ทันทีเลยล่ะ?
มากิ: มันดีมากเกินไป! แก $#%#$! มันดีมากเกินไป! ให้ตายเถอะ มันดีจริงๆ! มัน…ทำให้หนูนึกถึงพ่อ…*สะอื้น*
เดฟ: ก-เกิดอะไรขึ้น สาวน้อย?
มากิ: หนูชื่อว่ามากิ…กำลังตามหาพ่ออยู่…พ่อได้ทิ้งหนูไปเพื่อสำรวจทะเลลึก…และหนูไม่สามารถติดต่อพ่อได้อีกเลย อาหารที่พ่อชอบมากที่สุดก็คือ ข้าวราดชาปลากะมงขาวใส่สาหร่ายคอมบุนี่แหละ และหนูได้ยินมาว่าที่นี่เปิดขายมันอยู่ หนูก็เลยคิดว่าพ่ออาจจะมาที่นี่
เดฟ: น่าสงสารจัง…ฉันจะบอกเธอแน่นอนถ้าเราเห็นใครที่หน้าเหมือนพ่อของเธอนะ ว่าแต่ตุ๊กตานั่นคืออะไร?
มากิ: นี่คือตุ๊กตาคลีโอเน่ พ่อให้มันเอาไว้ก่อนที่เขาจะจากไป โอ้! หนูมีอะไรบางอย่างที่อยากจะขอ มันเกี่ยวกับคลีโอเน่ หนูไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย พอจะจับมาสักตัวให้หน่อยได้มั้ย?
เดฟ: ห๊ะ? คลีโอน่? อืมม..พวกเราจับมันด้วยฉมวกไม่ได้เพราะตัวมันเล็กเกินไป จะทำยังไงดีนะ?
มากิ: ลองใช้ไอนี่ได้มั้ย?
เดฟ: โอ้? สวิงจับแมลง? อืมม ฉันคิดว่ามันน่าจะใช้ได้นะ เอาล่ะจะลองดูก็แล้วกัน!
มากิ: แกกำลังทำอะไรอยู่ ไอ้แมวน้ำ! รีบใส่กางเกงรัดติ้วของแกแล้วกระโดดลงน้ำสิ! โอ้..หนูขอโทษ..หนูยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้..
เดฟ: …

จับคลีโอเน่ (Catch Clione)
หลังจากทำอาหารให้มากิได้กินแล้ว ตอนนี้เราจะปลดล็อคอุปกรณ์เพิ่มอีกหนึ่งชิ้นนั่นก็คือ สวิงจับแมลง ทำให้เราสามารถจับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อย่างม้าน้ำและคลีโอเน่ได้แล้ว ก็ให้เราว่ายลงไปความลึกเดียวกันกับที่เจอกับซูวอนและราโมได้เลย จะมีโอกาสเจอคลีโอเน่ว่ายน้ำเล่นอยู่บ้าง ก็ให้จับมันมาให้ได้ 5 ตัว

ในขณะที่เราจับคลีโอเน่ไปได้ 4 ตัว เราจะได้เห็นคลีโอเน่ยักษ์ว่ายผ่านไป แต่ตอนที่เราจับคลีโอเน่ตัวที่ 5 ได้ เราจะถูกตัวคลีโอเน่ยักษ์งับเข้าไปทั้งตัว

ปราบราชินีคลีโอเน่ (Defeat the Clione Queen)
ภารกิจนี้จะต่อเนื่องจากจับคลีโอเน่ เมื่อเราถูกงับมาแล้วจะโผล่มาที่ถ้ำแห่งหนึ่ง เราจะต้องสู้กับ ราชินีคลีโอเน่ วิธีการสู้ก็คือให้ทิ้งระยะกับราชินีคลีโอเน่ให้ดี เพราะเธอจะพุ่งเข้าโจมตีใส่เราแทบตลอดเวลา และจะมีท่าพ่นพิษจากระยะไกล และพ่นพิษรอบตัว ค่อยๆ สู้แบบใจเย็นหลบหนีแล้วค่อยรอจังหวะยิงสวนก็พอ เพราะถ้าใจร้อนโดนเธอพุ่งชนจนตายแน่

