30 ปีก่อนหน้า ที่ซากปรักของคาล
พ่อของเคลดีน่า: วิ่ง ดีน่า พ่อจะต้องปกป้องเปลวไฟสีฟ้า
ดีน่า: พ่อ..
พ่อของเคลดีน่า: แต่ลูกต้องรอดนะดีน่า แก้แค้นให้พวกเรา ในสักวันหนึ่ง
เมื่อพ่อของเขาพูดจบก็วิ่งเข้าไปขวางเหล่าศัตรูเอาไว้แต่ก็ถูกฆ่าตาย เคลดีน่าได้ร้องตะโกนเรียกพ่อ จากนั้นวิ่งหนีออกไป
ฉันเกลียดพวกมัน
ฉันเกลียดคนที่ทำให้ผู้คนของฉันหายไปจากโลก
และเกลียดโลกที่โหดร้าย ไม่สนใจใยดีที่ปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
ฉันเกลียดพวกมัน ฉันเกลียดพวกมัน ฉันเกลียดพวกมัน
ฉันเกลียดพวกมัน ฉันเกลียดพวกมัน ฉันเกลียดพวกมัน
และถ้ามีสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าในโลกนี้
พวกเขาคือศัตรูของฉัน
เปลวไฟสีฟ้าละทิ้งผู้คนของฉัน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด
ฉันเกลียดตัวเอง
เกลียดความไร้พลังของตัวเอง
ฉันจึงเดินตามรอยเท้าของศัตรู
แสดงความเชื่อในเปลวไฟ
และรอโอกาสที่จะแก้แค้น
อย่างไรก็ตาม
ความแข็งแกร่งของศัตรูนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะเข้าใจได้
หากฉันแข็งแกร่งกว่านี้
ฉันต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม
พลังจะเป็นของฉัน
ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม
ที่โบราณสถาน ณ หมู่บ้านไร้นาม เคลดีน่าได้ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้า
เคลดีน่า: ในที่สุด ฉันบูชาเปลวไฟสองแบบที่แตกต่างกัน ในดินแดนหลายแห่ง แต่ตอนนี้จุดจบก็ใกล้เข้ามาแล้ว
จากนั้นหน่วยของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เดินทัพตามมา
เคลดีน่า: นี่ก็ไกลพอแล้ว ออร์ตรวบรวมอัศวินแล้วฉันมา
ออร์ต: เรียบร้อยแล้วครับ หัวหน้าเคลดีน่า
เคลดีน่าได้เดินออกมาและสั่งเหล่าอัศวินที่เหลือ
เคลดีน่า: เฝ้าระวังที่นี่ไว้ ระวังสุนัขและจมูกที่เฉียบแหลมของมันให้อยู่ห่างจากที่นี่ ฮาฮา ไม่มีอะไรนอกจากความมืดมิดอยู่ข้างหน้า นี่ให้ฉันรู้สึกสบายใจมากกว่าเปลวไฟใดๆ
จากนั้นเคลดีน่าและเหล่าอัศวินก็เดินเข้าไปในโบราณสถาน
ทางด้านเทเมนอสก็มาถึงหมู่บ้านไร้นาม เขาต้องการที่จะหยุดเคลดีน่าและเปิดเผยความจริงให้ได้ แต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องตามหาสถานที่ทำพิธีกรรมก่อน โดยให้ออกจากหมู่บ้านไปทางด้านบนจะเข้าสู่แผนที่ Wandering Wood จากนั้นเดินไปข้างไหนก็ได้ แล้วเทเมนอสก็จะรู้ตัวว่ากำลังหลงทางอยู่ในป่า ให้วิ่งไปด้านไหนก็ได้อีกครั้งจนในที่สุด เทเมนอสก็จะรู้ตัวแล้วว่าเขาไม่สามารถผ่านป่านี้ไปได้เลย และด้วยคำใบ้จากในบันทึกที่ได้รับมา ทำให้ต้องไปตามหา บรรพบุรุษ ที่อยู่ในหมู่บ้าน
