บทสรุป Chapter 1: Traces of the Sea People

บทที่ 1: ร่องรอยของชาวทะเล

ภารกิจหลักในช่วงแรกนี้ก็คือการตามหาโบราณวัตถุ บริเวณความลึกที่ 70 เมตร นอกจากนั้นแล้วก็จะมีภารกิจรองอย่างการตามหาวัตถุดิบทำอาวุธ และเรื่องที่ได้รับการไหว้วานจากเอลลี่ ในการลงทะเลสำรวจครั้งนี้ให้เน้นไปที่เรื่องของทั้ง 3 อย่างนี้ได้เลย โดยระหว่างทางก็อย่าลืมพยายามจับปลาเพื่อนำมาทำเป็นซูชิเอาไว้ขายตอนกลางคืนด้วยล่ะ

คำขอของเอลลี่ (Red Ecological Data)

สำหรับปลาดาวแดงนั้นจะหาได้ง่ายหน่อย เพียงแค่พยายามว่ายไปบริเวณพื้นด้านล่างที่ระดับไม่ลึกมากก็สามารถหาเจอได้แล้ว ส่วนสาหร่ายแดงเวลาที่เจอให้เรากดใช้มีดเพื่อฟันมันด้วยถึงจะเก็บได้ เมื่อเก็บของที่ต้องการได้ครบแล้วหลังจากที่ขึ้นจากบนน้ำ เอลลี่จะโทรติดต่อมาหาเรา มอบกับมอบรางวัลให้เล็กน้อย และทิ้งเบอร์โทรเอาไว้ให้เราด้วย

วัตถุดิบทำอาวุธ (Weaponsmith Duff)

สิ่งที่ดัฟฟ์ต้องการก็คือ เชือกและเศษเหล็ก หากเราว่ายสำรวจไปเรื่อยก็น่าพบเห็นได้ไม่ยาก เมื่อเก็บของที่ต้องการได้ครบแล้วหลังจากที่ขึ้นจากบนน้ำ เราก็จะติดต่อหาดัฟฟ์ แล้วเขาจะแนะนำให้เราโหลดแอปที่ชื่อว่า Duff’s Weapon Shop (ร้านขายอาวุธของดัฟฟ์) จากนั้นระบบก็จะฝึกสอนการสร้างปืนพื้นฐาน Basic Underwater Rifle นอกจากการปลดล็อคระบบร้านขายปืนแล้ว ตอนนี้เมื่อเราดำลงไปในน้ำก็จะมีโอกาสพบเจอกับกล่องอาวุธให้เราได้เก็บด้วย ซึ่งตัวอาวุธที่ได้จากการเปิดกล่องจะอยู่แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อขึ้นมาบนน้ำมันก็จะหายไป เพียงแต่หากเราสุ่มได้ปืนใหม่ที่เราไม่เคยได้มาก่อน ก็จะได้รับพิมพ์เขียวในการสร้างปืนชนิดใหม่มาใช้เองในภายหลัง

ร้านซูชิได้รับการซ่อมแซม

หลังจากดำน้ำไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อขึ้นมาข้างบน คอบร้าจะบอกเราว่าร้านซูชิซ่อมเสร็จแล้วนะเลยพาเราไปดูร้านด้วยกัน เมื่อมาถึงตอนนี้ร้านก็อยู่ในสภาพปกติซักที คอบร้าก็จะบอกด้วยว่าตอนนี้เราสามารถเริ่มตกแต่งภายในร้านได้ ด้วยการเปิดที่เมนู Interior แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็เนื่องด้วยที่นี่มันค่อนข้างห่างไกลจากผู้คนทำให้ไม่ค่อยมีลูกค้า ก็เลยต้องคิดหาทางโฆษณาร้านกันหน่อย เดฟก็เลยเสนอให้โพสลงในแอปโซเชียลมีเดียที่ชื่อว่า Cooksta บันโชก็เลยถามว่ามันคือแอปที่พวกวัยรุ่นชอบใช้โพสรูปอาหารที่พวกเขากินใช่มั้ย เดฟก็ตอบว่าใช่แล้วมันคือวิธีการโปรโมทที่ธุรกิจต่างๆ ก็ชอบใช้ บันโชก็บอกว่าเขาล่ะไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาต้องเสียเวลามาทำเรื่องแบบนี้ ซูชิน่ะสร้างความประทับใจไปที่หัวใจ ไม่ใช่รูปถ่าย เดฟเลยเถียงว่าถึงแบบนั้นก็เถอะ มันยังดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเพื่อให้คนรู้จักอาหารของเรานะบันโช บันโชก็เลยยอมเห็นด้วย เดฟเลยทำการสร้างแอคเค้าท์ แล้วสร้าง # เป็นของตัวเองที่ชื่อว่า #bancho_sushi บันโชก็เลยบอกว่าอืมไม่คิดเลยว่ามันจะไม่ยุ่งยาก แถมเดฟยังทำการลงแอปที่ชื่อว่า Cooksta เอาไว้ในมือถือเรียบร้อยแล้ว สำหรับแอปนี้เมื่อเราทำตามเงื่อนไขได้ก็จะยกระดับร้านทำให้ปลดล็อคเมนูพิเศษใหม่ๆ รวมไปถึงเพิ่มเมนูในแต่ละวันได้เยอะขึ้น

คำขอจากปลาโลมา (A Dolphin’s Request)

หลังจากที่ร้านซ่อมแซมเสร็จแล้ว เมื่อเราลงไปในน้ำจะเจอกับปลาโลมา มันจะมาขอให้เราช่วยอะไรบางอย่าง ก็ให้เราว่ายตามโลมาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเราได้เจอเข้ากับปลาโลมาสีชมพู ที่กำลังติดอยู่ในตาข่าย ก็ให้เราทำการว่ายไปตัดตาข่ายให้ขาด ก่อนที่โลมาทั้ง 2 จะจากไปมันก็ได้ทิ้งของขวัญเอาไว้ให้เราด้วย พอเข้าไปหยิบก็พบว่ามันคือไข่มุก ไข่มุกนี้มันก็ไม่มีอะไรมากแต่หากนำไปขายก็จะได้ 100 ทอง

ตามหาโบราณวัตถุ (Tracking the Sea People)

เมื่อเราดำน้ำไปยังระดับความลึก 70 เมตร แล้วเจอโบราณวัตถุ ในตอนที่เก็บมันได้จะเจอกับเหตุการณ์ประหลาด ในน้ำบริเวณนั้นจะสั่นสะเทือนและเราจะได้เห็นลูกตายักษ์ของสิ่งมีชีวิตลึกลับ หลังจากที่กลับมาบนน้ำด็อกเตอร์เบคอนก็จะขับเรือมาหาเรา

ด็อกเตอร์เบคอน: นายเอามันมาได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนว่ามันอยู่ในสภาพที่ดี ราวกับว่ามันถูกเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ อืมม น่าสนใจมาก นี่อาจเป็นการค้นพบแห่งศตวรรษ โอเค เดฟ เรามาทำงานร่วมกันต่อไปและค้นพบความลับของอารยธรรมชาวทะเลกันเถอะ
เดฟ: อะไรนะ ฉันคิดว่าแค่จะช่วยเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
คอบร้า: บร๊ะฮาฮา เราต้องร่วมมือกันอีกแน่นอน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว! เพียงแค่ใส่ชื่อร้านอาหารของเราไว้ที่ด้านบนสุดของรายชื่อผู้ค้นพบด้วย
เดฟ: …
ด็อกเตอร์เบคอน: เรื่องนั้นไม่ยากเลย ฉันรู้สึกว่าโชคดีมาก แล้วจะติดต่อมานะ
ด็อกเตอร์เบคอนก็ได้ล่ำลาและขับเรือของเขาออกไป

พนักงานร้านคนไม่พอ (Not Enough Workers)