เมื่อปราบเธอได้แล้วก็ให้เข้าไปแร่เนื้อที่ตัวเธอมาด้วย 2 ครั้ง จากนั้นเราจะเห็นอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้น ให้เข้าไปเก็บ จะพบว่ามันคือรูปภาพของมากิ ก็ให้เรากลับไปที่ร้านซูชิเพื่อเอารูปภาพให้เธอดู

เดฟ: นี่คลีโอเน่ที่เธอต้องการ
มากิ: โอ้มันน่ารักมากเลย ขอบคุณค่ะเดฟ
เดฟ: ฉันเจอนี่ด้วย
มากิ: ฮืม? รูปภาพหนูหรอ?
เดฟ: ฉันได้เจอกับคลีโอเน่ยักษ์ และเจอรูปนี่ที่รังของมัน
มากิ: มันมีปุ่นอยู่ที่ด้านหลัง จะลองกดมันดูนะ

พอกดปุ่มแแล้วจะเป็นคลิปที่พ่อของเธอได้ถ่ายเอาไว้
พ่อของมากิ: มากิ นี่พ่อเองนะ ถ้าลูกได้ดูสิ่งนี้ แสดงว่าพ่ออาจจะล้มเหลวในการสำรวจ เพราะตารางงานที่ยุ่งมาก พ่อแทบจะไม่ได้ดูแลลูกเลย ความโลภของพ่อเองที่ต้องการให้มีงานเยอะขึ้น ทำให้พ่อกลายเป็นพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบเลย ลูกไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักเพราะเราต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ เพราะงานของพ่อ ถึงแบบนั้นโปรดยกโทษให้พ่อด้วยที่เป็นพ่อที่แย่มาก และจงใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ และความฝันของลูกที่อยากจะเป็นเชฟ พ่อหวังว่ามันจะเป็นความจริง พ่อจะคอยมองดูลูกจากที่ไกลแสนไกล ดังนั้นอย่าปล่อยให้รอยยิ้มของลูกจางหายไปเลยนะ

เดฟ: อืม..ดูเหมือนว่ามันจะถูกตัดไปนะ
มากิ: …
เดฟ: อย่าเสียใจไปเลย ดูเหมือนว่าพ่อของเธอจะรักเธอมากนะ มากิ
มากิ: ได้โปรดให้ฉันทำงานที่นี่นะ
เดฟ: อะไรนะ? กระทันหันแบบนี้เลย?
มากิ: ใช่ พ่อของหนูคงไม่อยากให้หนูดูซึมและเศร้าขนาดนี้ หนูอยากแสดงให้เขาเห็นว่าหนูสบายดีและทำงานหนัก ในเมื่อคุณแสดงความกังวลและช่วยเหลือหนูแล้ว หนูก็อยากจะช่วยคุณเช่นกัน
เดฟ: เอิ่ม..บันโช นายคิดว่ายังไงดีล่ะ?
บันโช: อืม เด็กนี่มีจิตวิญญาณที่ดี ฉันชอบเธอ เธอสามารถเริ่มทำงานวันนี้ได้เลย แต่เธอจะไม่ได้รับการดูแลพิเศษใดๆ 
มากิ: ได้เลยค่ะ โอเค หนูจะเริ่มทำงานหนักเพื่อเรียนรู้และกลายเป็นสุดยอดเชฟ!
เมื่อจบภารกิจเราจะได้รับมากิมาเป็นพนักงานภายในร้าน