สำหรับ บรรพบุรุษ คนนี้จะอยู่บริเวณฝั่งขวา ตรงกลางของหมู่บ้าน ให้เราเดินลงบันไดที่อยู่ข้างสะพานก็จะเจอกับเขา จากนั้นให้ใช้ Guide เพื่อนำเขามาเข้าร่วมกลุ่ม หลังจากได้บรรพบุรุษอยู่ในกลุ่มแล้ว ให้กลับไปที่ป่า Wandering Wood อีกครั้ง เมื่อมาถึงบรรพบุรุษที่มีชื่อว่า ชิรุตโตะ ก็บอกว่า ปริศนาของเกาะ ถูกนายไขออกแล้วทำได้ดีมาก จากนั้นเขาก็จะนำทางทำให้เราสามารถเดินผ่านป่าเข้าสู่โบราณสถานได้
ให้เราเดินสำรวจไปจนกระทั่งเจอถ้ำ เทเมนอสเลยถามว่ามันคืออะไร ชิรุตโตะก็เล่าให้ฟัง เพียงแต่คำพูดของชิรุตโตะนั้นจะสั้นและพูดเป็นคำๆ เนื่องจากเขาคือเผ่าสัตว์ จึงทำให้พูดภาษามนุษย์ไม่คล่อง พวกเขาได้ปกป้องถ้ำแห่งนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ในสมัยก่อนเมื่อนานมาแล้ว จอมเวทย์ดาร์เคสต์ เทเมนอสก็บอกว่าดาร์เคสต์งั้นหรอ ผู้ที่พยายามเรียกรัตติกาลออกมาด้วยพิธีกรรมอันไม่บริสุทธิ์ ชิรุตโตะก็ชมว่าเทเมนอสฉลาด แต่ผิดแล้วดาร์เคสต์ไม่ได้เรียกรัตติกาล แต่เขาเรียกเงา หลังจากนั้นมนุษย์ก็ได้เข้าต่อสู้กับเงา เงาถูกปราบ มนุษย์โลภมาก ดาร์เคสต์ถูกสาป มนุษย์เปลี่ยนแปลง ครึ่งมนุษย์ ครึ่งสัตว์ เทเมนอสก็พยักหน้าเข้าใจและบอกว่า นั่นคือที่มาของเผ่าคุณสินะ ชิรุตโตะก็พยักหน้ากลับแล้วเล่าต่อ หลังจากนั้น พวกเราคอยเฝ้าดู เฝ้าดูจากที่นี่ ลึกเข้าไปข้างใน เงากำลังมา ผ่านการทดสอบแล้ว นายเข้าไปได้ เทเมนอสก็ขอบคุณ แต่เขาก็ถามกลับว่า คุณไม่สงสัยหรือว่าทำไม? ทำไมใครบางคนถึงตามหาเงา แต่ชิรุตโตะก็ตอบว่าพวกเราแค่เพียงนำทาง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก่อนหน้าคุณ มีคนเข้าไปแล้ว เทเมนอสก็คิดว่าต้องเป็นเคลดีน่าแน่นอน
ทางฝั่งเคลดีน่าตอนนี้ได้เดินทางมาถึงสถานที่ทำพิธีกรรมแล้ว
ออร์ต: หัวหน้าเคลดีน่า
เคลดีน่า: มีอะไรหรอออร์ต? ฉันเชื่อว่านายคงไม่ได้กลัวหรอกนะ
ออร์ต: …คริก..คริกเป็นเพื่อนของผม แต่บนร่างกายของเขากลับมีร่องรอยว่าดาบของคุณนี่แหละที่ฟันเขา
เคลดีน่า: หึ
ออร์ต: ฉันเชื่อว่าการรับใช้คุณจะทำให้ฉันอยู่บนเส้นทางที่ชอบธรรม แต่ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าเลย ทำไมคุณต้องฆ่าเขาด้วยหัวหน้าเคลดีน่า คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่
เคลดีน่า: เฮะ อะฮ่าฮ่าฮ่า
เมื่อหัวเราะจบเคลดีน่าก็ชักดาบออกมา ทำให้เหล่าอัศวินทุกคนต่างก็เขยิบถอยหลังออกไป
เคลดีน่า: ฉันเพียงแต่ทำตามภารกิจที่นายท่านมอบหมายมา
ออร์ต: หัวหน้าเคลดีน่า!