ภารกิจนี้จะปรากฏออกมาในตอนกลางคืนหลังจากร้านได้รับการซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดฟรู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะบริหารร้านโดยใช้แค่เพียง 2 คน และหากในอนาคตมีลูกค้าเยอะกว่านี้แล้วล่ะก็ หลังจากที่เดฟกลับถึงร้านบันโชซูชิ ผู้หญิงคนหนึ่งก็เข้ามาเพื่อสำรวจร้านอาหาร เธอชื่อโยชิเอะ เธอก็ถามว่าที่นี่คือบันโชซูชิใช่มั้ย บันโชก็ทักทายดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ โยชิเอะก็บอกว่าเธอมาที่นี่เพราะเห็นว่ามันได้รับความนิยมอยู่ใน Cooksta แถมชื่อร้านเมื่อได้เห็นมันก็ทำให้ฉันตกใจ แต่ก็คิดว่ามันคือที่ของนายจริงๆ บันโชก็เลยถามว่าเธอมาที่นี่ทำไมล่ะ โยชิเอะก็บอกว่า มันก็มีหลายสาเหตุน่ะนะ ทั้งอยากมาดูร้านและมาดูนาย นายก็ยังคงเหมือนเดิม บันโชก็บอกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก ฉันก็ทำเหมือนเดิมวันต่อวัน ฝึกฝนตัวเอง โยชิเอะเลยบอกว่านั่นแหละคือปัญหา คราวก่อนนายก็ไม่ยอมฟังฉัน เลยทำให้นายถูกไล่ออกจากโรงแรม

บันโชทำอะไรลงไปกันแน่? ถึงได้ทำให้ถูกไล่ออก

บันโชก็บอกว่าครั้งนั้นปัญหามันอยู่ที่ตัวลูกค้าเองที่ติดสินอาหารโดยไม่ยอมชิมสักคำ โยชิเอะก็ไม่พอใจบอกว่า นายจะยังปฏิบัติต่อลูกค้าแบบนั้นต่อไปอีกนานแค่ไหน? เพื่อทำอาหารแย่ๆ แบบนั้นต่อไป! บันโชเลยเถียงกลับว่า นั่นไม่ใช่อาหารที่แย่น่ะมันคือ Whole-Roasted Shark Head (หัวฉลามย่าง) เป็นจานที่ยอดเยี่ยมมากต่างหาก ฉลามถูกนำมาใช้ในอาหารทั้งทางตะวันตกและตะวันออก และในเกาหลี ฉลามยังถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมเซ่นไหว้บรรพบุรุษด้วย โยชิเอะก็บอกว่า หยุด นายไม่เปลี่ยนไปสักนิด งั้นให้ฉันติดสินมันด้วยตัวฉันเองแล้วกัน หลังจากนั้นฉันค่อยบอกธุระของฉันที่มาที่นี่ บันโชก็บอกว่าได้ จะทำให้กินเอง ฉันจะให้เธอรับรู้ถึงรสชาติอาหารที่แท้จริงของ เนื้อหัวฉลาม เดฟเลยขัดจังหวะว่านี่มันไม่กระทันหันไปหน่อยมั้ย บันโชที่หัวร้อนก็เลยบอกกับเดฟว่า ในฐานะเชฟ นี่คือการต่อสู้ที่ฉันไม่อาจถอยกลับได้ ความภาคภูมิใจของฉันแขวนอยู่บนเส้นด้าย นายช่วยไปเตรียม หัวฉลามครีบขาวและน้ำมันมะกอก มาให้ที เดฟเลยถามว่านี่นายจะให้ฉันไปจับฉลามครีบขาวมางั้นหรอ บันโชเลยปลอบใจว่า ใช่แล้ว ฉันมั่นใจในฝีมือของนาย มันควรจะทำได้ง่ายพอสมควร แต่การใช้ฉมวกมันคงไม่พอ นายจะต้องเตรียมปืนไปด้วย เดฟก็พูดว่าถึงแม้แบบนั้นก็เถอะ การสู้กับปลาฉลามนี่มันฟังดูแล้วอันตรายเกินไปจริงๆ บังโชก็ไม่พอใจ หมายความว่านายจะยืนดูเฉยๆ ในขณะที่ความภูมิใจของฉันถูกเหยียบย่ำงั้นเหรอ? ฉลามครีบขาวมักพบในทะเลที่ไกลออกไปทางขวา โชคดีล่ะ เดฟที่ดูเหมือนไม่มีทางเลือกสุดท้ายก็ได้แต่ยอมรับภารกิจนี้ไป

มันจะเชื่อมไปยังภารกิจที่ชื่อว่า A Scolding from Yoshie และปลดล็อคระบบใหม่ แขกพิเศษ ซึ่งเป็นแขกที่มาพร้อมกับเรื่องราวและเราจะต้องจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารพิเศษให้พวกเขา และระบบ Research การวิจัย โดยตอนนี้เราจะสามารถใช้ Artisan’s Flame เพื่อทำการวิจัยพัฒนาอาหารเมนูใหม่ออกมาได้ ตอนนี้ก็ให้เรากดที่เมนู Research แล้วเลือก Whole-Roasted Shark Head เพื่อวิจัยอาหารนี้ให้ออกมาเป็นเมนูใหม่ในร้านด้วย

Signal from the Sea People (สัญญาณจากชาวทะเล)

หลังจากเก็บกู้โบราณวัตถุมาได้ ในวันต่อมาด็อกเตอร์เบคอนจะขี่เรือมาหาเรา พร้อมกับแจ้งข่าวดีว่าตอนนี้ได้ทำการวิเคราะห์โบราณวัตถุชิ้นนั้นแล้วและตรวจพบสารที่ไม่ทราบชนิดจำนวนมหาศาล คิดว่ามันต้องเป็นเหล็กที่ถูกอัดแน่นอยู่ใต้น้ำลึกๆ แต่ว่ามันส่งคลื่นความยาวที่ไม่ซ้ำใครออกมา และตอนนี้ก็ได้ผลิตเรด้าร์ที่จะคอยติดตามคลื่นความยาวนี้ออกมาให้เราด้วย

ก่อนที่จะดำน้ำเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้ เราจะต้องทำการอัพเกรดชุดดำน้ำของเราให้สามารถดำน้ำไปที่ระดับ 150 เมตรให้ได้เสียก่อน เสียค่าอัพเกรดอยู่ที่ 225 ทอง ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องรีบทำภารกิจนี้ให้สำเร็จก็ได้ ไว้อัพเกรดชุดตามที่บอกแล้วค่อยทำ เมื่อพร้อมแล้วก็ให้เราไปยังจุดที่เรด้าร์ได้บอกเอา

เมื่อมาถึงจุดเรด้าร์ด็อกเตอร์เบคอนก็จะติดต่อคุยกับเราและพบว่าสัญญาณมันมาจากข้างใน แต่มีกองหินปิดทับทางเอาไว้อยู่ ก็เลยต้องมาหาวิธีที่จะดึงกองหินเหล่านี้ออกให้ได้เพื่อเปิดทางเข้าไปตรวจสอบข้างใน เมื่อจบการพูดคุยกับด็อกเตอร์ เดฟจะได้ยินเสียงที่แปลกประหลาดดังรอบตัว

เมื่อขึ้นมาบนน้ำด็อกเตอร์ก็บอกให้เราลองปรึกษากับคอบร้าดู คอบร้าก็แนะนำว่าให้เราใช้ระเบิด แต่ก็มีปัญหาอยู่เล็กน้อย เรือขนส่งพัสดุที่บรรทุกระเบิดจากผู้เชี่ยวชาญที่เขารู้จัก มันมาไม่ถึงสักที และตอนนี้เรือขนส่งก็หายไปจากเรด้าร์แล้วด้วย คาดว่ามันน่าจะจมอยู่ในทะวเล หากเราใช้โดรนที่คอบร้าเป็นคนสั่งมาได้ ก็สามารถนำของจากเรือที่จมอยู่กลับมาได้เช่นกัน คอบร้าเลยบอกให้เราช่วยไปรวมรวบวัสดุสำหรับโดรนหน่อยได้มั้ย เดฟก็เลยบอกว่าแล้วฉันจะไปหาวัสดุเพื่อทำโดรนจากไหนล่ะ ทะเลมันกว้างใหญ่มากเลยนะ คอบร้าก็เลยบอกว่า กล่องพัสดุมีแนวโน้มว่าจะถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำ มองหาสถานที่ที่มีกระแสน้ำเอาไว้ก็พอ ทีนี้เราก็ได้รับภารกิจหลักอันใหม่ Where the Currents Flow