ทำลายปากทางเข้า (Destroy the Entryway)
ในตอนเช้าหลังจากที่ด็อกเตอร์เบคอนได้กลับไปพัฒนาถุงมือแล้ว ด็อกเตอร์เบคอนก็จะนำถุงมือดำน้ำอันใหม่มาให้ และบอกให้เราลองใช้มันดู ทีนี้ก็ให้ทำตามระบบฝึกสอน ที่ขั้นแรกให้เราแบกหินแล้วลอยขึ้นไปสูงเล็กน้อยแล้วปล่อยหินลงมาพังทาง แล้วก็ว่ายไปตามทางจนเจอเข้ากับกระแสน้ำ ก็ให้เราเกาะสมอเรือเพื่อพยุงตัวไม่ให้ปลิวไปตามกระแสน้ำ ทีนี้ก็ถึงเวลาดึงหมุดที่ปักอยู่ออก เป็นอันเสร็จสิ้นการฝึกสอนเบื้องต้น เราก็จะขึ้นมาบนเรืออีกครั้ง

คราวนี้ก็ให้กลับลงไปในน้ำแล้วว่ายไปยังจุดที่เราทิ้งซูวอนและราโมไว้
ราโม: โอ้ นายกลับมาแล้วมนุษย์ ฉันล่ะกลัวว่านายจะถูกฉลามครุยกินไประหว่างทางแล้วเสียอีก
เดฟ: (เธอพูดเหมือนใครสักคนที่ฉันรู้จัก…) ตอนนี้ฉันคิดว่าน่าจะดึงหมุดนั่นออกมาได้แล้วล่ะ เพราะว่าได้ถุงมือจากด็อกเตอร์เบคอน คนที่อาศัยอยู่ข้างบนพื้นดินน่ะ
ซูวอน: เบคอน ฮี่ฮี่ ในภาษาของเรา มันออกเสียงเหมือน “เนื้อวาฬบูด” ฮี่ฮี่
เดฟ: เอ่อ..โอเค รอที่นี่สักแปปนะ ฉันจะไปดึงมันออก

ให้เราว่ายขึ้นไปแล้วดึงหมุดนั่นออก หินจะถล่มลงมาแต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่เพียงพอ ราโมก็ชี้ว่ามันมีหินอีกกองหนึ่งอยู่ พอเราว่ายไปถึงบริเวณนั้นจะพบว่าหมุดมันอยู่ด้านบน ก็ให้เราว่ายอ้อมขึ้นไป แล้วดึงหมุดนั่นออกมา คราวนี้หินจะถล่มทะลุลงไปจนกลายเป็นทางให้เราว่ายลงต่อไปได้แล้ว

ราโม: ว้าว มนุษย์! ดีมาก พวกเรามีทางไปต่อแล้ว
ซูวอน: นายนี่มีประโยชน์มากกว่าที่เห็นนะ
ราโม: หมู่บ้านอยู่ใกล้นี่แล้ว เข้ามาทางรูที่นายเพิ่งสร้างไว้ ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน
เดฟ: เดี๋ยวนะ ฉันขอกลับไปตอนนี้เลยได้มั้ย?
ซูวอน: นายฟังคนอื่นหนอ่ยสิ! นายไม่ห่วงราโมบ้างเลยหรอ?
ราโม: นอกจากนั้นฉันมีเรื่องไหว้วานอย่างอื่นให้นายทำ ดังนั้น…ฉันอยากให้นายมาที่หมู่บ้านกับพวกเราด้วย
เดฟ: หมู่บ้านของชาวทะเล? ฉันน่ะนะ?
ราโม: ใช่ มีเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเดินทางมาจนถึงทะเลของมนุษย์ ฉันมีเรื่องไหว้วาน
เดฟ: โอ้ โอเค

ทีนี้ก็ให้เราว่ายลงไปยังหลุมที่หินถล่มได้เลย แล้วจะเกิดแรงสั่นสะเทือนพบปลาขนาดใหญ่กำลังว่ายผ่านไป
ราโม: มีอะไรบางอย่างพึ่งว่ายผ่านฉันไป! มนุษย์! ตามไปดูซิว่ามันคืออะไร
เดฟ: แต่มันมืดมากเลยนะ! ฉันรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรที่อันตรายอยู่

