แนะนำมอนสเตอร์ที่ควร Capture

สำหรับโอชุตต์เธอจะมีความสามารถพิเศษตรงที่ในการต่อสู้เธอสามารถ Capture (จับ) มอนสเตอร์ภายในเกม และนำความสามารถพิเศษของมอนสเตอร์ที่จับมาใช้งานได้ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีสกิลที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราก็จะมาแนะนำเหล่ามอนสเตอร์ที่น่าสนใจควรจับมาเป็นพวกให้ดูกัน

Light Revenant
มอนสเตอร์ตัวนี้จะอาศัยอยู่ในถ้ำที่ชื่อว่า Cavern of Waves โดยจะอยู่ที่ในแผนที่ North Beasting Traverse มาถึงที่นี่แล้วให้วิ่งไปทางขวาตามทางไปเรื่อยๆ เราจะเห็นท่าเรือเล็ก ให้เราออกสำรวจทะเลได้ ก็ให้เราลงเรือเล็กแล้วไปทางซ้ายจะเจอกับเกาะเล็กที่มีถ้ำเป้าหมายของเรา

หลังจากเข้ามาแนะนำให้เซฟเอาไว้ก่อนเลย เพราะถ้ำนี้มอนสเตอร์มีเลเวล 48 นับว่าสูงมาก ทีนี้ก็ให้เราพยายามหา Light Revenant ให้เจอและจับมันมาให้ได้ สำหรับสกิลของ Light Revenant นั้นจะโจมตีด้วยธาตุแสงแก่ศัตรูทุกตัว เพียงแต่การจะใช้งานมันได้ต้องกด Boost ให้เต็ม 3 เกจก่อน ถึงจะเรียกใช้งานได้ และสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งในการต่อสู้ แต่บอกเลยว่าสกิลของมันรุนแรงจนกระทั่งเป่ามอนสเตอร์ทั่วไปหายหมดได้ทันที นำมาใช้งานเพื่อการเก็บเลเวลได้เป็นอย่างดี

Giant Gator
สำหรับจระเข้ยักษ์ตัวนี้ก็อยู่ในถ้ำ Cavern of Waves เช่นเดียวกัน สกิลของมันจะโจมตีด้วยมีดแก่ศัตรูทุกตัวได้รุนแรง และยังเพิ่มบัฟพลังโจมตีกายภาพให้ทีมเราอีก 2 เทิร์นด้วย

Vagrant Ratking II
สำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้จะอยู่แผนที่ Forsaken Graveyard เป็นดันเจี้ยนเลเวล 40 ที่อยู่ติดกับเมือง Montwise ส่วนสกิลของ Vagrant Ratking II จะสุ่มโจมตีศัตรูด้วยขวานแก่ศัตรู 2 ครั้ง ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งสกิลที่ควรรีบจับมาใช้งาน

Ocean Lizardking III
มอนสเตอร์ตัวนี้จะอยู่บนเกาะ Roque Island เมื่อเจอแล้วให้พยายามจับมันมาให้ได้ ส่วนสกิลของมันจะสุ่มโจมตีศัตรูด้วยมีดเป็นจำนวน 2 ครั้ง และบัฟเพิ่มความเร็วและหลบหลีกให้กับทีม 2 เทิร์น

Dreadwolf
สำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้นับว่าเป็นมอนสเตอร์ระดับบอส ก่อนที่จะจับมันมาใช้งานได้ เราจำเป็นต้องลงไปในดันเจี้ยนที่ชื่อว่า Beneath The Wall ในแผนที่ Southern Stormhail Snows ก่อนที่จะไปที่ดันเจี้ยน เราจำเป็นต้องทำเงื่อนไข รับสมัคร NPC 3 คนเข้าปาร์ตี้ด้วย โดยจะใช้ Agnea, Temenos, Ochette หรือ Partitio ในการชวน NPC เข้าปาร์ตี้พร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เรามีตัวละครในปาร์ตี้ทั้งหมด 7 คน (หรือจะทำให้เป็น 8 คนไปเลยก็ได้เช่นกัน) จากนั้นให้ไปที่ดันเจี้ยน Beneath the Wall แล้ววิ่งข้ามสะพาน เนื่องจากมีคนข้ามสะพานเยอะเกินไปจึงทำให้สะพานขาดแล้วเราจะตกลงไปที่ดันเจี้ยน Infernal Castle 

ให้สำรวจจนสุดทางแล้วจะเจอกับบอส Dreadwolf เฝ้ากล่องสมบัติอยู่ หลังจากปราบ Dreadwolf ที่เฝ้าสมบัติได้แล้ว ทีนี้มันจะกลายเป็นมอนสเตอร์หายากที่เราจะมีโอกาสจากมันได้เรื่อยๆ ภายในดันเจี้ยนแห่งนี้ เมื่อเจอมันอีกครั้งคราวนี้โอชุตต์จะสามารถจับมันมาร่วมทีมได้แบบปกติแล้ว สำหรับสกิลของ Dradwolf นั้นค่อนข้างทรงพลังเพราะจะโจมตีด้วยมีดเป็นจำนวน 4 ครั้งแก่ศัตรูทุกตัว พร้อมด้วยลดพลังป้องกันกายภายและความเร็วลง 8 เทิร์น แต่การใช้งานจะมีเงื่อนไขเดียวกับ Light Revenant ก็คือต้อง Boost 3 เกจ และสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งในการต่อสู้

Vagrant Frogking II
สำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้เราจะเอามาแทนที่ Vagrant Ratking II เพราะว่ามีสกิลที่ดีกว่า โดยมันจะโจมตีด้วยขวานใส่ศัตรูทุกตัว 2 ครั้ง ซึ่งสกิลนี้จำเป็นเพื่อใช้ในการโค่น Galdera บอสลับสุดโหดอีกด้วย ส่วนเราจะเจอมอนสเตอร์ตัวนี้ได้ที่ดันเจี้ยน Curious Nest จะเป็นถ้ำที่เราต้องแล่นเรือไป โดยมันจะอยู่ถัดไปทางซ้ายจาก Roque Island

Woodland Birdking III
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งมอนสเตอร์ที่จำเป็นเพื่อนำมาใช้ในการปราบ Galdera เช่นกัน สกิลของมันก็คือโจมตีด้วยหอกใส่ศัตรูทุกตัว 1 ครั้ง และบัฟเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วให้กับทีมของเราเป็นเวลา 2 เทิร์น ซึ่งเราจะพบมันได้ที่ Southern timberain Trail โดยให้เราวาร์ปไปที่เมือง Timberain แล้วเดินลงมาได้เลย จากนั้นก็เดินลงมาอีกเล็กน้อย แล้ววิ่งวนเพื่อหามอนสเตอร์ก็จะสุ่มเจอมันได้แล้ว

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.