วันที่ 4 เดือน 10 หลังจากสำรวจตอนเช้าเสร็จ ปลดล็อคระบบ MarinCa

เมื่อเราขึ้นมาจากน้ำ จะเจอกับชายที่ชื่อว่า ซาโต้ ถีบเรือเข้ามาหาและทักทาย พูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง MarinCa มันการ์ดสะสมสัตว์ทะเลที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แล้วซาโต้ก็จะทำการติดตั้งแอป MarinCa ให้กับโทรศัพท์เรา ทีนี้ต่อไปหากเราทำการจับปลาได้ เราก็จะได้รับการ์ดมันมาด้วย ระบบนี้ไม่มีอะไรมากมันคือระบบที่เอาไว้สะสมการ์ดให้เราตรวจสอบได้ด้วยว่า ในแต่ละพื้นที่เราจับปลาตัวไหนไปแล้วบ้างและตัวไหนที่ยังไม่เคยถูกเราจับเลย

คำติเตียนจากโยชิเอะ (A Scolding from Yoshie)

ภารกิจนี้เราจะต้องดำน้ำและไปฆ่าฉลามให้ได้ ฉลามที่ว่านี้เมื่อเราเจอก็จะมีสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมสีฟ้าอยู่บนตัว เมื่อฆ่ามันได้จะต้องเข้าไปแล่ที่ตัวมันเพื่อให้ได้รับวัตถุดิบมา 

ทีนี้หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว ในตอนกลางคืนก็ให้ทำการเสิร์ฟเมนูหัวฉลามย่างให้กับโยชิเอะได้กิน ในตอนที่เธอชิมอาหารจานนี้ก็จะมีคัทซีนพิเศษให้เราได้ชมกัน ถึงความเว่อร์วังตอนชิมอาหารเหมือนกับในการ์ตูนนั่นแหละ หลังจากที่เธอได้ลองกินอาหารรูปร่างประหลาดจานนี้แล้วเธอพบว่ารสชาติของมันอร่อยมากจนทำให้เธอตกหลุมรักได้เลย แล้วสุดท้ายเธอก็จะยอมบอกถึงธุระที่เธอมาที่นี่สักที เธอบอกว่าร้านอาหารแห่งนี้จำเป็นต้องมีการจ้างพนักงาน ซึ่งเธอจะช่วยเหลือในเรื่องนี้เอง 

ตอนนี้จะปลดล็อคระบบพนักงาน โดยขั้นตอนจะต้องเริ่มจากในการทำการลงโฆษณาเพื่อค้นหาพนักงานกันก่อน ในวันถัดมาถึงจะมีลิสรายชื่อพนักงานให้เราเลือกจ้างได้ ซึ่งพนักงานนี้จะมีหน้าที่อยู่ 2 ส่วนก็คือช่วยเสิร์ฟและช่วยทำอาหาร พนักงานแต่ละคนก็จะมีความถนัดและสกิลที่แตกต่างกันไป หกกเราอยากจ้างพนักงานเพิ่มอีกก็ให้ทำการลงโฆษณาโดยมันจะมี 3 ราคาให้เลือกก็คือ ใบปลิว (Flyer Ad) จะมีพนักงานขึ้นมาให้เลือก 2 คน, โฆษณาทีวี (Tv Ad) จะมีพนักงานให้เลือก 3 คน และ โฆษณาทางอินเตอร์เน็ต (Internet Ad) จะมีพนักงานให้เลือก 4 คน

หลังจากจ้างพนักงานแล้วในตอนเช้าวันถัดมาโยชิเอะก็จะโทรเข้ามาหาเรา พร้อมกับบอกว่าเธอได้ทำการติดตั้งแอป Management ให้กับเราเพื่อช่วยในการจัดการเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในร้านบันโชซูชิได้

ช่วยเหลือเอลลี่ (Assisting Ellie)

ภารกิจนี้จะเริ่มก็ต่อเมื่อเราทำภารกิจ Red Ecological Data ที่ช่วยเก็บสาหร่ายแดงและปลาดาวให้กับเอลลี่สำเร็จแล้ว และเริ่มทำภารกิจ Signal from the Sea People ในเช้าวันหนึ่งที่ตรงตามเงื่อนไข เอลลี่จะโทรหาเราเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยครั้งนี้เธอจะขอให้เราช่วยเก็บ เปลือกหอยสีฟ้า (Blue Shells) และ เปลือกหอยสีน้ำตาล (Brown Shells) มาให้เธออย่างละ 3 อัน

เมื่อเก็บเปลือกหอยได้ครบแล้วพอขึ้นมาบนน้ำเอลลี่ก็จะโทรมาหา และมอบรางวัลให้กับเราเป็นการปลดล็อคระบบ Ecowatcher ระบบที่ให้เราช่วยในการปกป้องและวิจัยทะเลในหลุมสีน้ำเงินแห่งนี้ ระบบนี้จะเป็นภารกิจยิบย่อย ส่วนใหญ่ก็จะให้เราเก็บของตามที่ระบุหรือกำจัดปลาต่างๆ เมื่อเราทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัลเล็กน้อยและคะแนนเพื่อยกระดับแอปของเรา

เกิดอะไรขึ้นกับโลมา? (What Happened to the Dolphins?)

หลังจากที่เราเสร็จภารกิจช่วยโลมาสีชมพู เมื่อเราลงในทะเลจะมีโอกาสเจอกับโลมาตัวเดิมอีกครั้ง คราวนี้ก็ให้เราตามมันไปเช่นเดิม ครั้งนี้เราจะพบว่าโลมาสีชมพูกำลังจะถูกจับจากพวกโจรสลัด ก็ให้เราว่ายเข้าไปตัดเชือกตาข่าย แต่ในระหว่างที่ตัดเราจะถูกพวกโจรสลัดยิงต่อสู้ด้วย แต่ให้เราเน้นไปที่การตัดเชือกให้ไวที่สุดเท่าที่ทำการ ก่อนที่โลมาจะถูกพวกมันจับตัวไป เมื่อช่วยได้สำเร็จแล้วก่อนที่จะจากไปโลมาก็ให้มอบ Large Gold Bar มาให้กับเรา ไอเทมชิ้นนี้ก็เช่นเดิมไม่มีอะไรมาก สามารถนำไปขายเพื่อเอาทองได้เลย

ที่กระแสน้ำไหล (Where the Currents Flow)

สำหรับภารกิจหลักใหม่อันนี้จะให้เราตามหาของ 3 อย่าง ชิบคอมพิวเตอร์ (Computer Chip), มอเตอร์ (Motor), เลนส์กล้อง (Camera Lens) เมื่อเราดำน้ำก็ให้พยายามหาพื้นที่บริเวณที่มีกระแสน้ำไหล เมื่อเราเดินเข้าไปในกระแสน้ำนี้ มันจะพัดตัวเราให้ไหลไปตามกระแส ซึ่งแถวๆ นั้นเราก็จะพบกล่องพัสดุที่เราตามหา โดยมันจะมีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมาย ! สีเหลือง บอกเอาไว้อย่างชัดเจน

เมื่อเราเก็บพัสดุได้ครบและขึ้นไปบนน้ำ คอบร้าก็จะบอกว่าตอนนี้ก็สามารถใช้งานโดรนได้แล้ว แต่ก็ขอเวลาในการซ่อมแซมหน่อย น่าจะเสร็จในวันพรุ่งนี้เช้า

สิ่งที่อยู่ในกองหิน (Beyond the Rock Pile)