ว่ายไปทางขวาจนสุดทางจะเจอกับถ้ำที่มีแสงสว่างอยู่ เมื่อเข้าใกล้ก็จะพบคำเตือนว่ามีสิ่งมีชีวิตที่อันตรายอยู่ข้างใน หากพร้อมก็ให้กดโอเคได้เลย แต่หากยังไม่พร้อมก็กลับไปเตรียมตัวแล้วค่อยมาใหม่ก็ได้

เมื่อเราเข้ามาข้างในจะเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่พอสมควร เราจะได้สู้กับบอส ปลาไหลหมาป่า วิธีการสู้ก็คือในจังหวะที่มันดูดน้ำเข้าตัวให้เราเกาะสมอเรือด้านบนเอาไว้ จากนั้นมันจะออกฉากไปแล้วจะโผล่ออกมาเฉพาะหน้า ตอนนี้ให้เราว่ายไปที่ด้านข้างตัวมันแบบว่ายออกข้างไปไกลๆ จากหน้ามันเลย แล้วมันจะพุ่งหน้าเข้ามากัด หากหลบออกข้างได้ก็จะไม่โดนโจมตี หลังจากนั้นมันจะโผล่ออกมาจากทางซ้ายหรือขวาของฉาก ขยับตัวขึ้นลง เราต้องพยายามอยู่ด้านล่างแล้วรอดผ่านตัวไปให้ได้ ทีนี้มันจะมุดหน้าลงพื้นดินแต่ตัวจะติดอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ในจังหวะนี้ให้เราทำการ ยิงโจมตีไปที่หางสีเขียวสว่างของมันได้เลย รูปแบบการต่อสู้จะวนอยู่แค่นี้ แต่หากออกซิเจนใกล้หมดหรือไม่มีปืนให้ว่ายไปที่ซ้ายล่างจะมีเสบียงช่วยเหลืออยู่

หลังจากปราบปลาไหลหมาป่าได้แล้ว 
เดฟ: เฮ่อ ทำไมปลาไหลหมาป่ามันตัวใหญ่ได้ขนาดนี้กันเนี่ย
ซูวอน: อะแฮ่ม ฉันกำลังมุ่งหน้ามาเพื่อกำจัดมันเลยนะ แต่ดูเหมือนว่าจะมาช้าไปหน่อย
ราโม: ฮาฮา นายนี่แข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้นะ มนุษย์ ตอนนี้นายเห็นประตูใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นมั้ย? นั่นแหละคือทางเข้าหมู่บ้าน นำทางไปสิมนุษย์
ก่อนที่จะไปอย่าลืมแล่หางของปลาไหลหมาป่าด้วยพอทำเสร็จ 2 ครั้งแล้ว ก็ให้ว่ายไปทางขวาจนสุด

ซูวอน: ฟิ้ว ในที่สุดพวกเราก็กลับมาที่ประตูทางเข้าหมู่บ้านจนได้ ราโมเธอมีกุญแจอยู่ใช่มั้ย?
ราโม: โอ้ไม่นะ! ฉันทิ้งกุญแจเอาไว้ที่…ล้อเล่นน่ะ ฮี่ฮี่ ฉันมีกุญแจอยู่ในกระเป๋านี่
เดฟ: ฟิ้ว ฉันคิดว่าเธอจะขอให้ฉันอุ้มเธอกลับไปหากุญแจเสียอีก
ราโม: มาไขกุญแจแล้วกลับหมู่บ้านกัน

ทีนี้ราโมก็จะใช้กุญแจไขประตูแล้วกลับไปที่หมู่บ้านชาวทะเล จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ติดตามตอนต่อไปกันได้ที่