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากรวบรวมพัสดุได้ครบ ด็อกเตอร์เบคอนก็จะขับเรือมาหาเรา และถามเราว่าได้ปรึกษากับคอบร้าเรื่องกองหินแล้วหรือยัง เราก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนคอบร้าก็บอกว่าตอนนี้โดรนได้ซ่อมเสร็จแล้ว และมีระเบิดมาให้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่นั้น วันนี้จะเปิดตัวร้านค้าของคอบร้าอีกด้วย (Cobra Shop) ในทุกครั้งก่อนมาลงไปดำน้ำ จะมีสินค้าให้เลือกซื้อได้ 3 อย่าง ซึ่งมันจะเป็นไอเทมช่วยเหลือที่จะมีผลเพียงแค่การลงดำน้ำ 1 ครั้งเท่านั้น นอกจากนั้นเราสามารถมากดขายไอเทมที่ไม่ต้องการที่นี่ได้ด้วย

ก่อนที่เราจะลงไประเบิดกองหินด็อกเตอร์เบคอนก็ได้มอบกล้องถ่ายภาพใต้น้ำมาให้กับเรา เผื่อเอาไว้ใช้เพื่อถ่ายรูปบางอย่างที่อาจมีประโยชน์ในงานวิจัย

เมื่อเราไปในน้ำคราวนี้ก็ให้ว่ายตามเรด้าร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พบกับกองหินก็ให้เอาระเบิดเข้าไปติดไว้ จากนั้นก็ว่ายออกมาพอถึงระยะระเบิดก็จะทำงาน เปิดทางให้เราสามารถเข้าไปข้างในได้

เมื่อเข้ามาเราจะพบกับจิตกรรมฝาผนังอันใหญ่มาก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นชาวทะเล ด็อกเตอร์เบคอนที่ได้ติดต่อกับเราก็ตกใจมาก คิดว่ามันน่าจะเป็นห้องเก็บบันทึก เขารู้สึกโชคดีมากที่คิดถูก พบร่องรอยของอารยธรรมชาวทะเลเข้าแล้ว แถมจิตกรรมฝาผนังอันนี้มนุษย์ไม่มีทางที่จะทำมันขึ้นมาได้เลย บางทีอาจมาจากอารยธรรมโบราณบางแห่งที่จมลงจากแผ่นดินไหว รูปแบบการวาดภาพและสถาปัตยกรรมนั้นไม่สามารถพบได้จากที่ใดเหนือพื้นดิน และด็อกเตอร์เบคอนก็ให้เราลองสำรวจบริเวณนี้ดู

ก็ให้เราว่ายไปยังจุดที่สัญลักษณ์แว่นขยาย 3 จุด แล้วด็อกเตอร์จะบอกให้เราถ่ายรูปจิตกรรมฝาผนังมาด้วย ว่ายไปกลางห้องจะเห็นสัญลักษณ์กล้อง เราจะสามารถกดถ่ายรูปตรงนี้ได้ โดยวิธีการถ่ายรูปที่ถูกต้อง ก่อนอื่นจะต้องขยับกล้องจนกว่าจุดสีเขียวทางซ้ายบนจะติด จากนั้นให้กด Focus กล้องจนถึงจุดที่เหมาะสมแล้วค่อยกดถ่าย 

เมื่อได้รูปที่เหมาะสมแล้ว เดฟจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ในห้อง ทางด็อกเตอร์เบคอนก็คิดว่ามันอาจจะเป็นโบราณวัตถุอีกชิ้นก็ได้ ให้เดฟว่ายเข้าไปเก็บแล้วเดฟจะได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมารอบตัวอีกครั้ง แต่ทางด็อกเตอร์จะบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรผ่านวิทยุนี่มาเลย และบอกให้เราว่ายกลับขึ้นไปบนฝั่งได้แล้ว

หลังจากที่ขึ้นมาด็อกเตอร์เบคอนก็จะมาหาเพื่อเอาโบราณวัตถุและรูปภาพจิตกรรมฝาผนังไปตรวจสอบ หลังจากที่ด็อกเตอร์เบคอนจากไป จะมีเรืออีกลำเข้ามาหาเรา ดูเหมือนเป็นพวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายในทะเลแห่งนี้ ภายในเรือลำนั้นจะนำมาโดยชายที่ชื่อว่า จอห์น วัตสัน ได้ต่อว่าพวกเราว่าพึ่งใช้ระเบิดในทะเลไปใช่มั้ย รู้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเราคือซีบลู เราเป็นองค์กรที่ติดตามผู้คนที่สร้างมลภาวะให้กับทะเลที่สวยงามแห่งนี้และรายงานพวกเขา บางครั้งฉันก็มอบความยุติธรรมกับผู้ที่กระทำความชั่วเป็นพิเศษ ฉันได้รับรายงานว่ามีคนทำลายสิ่งแวดล้อมบริเวณนี้อย่างไร้เหตุผล ไม่รู้ว่าเป็นพวกนายหรือเปล่า แต่พวกนายก็ควรระวังตัวเอาไว้ให้ดี ใครก็ตามที่ทำลายทะเลแห่งนี้จะต้องเผชิญหน้ากับซีบลูและฉันจอห์น วัตสัน ตอนนี้ก็จงขอบคุณทะเลและอย่าละทิ้งความรักที่มีต่อมัน ฉันจะไปแล้วแต่จะคอยจับตาดูพวกนายเอาไว้ คอบร้าก็บอกว่าพวกซีบลูเนี่ยเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงในทางลบ พวกเขากระทำการรุนแรงโดยอ้างว่าเป็นการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่วนมากแล้วบริษัทใหญ่โตที่ธุรกิจการประมีมงขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ไม่ใช่บริษัทประมงขนาดเล็ก พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกับบริษัทเหล่านี้เลย ฉันคิดว่าพวกเขาคงรับสินบนหรืออะไรทำนองนั้น

การท้าทายของนักชิมวินเซนต์ (Gourmet Vincent’s Challenge)

ในค่ำคืนหลังจากเสร็จภารกิจระเบิดกองหินไปแล้ว เมื่อเราเข้าไปที่ร้านซูชิ จะมีแขกระดับ VIP มาที่ร้าน พร้อมกับโฆษกสาวยูอิจากรายการ Star★The Chef! พวกเขามาถ่ายทำรายการที่นี่เพื่อชิมอาหารที่กำลังโด่งดังในแอป Cooksta นั่นเอง โดยผู้ชิมอาหารในครั้งนี้ก็คือ วินเซนต์ ยามาโอกะ ผู้เชี่ยวด้านซูชิระดับตำนาน ทางด้านยูอิก็เริ่มการสัมภาษณ์วินเซนต์

ยูอิ: คุณจะนิยามซูชิว่าอย่างไรค่ะ
วินเซนต์: สำหรับผมซูชิคืออาหารที่เรียบง่าย มีแค่ข้าว น้ำส้มสายชู วาซาบิ และปลาที่วางไว้ด้านบนทุกอย่างขึ้นอยู่กับส่วนผสมเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เรียบง่ายไม่ได้แปลว่าง่าย ฟังให้ดี วัตถุดิบดีแค่ไหน เก็บและบ่มไว้ยังไง หั่นยังไง ข้าวสุกยังไง ขึ้นรูปยังไง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในศิลปะการทำซูชิ! ใช่แล้ว!
ยูอิ: เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าแบบนั้น คุณคิดอย่างไรกับซูชิแปลกใหม่ที่เป็นของขึ้นชื่อในร้านบันโชซูชิ
วินเซนต์: วัตถุดิบในการทำซูชิมีความคล้ายคลึงกันมานานแล้ว ราชาแห่งปลา ทูน่า โดยเฉพาะส่วนท้อง ถัดลงมาก็จะเป็น ปลาลิ้นหมา (Olive flounder) และปลาทู (Amberjack) ที่มีเนื้อขาวและเนื้อแดง… ทั้งหมดเป็นส่วนผสมที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว คุณเข้าใจไหม ความกล้าที่ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ แม้ว่าจะมีวัตถุดิบที่พิสูจน์มาแล้วมากมายจากยุคเอโดะก็ตาม ไม่ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร นี่ก็แสดงถึงการขาดความเคารพ!
ยูอิ: คุณเคยวิจารณ์แคลิฟอร์เนียโรลว่าไม่ใช่ซูชิที่แท้จริงๆ เราอยากรู้ว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับบันโชซูชิ! เอาล่ะ เรามาเริ่มด้วยการแนะนำดาวเด่นของรายการวันนี้กันก่อนเลย นี่คือเจ้าของร้าน บันโช!
บันโช: อืมม นี่มันค่อนข้างกระทันหันไปหน่อยนะ
ยูอิ: เขาเป็นคนค่อนข้างเงียบ! นั่นหมายถึงเขาพูดผ่านการทำอาหารเท่านั้น! บาร์ซูชิแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับหลุมน้ำเงินขนาดยักษ์ และเชฟก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นปรมาจารย์เลยทีเดียว ฉันตั้งตารอที่จะได้รู้ว่าอาหารจะมีรสชาติเป็นอย่างไร วินเซนต์ คุณจะลองทานอาหารจานไหนดีคะ?
วินเซนต์: ฉันไม่ค่อยสนใจอาหารที่เน้นรูปลักษณ์ภายนอกมากนัก นายบันโชใช่มั้ย ชื่อของนายน่ะ ให้ฉันดูหน่อยว่านายทำอะไรได้บ้าง เอาอะไรมาเซอร์ไพรส์ฉันหน่อยสิ
ยูอิ: ว้าว! วินเซนต์เสนอความท้าทายที่กล้าหาญ! เขาปล่อยให้เชฟตัดสินใจเลือกเมนู!
บันโช: ฉันทนนั่งฟังอคติของนายอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ให้เวลาฉัน 2 วัน จะทำให้นายช็อกไปเลย
ยูอิ: การเผชิญหน้าระหว่างนักชิมแบบดั้งเดิมกับเชฟที่แปลกใหม่! สิ่งต่างๆ เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เราจะมาพบกับพวกคุณในตอนต่อไป! อย่าลืมติดตามรายการ Star★The Chef ❤ ในครั้งหน้านะคะ

หลังจากที่ทั้ง 2 ได้เดินออกจากร้านเดฟก็เลยถามอย่างเป็นห่วง
เดฟ: นายคิดว่ายังไง จะทำอะไรต่อไปล่ะ
บันโช: ลูกผู้ชายน่ะไม่มีทางวิ่งหนีจากการท้าทายได้หรอก ฉันคิดบางอย่างออกแล้ว นายช่วยไปเตรียมวัตถุดิบมาหน่อยได้มั้ย ฉันต้องการ องุ่นทะเล (Sea Grapes) และแมงกะพรุนจุดขาว (White Spotted Jellyfish) ทั้ง 2 อย่างนี้หาได้จากใน ถ้ำหินปูน (Limestone Cave) ลึกลงไปประมาณ 100 เมตรน่ะ
เดฟ: นายจะทำซูชิจากวัตถุดิบพวกนั้นหรอก โอเคฉันจะไปที่ถ้ำหินปูนเอง

สำหรับตอนนี้เราจะมีเวลาอีกแค่เพียง 2 วันเท่านั้นในการตามหาวัตถุดิบทั้งหมด 3 อย่างก็คือ องุ่นทะเล แมงกะพรุนจุดขาว และเกลือ สำหรับเกลือนี่เราน่าจะได้รับมันมาจากการสำเร็จภารกิจก่อนหน้านี้บ้างแล้ว แต่หากใครไม่มีจริงๆ ก็สามารถสุ่มหาได้ในทะเลนั่นแหละ โดยการเปิดหม้อแดงในแต่ละครั้งมันจะสุ่มวัตถุดิบจำนวนเครื่องปรุงนี้มาให้กับเราด้วย

ส่วนองุ่นทะเลและแมงกะพรุนจุดขาวจะหาได้จากถ้ำหินปูน ซึ่งเราจะต้องลงไประดับความลึกประมาณ 120 เมตร สำรวจให้ทั่วแล้วจะมีตอนที่เราเข้าสู่โซนที่ชื่อว่า Limestone Cave ปรากฏขึ้นมากลางจอเลย ซึ่งแปลว่าเรามาถึงจุดหมายแล้ว ทีนี้ก็ให้เริ่มสำรวจบริเวณนี้เราก็จะเจอกับองุ่นทะเล และแมงกะพรุนจุดขาว ก็เก็บมันมาให้ได้อย่างละ 1 อัน

เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้วก็ให้รอถึงวันนัดหมายทั้ง 2 คนก็จะมาตามนัด
ยูอิ: สวัสดีผู้ชมทุกท่าน ฉันคือยูอิจากรายการ Star★The Chef ตอนนี้พวกเราได้กลับมาที่บันโชซูชิ ฉันสงสัยว่าเชฟจะเตรียมซูชิแบบไหนให้พวกเราได้ดูกัน?
บันโช: ฉันได้เตรียม ซูชิแมงกะพรุน
วินเซนต์: แมงกะพรุน? นายหมายถึงผักเย็นแบบจีนใช่ไหม? นายคิดว่าจะได้รับการยอมรับจากวินเซนต์ ยามาโอกะ โดยที่ละเลยส่วนผสมแบบดั้งเดิมได้งั้นหรอ? ไม่มีทาง!
บันโช: นายเรียกตัวเองว่านักชิม นายจะตัดสินมันก่อนที่จะได้ลิ้มรสอย่างนั้นหรอ?
วินเซนต์: เอ่อ…ตกลง เอามันมาเสิร์ฟได้เลย!
บันโช: ได้เลย ฉันจะเสิร์ฟ ซูชิแมงกะพรุนให้นาย 1 ที่
ตอนนั้นเองเดฟก็ได้นำซูชิแมงกะพรุนมาเสิร์ฟให้กับวินเซนต์
ยูอิ: ว้าว! นี่มันคือซูชิแมงกะพรุนอย่างงั้นหรอ เนื้อมีความใส จุดสีขาวก็ดูดีทีเดียว
วินเซนต์: อะไรเนี่ย นายปั้นข้าวเป็นก้อนอย่างงั้นหรอ นายน่าจะทำให้ข้าวมันจะไม่กระจายแบบทำกุ้งกุนคังมากิแทน
บันโช: เดี๋ยวมันจะแห้งเสียก่อน รีบกินเข้าเถอะ มันถูกปรุงรสแล้ว
วินเซนต์: ชิ ฉันรู้ว่ามันคงจะรสชาติไม่ดีแน่ แต่เนื่องจากมันต้องออกอากาศ ฉันจะลองกินมันดู