การกลับมาของปลาหมึก (Octopus Returns)
หลังจากที่เราได้ถุงมืออันใหม่ เมื่อลงไปที่ระดับความลึกช่วง 180 – 250 เมตร จะมีโอกาสเจอกับเหตุการณ์ที่กองหินมันกำลังขยับ เมื่อเราเข้าไปสำรวจก็จะได้พบกับปลาหมึกแดงอีกครั้ง มันจะพ่นหมึกใส่เราแล้วหนีเข้าไปในหลุมที่มีไม้ปิดเอาไว้อยู่ ก็ให้เราทำการหยิบหินที่อยู่ใกล้ๆ ลอยขึ้นไปปล่อยด้านบนเพื่อพังแผ่นไม้ 2 ที จะเปิดทางให้เราตามปลาหมึกแดงได้ พอไปเจอเข้ากับปลาหมึกแดงอีกครั้ง คราวนี้มันก็จะมุดหนีไปตามซอกหิน ส่วนเราก็จะเจอกับเครื่องรางชิ้นใหม่ Octopus Weapon Charm เมื่อสวมใส่จะทำให้อาวุธประเภทปืนยิงได้แรงขึ้นอีก 15%

ปลากระเบนราหูยักษ์ในเวลากลางคืน (Giant Stingray at Night)
หลังจากที่ได้ถุงมืออันใหม่ และได้ถ่ายรูปไปให้อูโดะบ้างแล้ว ในเช้าวันหนึ่งอูโดะจะโทรมาหาเรา แล้วขอบคุณเรื่องรูปภาพที่เราส่งไปให้ แต่เขาก็มีเรื่องใหม่มารบกวนให้เราทำ เลยถามเราว่ารู้จัก ปลากระเบนราหูมั้ย เดฟก็บอกว่ารู้จักสิ อูโดะบอกว่าแบบนั้นก็ดีเลย นายคิดยังไงล่ะถ้าจะถ่ายรูปมัน เดฟเลยตกลง แต่อูโดะก็บอกว่ามันเป็นปลาที่ออกหากินตอนกลางคืน เราจะต้องไปดำน้ำในเวลากลางคืน และพวกเราก็ต้องการเหยื่อล่อให้มันออกมาด้วย เขาจะไปเตรียมอุปกรณ์มาถ่ายรูปเอง แต่เดฟจะต้องไปเตรียมเหยื่อล่อ เดฟเลยบอกว่าเขาไม่รู้จะใช้อะไรเป็นเหยื่อล่ะดี แต่อูโดะก็บอกว่าเขามั่นใจว่าเดฟจะหาทางได้เอง ฉันหวังพึ่งนายอยู่นะ แล้วติดต่อมาเมื่อเตรียมเหยื่อย่อพร้อมแล้วล่ะ เดฟก็เลยว่าจะลองโทรไปถามเอลลี่ดูก่อนแล้วกัน

ทีนี้ก็ให้เรากดโทรไปหาเอลลี่ เดฟเลยถามว่ารู้มั้ยว่าปลากระเบนราหูชอบกินอะไร เอลลี่เลยบอกว่ามันชอบออกมาหาแพลงก์ตอนกินในเวลากลางคืน ถ้านายอยากจะล่อปลากระเบนราหู ให้ปล่อยสิ่งที่ล่อแพลงก์ตอนเรืองแสงในเวลากลางคืนแทนก็ได้ แล้วพวกมันจะมาหาเอง นายไปเตรียม สาหร่ายทะเล (Kelp) มา 5 อันเพื่อล่อแพลงก์ตอน ทีนี้ก็ให้เราลงน้ำไปหา สาหร่ายทะเลมา 5 อัน แต่ถ้าหากเรามีติดตัวอยู่แล้วก็ให้กดเปลี่ยนสถานที่ไปมาก็ได้ เช่นกดไป ร้านซูชิ, กดไปฟาร์มปลาแล้วกลับไปที่เรือ โดยไม่ต้องลงน้ำ แล้วเอลลี่จะโทรมาหา เธอได้เตรียมเหยื่อล่อให้เราเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราก็จะโทรหาอูโดะเพื่อบอกว่าเหยื่อล่อได้เตรียมพร้อมแล้ว