ฉากก็จะตัดไปเป็นคัทซีนที่วินเซนต์ได้ลิ้มรสซูชิแมงกระพรุน
ยูอิ: วินเซนต์ ดูหน้าของคุณตอนนี้…
วินเซนต์: นี่มันน่าทึ่งมาก…ฉันสามารถลิ้มรสทะเลได้ทันทีที่กัดมันเข้าไป และแมงกะพรุนก็อร่อย เนื้อแน่น และสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่แตกออกมาข้างใน อาจจะเป็นไข่ปลาบินหรือเปล่า? เดี๋ยวนะ มันใหญ่กว่านั้นนะ คาเวียร์เหรอ? ไม่หรอก มันคงทำให้รสชาติของแมงกะพรุนจืดลงใช่มั้ย มันอาจจะเป็น…
บันโช: ใช่แล้ว ฉันได้เพิ่มองุ่นทะเลลงไปข้างใต้แมงกระพรุน
วินเซนต์: เนื้อแมงกะพรุนแน่นๆ กับองุ่นทะเล นี่คือทะเล ฉันได้ลิ้มรสทะเล ทะเลที่สาหร่ายทะเลพลิ้วไหว อืมม ฉันอดไม่ได้ที่จะยอมรับ ซูชิจานนี้สุดยอดมาก จากการทำความเข้าใจวัตถุดิบอย่างลึกซึ้ง แต่ทำไมนายถึงใช้ส่วนผสมที่ไม่รู้จักแบบนี้แทนที่จะใช้ส่วนผสมที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว?
บันโช: เหตุผลข้อแรกก็คือรสชาติ แมงกะพรุนมีรสชาติที่นุ่มนวล ละมุนละไม และมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น จึงเข้ากันได้อย่างลงตัวกับกลิ่นและรสชาติขององุ่นทะเล เหตุผลที่สองคือศักยภาพ มีส่วนผสมมากมายหลายประเภท การยืนกรานใช้เฉพาะสิ่งที่ได้รับการตรวจสอบแล้วเท่านั้น ก็เหมือนกับการละเลยความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ยูอิ: ขอบคุณมากเลยนะคะ นั่นเป็นคำพูดที่สุดยอดมากคุณบันโช เอาล่ะก็นี้ก็ถึงเวลาที่จะให้คะแนนกันแล้วค่ะ คุณวินเซนท์
วินเซนต์: เอาล่ะ มาเริ่มประเมินกันเลย
ยูอิ: ถึงเวลาแล้ว! นี่คือซูชิแมงกะพรุนที่ทำให้คุณวินเซนต์ประหลาดใจ! และคุณบันโชเป็นผู้สร้างสรรค์เมนูนี้ ผลคะแนนของมันจะออกมาเป็นอย่างไร
วินเซนต์: ผมจะให้คะแนนบันโชซูชิที่ 80 คะแนน!
ยูอิ: ฮะ? นั่นมันไม่น้อยไปหน่อยหรอคะ? คุณดูประทับใจมากขณะที่ทานมัน
วินเซนต์: ฟังนะ ซูชิอร่อยมาก แต่ร้านนี้ยังขาดอะไรบางอย่าง การรับประทานอาหารผสมผสานความเพลิดเพลินมากมาย คิดดูว่าคุณจะเสิร์ฟแค่ชาเขียวในขณะที่เห็นท้องทะเลอันงดงามนี้เท่านั้น..โรแมนติก! ที่แห่งนี้ไม่มีความโรแมนติกและความชื่นชมด้านศิลปะมากพอ! นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันให้คะแนนที่นี่แค่เพียง 80 คะแนน แต่เพื่อเป็นรางวัลเสริม ฉันจะมอบตู้เย็นให้แก่คุณ สามารถดื่มเบียร์เย็น ๆ จากตู้เย็นได้.. จะได้คะแนนเต็ม 100! มันจะสมบูรณ์แบบเลย
ยูอิ: ว้าว! อย่างที่ฉันคาดหวังไว้เลยคุณวินเซนต์ นั่นเป็นความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงกับรายการ Star★The Chef วันนี้? เราตั้งตารอที่จะได้ทานซูชิรสชาติแปลกใหม่ของร้าน บันโชซูชิคู่กับเบียร์! แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า❤ และนี่คือการรายงานจากยูอิค่ะ

หลังจากนี้ไปเราจะปลดล็อคเบียร์ ทำให้ในร้านสามารถเสิร์ฟเบียร์ให้กับลูกค้าได้แล้ว

Duff’s Pink Delivery

เช้าวันต่อมาหลังจากเสร็จภารกิจระเบิดกองหินไปแล้ว ฉากจะตัดมาที่ชาวทะเลชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังทะเลาะอะไรกันบางอย่างอยู่ที่หน้าจิตกรรมฝาผนังที่เราได้เห็น แต่ในระหว่างนั้น ฝ่ายหญิงกลับถูกหนวดของปลาหมึกยักษ์จับตัวไป

ในช่วงเช้าด็อกเตอร์เบคอนก็ได้ขับเรือมาแจ้งข่าวให้กับเรา โดยเขาได้ถามเดฟว่าอยากจะฟังข่าวดีหรือร้ายก่อนกันล่ะ เดฟก็เลยบอกว่าข่าวดี ด็อกเตอร์ก็จะเล่าให้ฟังว่าเขาได้ทำการตรวจกำไรที่ได้มาเมื่อวานแล้ว มันมาจากชาวทะเลอย่างที่คิดเอาไว้เลย ดูเหมือนว่ากำไรนั้นจะซึมซับพลังงานปริศนา นายลองสวมมันดูสิ เดฟก็เลยถามว่าทำไมถึงให้ฉันสวมมันล่ะ ด็อกเตอร์เบคอนก็เลยบอกว่า ใครจะรู้ อาจจะมีชาวทะเลน่ากลัวบางคนสาปแช่งอยู่ก็ได้ เดฟได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก ส่วนด็อกเตอร์ก็ยังคะยั้นคะยอให้เดฟใส่มันซะ สุดท้ายเดฟที่ไม่มีทางเลือกก็ได้ใส่มัน และรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง ด็อกเตอร์เบคอนก็ดีใจที่ได้ยินว่ามันไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น และนอกจากนั้นด็อกเตอร์ก็มีข่าวดีมากมาบอกอีกอย่างด้วย เขาได้ทำการตรวจสอบโบราณวัตถุแล้ว และค้นพบสัญญาณแรงมากมาจากใต้ท้องทะเลส่วนลึก นี่คือสถานที่ที่เหมาะสม วัตถุแค่ไม่ได้ลอยมาทางนี้เฉยๆ

เขารู้สึกว่าหลุมน้ำเงินขนาดยักษ์ที่ปรากฏขึ้นทำหน้าที่เป็นช่องทางไปสู่แหล่งที่อยู่อาศัยของชาวทะเล มันคือโอกาสที่โชคดีมาก เดฟที่ได้ฟังก็รู้สึกว่ามันคือเรื่องที่เขาต้องเสี่ยงชีวิตอีกแล้วสินะ แล้วเรื่องข่าวร้ายล่ะ ด็อกเตอร์ก็บอกว่า หากต้องการผจญภัยไปในที่ลึกกว่านี้ จะต้องมีไฟฉายติดที่หมวกสำหรับดำน้ำลึก แต่การขนส่งได้หยุดลงในขณะนี้เนื่องจากเหตุผลบางประการ เลยทำให้ไม่สามารถเอาอุปกรณ์นี้มาให้เราได้ เดฟก็เลยบอกว่าบางทีดัฟฟ์อาจจะมีมันอยู่ก็ได้ ด็อกเตอร์ก็คิดว่าอาจจะเป็นไปได้ ยังไงก็อยากให้เดฟลองติดต่อดัฟฟ์ดูก่อน แล้วด็อกเตอร์ก็ขับเรือออกไป 

ตอนนี้จะปลดล็อคระบบใหม่ เครื่องราง ส่วนตัวกำไรที่ได้มาหากติดตั้งมันจะส่งผลทำให้ เมื่อเราออกซิเจนหมดจะทำให้ยังไม่สลบทันที จะรอดชีวิตอยู่ได้ชั่วขณะ

จากนั้นก็ให้เราเปิดโทรศัพท์แล้วกดโทรไปหาดัฟฟ์ เมื่อดัฟฟ์รับสายเขากำลังโมโหอยู่ เพราะว่าเขาได้สั่ง ฟิกเกอร์รุ่นลิมิเต็ดของ ลีอาห์-จัง มา แต่มันยังไม่ถึงมือเขาเลย รอมานานเป็นสัปดาห์แล้ว เดฟก็เลยบอกให้ใจเย็นลงหน่อย เพราะว่าไม่มีใครได้รับพัสดุมาเลยเช่นกัน ดูเหมือนมันจะถูกหยุด น่าจะเพราะเกิดเหตุอะไรบางอย่าง เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องมีไฟฉายติดที่หมวกสำหรับใช้ในทะเลลึก ดัฟฟ์ก็เลยบอกว่าเขามีมันอยู่ จะส่งไปให้แล้วกัน แต่เขาก็ไม่ได้ให้มันฟรีๆ นะ มีเงื่อนไขอยู่ก็คือให้ช่วยค้นหา ฟิกเกอร์ ลีอาห์-จัง ด้วย มันเป็นกล่องพัสดุที่มีสีชมพู เมื่อได้เห็นมันก็จะรู้เลยทันที และขอให้ดูแลกล่องแพ็คเกจมันเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้มันโดนน้ำ ถ้าหากเรือมันจมไปจริงๆ ก็น่าจะอยู่ใกล้ๆ บริเวณที่เรือจมนั่นแหละ หามันให้เจอแล้วเขาจะมอบไฟฉายติดหมวกให้ เดฟก็ได้แต่ทำใจแบบนั้นเขาก็จะต้องไปตรวจสอบหาเรือขนส่งที่จมอยู่ก่อนสินะ

ทีนี้ให้เราดำลงไปประมาณช่วง 100 เมตร เราจะเจอกับเรือสีเหลืองที่จมอยู่ ซึ่งตรงนั้นก็จะได้พบกับกล่องพัสดุสีชมพูด้วย แต่ในระหว่างที่กำลังจะไปเก็บกู้มันมา จะมีหมวดปลาหมึกยักษ์โผล่ออกมาจากใต้ท้องเรือ ฉกเอากล่องใบนั้นไป ดัฟฟ์ก็เลยรู้สึกตกใจแล้วสั่งให้เดฟตามไปเก็บมันมาให้ได้ เดฟก็บอกว่ามันดูอันตรายมากเลยนะ อีกอย่างประตูในเรือก็ถูกล็อคทำให้เข้าไปไม่ได้ ดัฟฟ์ก็บอกว่า นายคิดหรอว่าฉันไม่คิดถึงเรื่องนั้นก่อนจะคิดแผนการกู้ภัยลีอาห์-จังน่ะ ฉันจะมอบอาวุธลอบให้กับนาย เครื่องตัดแก๊ส (Gas Cutter) ทีนี้ก็ให้กลับขึ้นไปจากทะเล


การช่วยเหลือลีอาห์-จัง (The Leahs-chan Rescue)

เมื่อขึ้นจากน้ำมาถึงบนเรือ ดัฟฟ์ก็จะมาพูดถึงภารกิจการช่วยเหลือลีอาห์-จัง พร้อมกับมอบเครื่องตัดแก๊สมาให้ ซึ่งเครื่องมือชิ้นนี้จะช่วยทำให้เราสามารถตัดประตูเข้าสู่เรือล่ม แล้วไปเก็บกู้กล่องพัสดุลีอาห์-จังมา ก็ง่ายแค่นี้เอง ในระหว่างที่ดัฟฟ์พูดเดฟก็ค้านว่า แล้วเรื่องของหนวดยักษ์ที่เห็นนั่นล่ะ มันดูอันตรายมากเลยนะ ดัฟฟ์ก็ไม่พอใจเลยบอกว่า นายหมายความว่าจะปล่อยให้ลีอาห์-จัง จมอยู่ในความมืดมิดอย่างงั้นหรอ ภารกิจนี้ไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไป สุดท้ายเดฟก็เลยต้องยอมทำตาม ลงไปงมช่วยกู้ชีวิตของลีอาห์-จัง

เมื่อเรามาถึงจุดเรือล่มอีกครั้ง คราวนี้ก็ให้ใช้เครื่องตัดแก๊ส ตัดประตูด้านบนของเรือ ซึ่งจะได้เล่นมินิเกมตัดประตู หลังจากนั้นเราก็จะเข้าสู่ส่วนภายในเรือได้ ก่อนเข้าจะมีข้อความเตือนว่าข้างในนี้มีสิ่งมีชีวิตที่อันตรายอาศัยอยู่ ก็ให้ตอบ OK เพื่อเข้าไปได้เลย

หลังจากเข้าแล้วปรากฏว่าเราไม่ได้เข้าไปที่ตัวเรือ แต่จะโผล่มาด้านหลังเรือที่มันปิดทางเอาไว้อยู่ สำรวจจนสุดทางเราก็จะได้พบกับปลาหมึกยักษ์นอนหลับอยู่ข้างกล่องลีอาห์-จัง เราจำเป็นต้องสู้กับปลาหมึกยักษ์ตัวนี้ ซึ่งนับว่าเป็นบอสตัวแรกของเกมที่เราต้องสู้ด้วย

ในบริเวณฉากทางซ้ายจะมีกล่องอุปกรณ์ช่วยเหลือ และมีถังออกซิเจนอยู่ หากออกซิเจนของเราใกล้หมดก็จะให้มาเติมที่ถังพวกนี้ได้ ส่วนวิธีการสู้ก็ไม่ยาก เพียงแค่เข้าใกล้ตัวมันแล้วยิงปืนหรือฉมวกเข้าใส่ตาของปลาหมึกให้ได้ เมื่อทำได้ 1 ครั้งเราก็จะถูกพัดออกมาก็ให้วิ่งเข้าไปยังใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเราปราบปลาหมึกยักษ์ลงได้

ปลาหมึกยักษ์บอสตัวแรกของเกม หากแพ้ก็ไม่เป็นไร เราสามารถกลับมาสู้ได้ใหม่

เราจะได้พบกับหญิงสาวชาวทะเลที่ถูกปลาหมึกยักษ์จับตัวมา ถูกช่วยโดยชายชาวทะเลและได้ว่ายหนีไป เดฟก็ตกใจว่านั่นคือชาวทะเลหรือเปล่า ส่วนดัฟฟ์ที่ติดต่อกับเราอยู่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่เขาบอกว่าให้เราเข้าไปช่วยเหลือลีอาห์-จังได้แล้ว ทีนี้ก็ให้เราว่ายไปทางกล่อง ระหว่างนั้นเราจะทำการตัดหมวกปลาหมึกยักษ์เพื่อเอาไปให้บันโชด้วย และเก็บกู้กล่องพัสดุลีอาห์-จัง เป็นอันจบภารกิจ เมื่อขึ้นมาบนเรือดัฟฟ์ก็จะมอบหมวกไฟฉายให้กับเราตามที่ได้สัญญากันไว้

อาหารจานปลาหมึกยักษ์ (Giant Squid Dish)

หลังจากจบภารกิจช่วยเหลือลีอาห์-จังในคืนนั้นเราจะโทรหาบันโช แล้วเล่าเรื่องให้ฟังว่าเราได้ปราบปลาหมึกยักษ์มา แต่ไม่สามารถนำมันมาให้ทั้งตัวได้ เลยตัดส่วนหนวดของมันมาให้แทน บันโชที่ได้ยินก็รู้สึกทึ่ง วันนี้เขาตัดสินใจที่จะปิดร้าน จัดปาร์ตี้ฉลองด้วยหนวดปลาหมึกกันสักหน่อย

ในงานฉลองก็จะมี เดฟ, บันโช, คอบร้า, โยชิเอะ, ด็อกเตอร์เบคอน และแมวดำตัวหนึ่ง ตอนนี้งานปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ก็ให้เราเข้าไปคุยกับคนที่มาร่วมงานปาร์ตี้

โยชิเอะก็จะเล่าให้เดฟฟังว่าช่วงนี้ในแอป Cooksta เริ่มมีคนคอมเม้นถึงตัวเดฟบ้างแล้วว่า “เขาเทชาเขียวร้อนให้ฉัน” “เขากำลังทำงานหนักในการเตรียมวาซาบิ” “เขาเป็นมิตร” “เขาดูยุ่งมาก” โยชิเอะก็เล่าให้ฟังว่านายเริ่มมีตัวตนแล้วนะ ไม่ได้จืดสนิทเหมือนเมื่อก่อน เดฟก็บอกว่านั่นทำให้เขารู้สึกดีมากเลยล่ะ โยชิเอะก็พูดต่อว่า ลูกค้าน่ะมีความซื่อสัตย์และมีสัญชาตญาณมากกว่าที่นายคิด พวกเขารู้ว่านายจริงใจ ใจดี ขยันขันแข็ง หรือมีความสามารถ และพวกเขาก็ตอบสนองตามนั้น นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า บันโชผู้ดื้อรั้นจะทำงานร่วมกับผู้คนและจัดงานปาร์ตี้แบบนี้ได้ ฉันคิดว่าต้องขอบคุณนายนะเดฟ เดฟก็พูดว่า นั่นทำให้ฉันสงสัยว่าเขาเป็นยังไงในอดีต โยชิเอะก็บอกว่า ฉันไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับอดีตของคนอื่นได้ แต่บางทีสักวันหนึ่ง หากมีโอกาส ฉันอาจบอกคุณ