ถ่ายรูปปลากระเบนราหู (Take Pictures of Manta Ray)
หลังจากเตรียมเหยื่อล่อแล้ว ให้เรารอไปอีกหนึ่งวัน จนกว่าจะถึงช่วงเวลากลางคืนที่อูโดะโทรเข้ามาหาเรา เขาจะบอกว่าตอนนี้ได้เตรียมไฟเซทฉากเอาไว้พร้อมแล้ว ให้เราดำน้ำไปที่ความลึกประมาณ 20 เมตร เมื่อลงน้ำมาแล้วให้พยายามว่ายหาบริเวณที่เหมือนมีเครื่องปั่นไฟสีเหลือง บริเวณนั้นจะมีอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมเอาไว้แล้ว แต่ดูสภาพเหมือนโดนตัวอะไรมาทำลาย

ทางด้านซ้ายจะมีไฟล้มอยู่ก็ให้เราทำการตั้งไฟขึ้นมา ถัดมาด้านขวาเล็กน้อย จะมีอุปกรณ์สีขาวๆ มันคือหัวปลั๊กไฟ ให้เรายกมันแล้วลากไปยังเครื่องปั่นไฟสีเหลืองที่อยู่ทางขวา ทำ 2 อย่างนี้แล้วแสดงไฟจะติดขึ้นมา ทีนี้ให้เราวางเหยื่อล่อที่ตรงกลางระหว่างแสงไฟได้เลย

พอวางเหยื่อล่อแล้วจะเห็นแพลงก์ตอนมารวมตัวกัน ทีนี้เราต้องว่ายไปหลบอยู่หลังหิน โดยหินที่ว่านี้จะอยู่ข้างๆ เครื่องปั่นไฟนั่นแหละ แล้วปลากระเบนราหูก็จะปรากฏตัวออกมา ทีนี้ให้เราว่ายกลับไปเพื่อกดถ่ายรูปได้เลย พอได้รูปถ่ายแล้วก็กลับขึ้นไปที่เรือ แล้วอูโดะจะดีใจมากพร้อมกับให้เงินเรา 1,000 ทอง

เสียงร้องของวาฬ (Whale Cry)
ภารกิจนี้จะสุ่มเจอได้หลังจากที่ได้รับถุงมืออันใหม่มาแล้ว เมื่อลงไปในน้ำเล็กน้อยก็จะได้เจอกับวาฬหลังค่อมตัวใหญ่ กำลังส่งเสียงร้องเหมือนมันต้องการพูดอะไรกับเราบางอย่าง เดฟก็ทำการอัดเสียงแล้วลองไปถามเอลลี่ดู

เมื่อขึ้นไปบนเรือให้เรากดโทรหาเอลลี่ จากนั้นเราจะเปิดเสียงร้องให้เธอฟัง พอได้ฟังเอลลี่ก็บอกว่า มันกำลังมองหาลูกหลานของมันอยู่ บางทีลูกหลานของมันกำลังหลงทางอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ นายก็ช่วยฉันหน่อยได้มั้ยล่ะ หากนายได้ยินเสียงเด็กร้องก็บอกให้ฉันรู้ด้วย เดฟก็บอกว่ายังไงก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี เลยตกลงที่จะช่วย

ตามหาลูกวาฬ (Finding the Baby Whale)
ภารกิจต่อเนื่องจากเสียงร้องของวาฬ เมื่อเราดำลงไปในน้ำที่ระดับความลึกประมาณ 50-60 เมตร เราก็จะได้เสียงร้องของเด็ก เลยติดต่อกับเอลลี่ เอลลี่ก็บอกว่านั่นแหละเสียงร้องของลูกวาฬหลังค่อม ให้ลองค้นหาบริเวณรอบๆ นี้ดู ก็ให้เราว่ายน้ำไปตามเสียง จะได้เจอกับกองหินที่มีหมุดปักอยู่ ให้เราทำการดึงหมุดออกมา แล้วเข้าไปในถ้ำ ก็จะได้พบกับลูกวาฬนอนอยู่ มันกำลังอยู่ในอาการหวาดกลัว