คอบร้าที่มีอารมณ์ดี เป็นเพราะว่าช่วยนี้บันโชซูชิเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว และพูดว่านายดูหนวดปลาหมึกนี่สิ มันเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันที่จะกินตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ฉันเดิมพันว่าจะมีผู้คนแห่มาที่นี่มากขึ้นหากของพวกนี้อยู่ในเมนู เดฟก็เลยพูดแบบดับฝันว่า ที่พวกเราได้กินกันแบบนี้ก็เป็นเพราะว่ามันหายากเกินกว่าจะเสิร์ฟให้ลูกค้ากินไม่ใช่หรอ คอบร้าก็บอกว่า นายพูดถูก น่าเสียดายจัง ทุกคนคงอยากลองอะไรแบบนี้ ไม่ว่าจะรสชาติแบบไหนก็ตาม เดฟก็เลยบอกว่า ไม่ว่าจะรสชาติไหนก็ตามหรอ ไม่มีทางที่บันโชจะรับได้หรอก ลองอย่างอื่นดีกว่า คอบร้าก็เลยบอกว่า พูดถึงเรื่องอื่น ในทะเลลึกนั่นฉันรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะทำให้ผู้คนนั่งไม่ติดเลย ถ้าการวิจัยของด็อกเตอร์เบคอนประสบความสำเร็จ ที่นี่จะโด่งดังและเต็มไปด้วยผู้คน! เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เราจะทำเงินได้มหาศาล ดังนั้นมาพยายามกันต่อไป เดฟ เรามารวยไปด้วยกัน ฮ่าๆ

ด็อกเตอร์เบคอน เมื่อทักทายกันแล้ว เดฟก็จะบอกว่าเขาได้เห็นตัวชาวทะเลด้วยล่ะ ด็อกเตอร์เบคอนที่ได้ยินก็ตกใจมาก พร้อมกับรัวคำถามใส่เดฟว่า นายเห็นชาวทะเลจริงๆ ใช่มั้ยไม่ใช่พะยูนนะ พวกเขาหน้าตาเป็นยังไง ใส่ชุดอะไร พวกเขามีรูปร่างเหมือนมนุษย์หรือเปล่า เดฟก็เลยบอกว่า เอ่อ…ลำตัวของพวกเขาดูเหมือนกับของเรา แต่แค่เห็นฉันก็ทำให้พวกเขากลัวจนต้องลงไปอยู่ใต้น้ำลึกแล้ว ทำให้มองพวกเขาไม่ชัด ด็อกเตอร์เบคอนก็บอกว่านั่นมันแย่มากเลย นี่อาจจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ หมายความว่าพวกเราอาจจะได้พบชาวทะเลในส่วนลึก ที่เป็นจุดที่มีสัญญาณแรงที่สุด อาจเป็นไปได้ว่าที่นั่นจะเป็นหมู่บ้านก็เป็นได้ เดฟเลยถามว่าหมู่บ้านงั้นหรอ ด็อกเตอร์เบคอนก็บอกว่าใช่แล้ว พวกเขามีโบราณวัตถุ มีจิตกรกรรมฝาผนัง มีภาษา พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ คงไม่น่าแปลกใจเลยหากพวกเขาจะอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นั่นคงเป็นการค้นพบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ อารยธรรมโบราณใต้ท้องทะเลปรากฏให้พวกเราได้เห็น เดฟนายคือความหวัง ทำงานของนายต่อไปให้ดีล่ะ!

บันโชจะบอกว่าหนวดปลาหมึกยักษ์นี่ นับว่าเป็นวัตถุดิบที่ยากจะจัดการ การระงับกลิ่นเหม็นทำให้ฉันเข้าถึงแก่นแท้ของมันได้ เดฟเลยถามนายยังคงเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบอยู่เสมอสินะ บันโชก็บอกว่า วันนี้นายทำได้ดีมาก นำวัตถุดิบอันล้ำค่ากลับมา นี่เป็นการเตรียมการที่ยาก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสนุกในการทำอาหาร แล้วรสชาติมันเป็นยังไงล่ะ? เดฟก็บอกว่าอาหารที่นี่รสชาติดีทุกอย่าง แต่วันนี้มันมากยิ่งกว่านั้นอีก ประทับใจมาก บันโชก็บอกว่า เนื่องด้วยเรามีวัตถุดิบที่เยอะก็เลยทำอาหารได้หลายจาน แต่ก็ยังไม่พอที่จะเสิร์ฟให้กับลูกค้า เส้นทางของเชฟดูเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด เป็นเรื่องโชคดีที่เรามีเส้นทางให้เดินตาม เช่นเดียวกันเราก็อาจจะพูดแบบนี้ได้ในการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของวัตถุดิบ เดฟโปรดอดทนต่อไป แล้ววันหนึ่งพวกเราจะประสบความสำเร็จ เดฟก็นึกในใจว่า เขาไม่ค่อยเข้าใจที่บันโชพูดเลย แต่ก็เอ่ยปากออกมาว่า แน่นอน ฉันจะเอาปลากลับมาให้มากกว่านี้นะ

เมื่อคุยกับทุกคนแล้วให้เราเดินไปบริเวณวาซาบิ จะมีโต๊ะสำหรับเดฟอยู่ สุดท้ายเขาก็จะนั่งลงที่โต๊ะเริ่มงานปาร์ตี้อย่างเป็นทางการ แต่ในขณะนั้นเอง จอห์น วัตสัน ก็ทำใช้กล้องส่องทางไกลคอยจับตาดูพวกเราเอาไว้อยู่ตลอด เป็นอันจบบทที่ 1

ปราบโจรสลัด (Defeat Pirates)

หลังจากภารกิจช่วยเหลือโลมาครั้งที่ 2 แล้ว เมื่อเราลงน้ำไปก็จะมีโอกาสพบกับภารกิจนี้ ทันทีที่ลงน้ำเดฟจะได้ยินเสียงบางอย่างเลยเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเดฟจะได้พบว่ากลุ่มโจรสลัดกำลังทำการจับกุมตัวโลมา โจรสลัดที่ได้เห็นเดฟก็โมโหเพราะว่าเดฟขัดขวางแผนการณ์ของเขามาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้จะต้องได้รับบทเรียนจากพวกเขาหน่อยละ 

ภารกิจนี้เราจะต้องสู้กับโจรสลัด 3 คน ให้พยายามจัดการพวกมันให้ได้ หลังจากทำสำเร็จแล้วพวกโจรสลัดจะหนีไป ส่วนโลมาทั้ง 2 ก็จะเข้ามาขอบคุณพร้อมกับมอบของรางวัลให้กับเราเป็นสร้อยคอโลมา Rusty Dolphin Necklace มันคือเครื่องรางที่เมื่อติดตั้งแล้ว จะทำให้เราสามารถกดใช้ท่า Dash เพื่อทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้นอีก 30% แต่เวลาที่ใช้ท่านี้ก็จะทำให้ออกซิเจนลดลงเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน (ใช้เถอะลดเวลาชีวิตของเราไปได้เยอะมาก)

หลังจากผ่านงานเลี้ยงปาร์ตี้ปลาหมึกยักษ์แล้วเราจะไปต่อกันที่ บทที่ 2 สู่ความลึก
Chapter 2: Into the Deep

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.