ให้เราว่ายเข้าหาแล้วทำการปลอบขวัญมันหน่อย จะเป็นมินิเกมลูบตัววาฬ ให้ทำจนครบ 3 ครั้ง ทีนี้มันจะยอมตามเราออกจากถ้ำ ให้พยายามว่ายขึ้นไปด้านบน แต่หากระหว่างทางเจอปลาที่ดุร้ายเราก็ต้องรีบกำจัดปลาพวกนั้นให้ทันก่อนที่ลูกวาฬจะว่ายหนีไปอีก จนกระทั่งเราขึ้นมาด้านบนได้ จะเจอกับฝูงปลาฉลามเข้ามาล้อมพวกเราไว้ แต่วาฬตัวใหญ่จะโผล่เข้ามางับไล่พวกมันไป เมื่อวาฬทั้งใหญ่และเล็กได้พบกันแล้วพวกมันก็จะขอบคุณเราและจากไป

หลังจากขึ้นมาบนเรือเอลลี่ก็จะโทรมาหาเรา เธอบอกว่าดีใจที่เราพอลูกวาฬไปเจอแม่มันได้ เดฟก็บอกว่ามันไม่ง่ายเลย มันดูหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา เอลลี่เลยบอกว่ามันอาจจะแค่ไม่ชอบนายก็ได้ ยังไงก็เถอะ อย่ามัวแต่ใช้เวลาในการออกล่า หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ ระหว่างที่คุยกันอยู่ลูกวาฬจะกลับมาบอกลาเดฟก่อนที่จะกลับไปหาแม่ของมัน

คืนที่มีพายุ (Stormy Night)
หลังจากที่ได้รับถุงมือใหม่มาแล้ว จะมีอยู่คืนหนึ่งที่พายุเข้าฝนตกหนัก และเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ซาโต้จะถีบเรือเข้ามาหาเราเพื่อแจ้งข่าวว่าในคืนนี้จะมีสิ่งมีชีวิตหายากมากจะปรากฏตัว หากเราดำน้ำในค่ำคืนนี้ จะเห็นกระแสน้ำวนที่เกิดจากพายุ เมื่อเข้าไปในน้ำวนจะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตลึกลับ

เมื่อเราลงไปในน้ำคืนนี้ ให้พยายามอยู่ในระดับที่ลึกไม่เกิน 20 เมตร ว่ายไปเรื่อยๆ จะเจอหลุมน้ำวน เมื่อเข้าไปเราจะต้องสู้กับปูเสฉวนยักษ์ ซึ่งวิธีการสู้กับมันจะยุ่งยากอยู่บ้าง โดยในขณะที่ปูทุบหมัดลงไปบนพื้น จะทำให้พื้นเคลื่อนตัว และถังสารเคมีปรากฏขึ้นมา ให้เราทำการหยิบถังสารเคมี ยกขึ้นไปด้านบนและต้องหลบเศษเหล็กที่ใส่ตกลงมาด้วย โดยให้เราพยายามเล็งทิ้งถังลง ไปที่ด้านบนเปลือกของมันที่สีเหลืองๆ หรือล้อรถได้เลย ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปราบมันได้ (หากตายตรงนี้ไม่ต้องเสียใจ เราสามารถกด Restart เพื่อเริ่มสู้กับมันใหม่ได้ทันที)

เมื่อปราบได้แล้วมันจะมุดหนีลงไปในดิน แต่จะมีส่วนก้ามที่ถูกตัดทิ้งเอาไว้อยู่ ก็ให้เราเข้าไปแร่ก้ามปูยักษ์ 2 ครั้งได้เลย ทีนี้ก็กลับออกจากกระแสน้ำที่ด้านบน แล้วกลับขึ้นไปบนเรือ ซาโตะที่รออยู่จะตะลึงกับการ์ดบอสหายากมาก จึงให้เดฟกดแบ่งการ์ดและปั่นเรือออกไป

 
				 
															 
								 
															



 
								