เคลดีน่าฟาดดาบออกไปฟันเข้าใส่ทั้งออร์ตและอัศวินที่ติดตามมา ทุกคนต่างก็ล้มตายลงไป ยกเว้นเพียงแค่ออร์ตที่ได้รับบาดเจ็บหนักและสลบไป
เคลดีน่า: และในทางกลับกัน ฉันก็มอบภารกิจให้กับพวกคุณทุกคนเช่นกัน ฮี่ฮี่ จงยินดีเถิด ด้วยพระเจ้าแห่งดาบ เพราะพวกนายได้มอบเลือดให้กับฉันในวันนี้ มาเริ่มกันได้แล้ว “อย่ายอมจำนนต่อความมืดมิดอันเงียบงัน เพราะแสงสว่างจะจางหายไป และรัตติกาลกำลังมาเยือน” ฮ่าฮ่าฮ่า เงา จงตื่นขึ้นเถิด
จากนั้นพลังแห่งเงาก็ปะทุขึ้นมาตรงสถานที่ทำพิธี พลังแห่งเงานี้ก็แพร่ออกไปทั่วถ้ำ ทำให้เหล่าอัศวินที่ตะเวนอยู่ภายในนั้นต่างก็ถูกพลังแห่งเงาเข้าครอบงำ
ทางฝั่งเทเมนอสให้เราเดินสำรวจโบราณสถานไปจนสุดทาง เมื่อถึงบริเวณที่หน้าทางเข้าสู่โถงที่ทำพิธีกรรม จะพบกับศพของเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เทเมนอสเกิดว่าสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แล้วเขาก็สังเกตุเห็นออร์ตที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักนั่งพิงเสาอยู่แถวนั้น เทเมนอสก็เลยเข้าไปดูอาการและถามออร์ตว่าเกิดอะไรขึ้น ออร์ตก็บอกว่านายคือเทเมนอส ผู้ตรวจสอบใช่มั้ย เทเมนอสก็บอกให้ออร์ตใจเย็น เขาจะช่วยห้ามเลือดให้ แต่ออร์ตก็บอกว่าปล่อยเขาไว้ คุณต้องไปหยุดเคลดีน่าให้ได้ ตอนแรกเทเมนอสก็ไม่ยอมไป แต่ออร์ตก็บอกว่าเขาขอร้อง สุดท้ายเทเมนอสก็ได้แค่ทำตาม แต่ก่อนที่จะไป เทเมนอสก็บอกกับออร์ตว่า เขาจะกลับมาเมื่อจัดการเคลดีน่าเสร็จแล้ว หวังว่าออร์ตจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้น
เมื่อเทเมนอสมาถึงสถานที่ทำพิธีก็ได้พบกับเคลดีน่าที่ยืนรออยู่
เคลดีน่า: ฉันเห็นว่านายติดตามกลิ่นมาตลอด สมควรแล้วที่ฉันประเมินจมูกหมาของพระสังฆราชต่ำเกินไป
เทเมนอส: เธอพูดประจบฉันอยู่นะ หัวหน้าเคลดีน่าฉันมาที่นี่เพื่อสอบปากคำเธอ
เคลดีน่า: โอ๊ะโอ นายจะบอกว่าฉันเป็นพวกนอกรีตใช่มั้ย
เทเมนอส: ฉันเจอบันทึกบางส่วนในซากปรักของคาล ผู้เขียนบันทึกนี้ยอมรับว่าใช้ วาดอส เพื่อจุดประสงค์ของตนเอง กล่าวคือฆ่าใครก็ตามที่มีหน้าหนังสือส่วนที่ขาดหายไปของหนังสือแห่งรัตติกาล
เคลดีน่า: หึ
เทเมนอส: สมาชิกคนสุดท้ายของชาวคาลที่กล่าวถึงในบันทึกนี้ คือเธอใช่มั้ยเคลดีน่า
เคลดีน่า: ยอดเยี่ยมมาก เทเมนอส ฉันน่าจะรับนายไว้ให้เป็นคนของฉันนะ
เทเมนอส: สำนึกผิดซะ! เธอคือคนที่ถูกสอบปากคำอยู่!
เคลดีน่า: และแน่นอนว่าฉันเป็นคนนอกรีต ฉันไม่เคยเชื่อในเปลวไฟเลย
เทเมนอส: หัวหน้าผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์ยอมรับว่าตนเป็นพวกนอกรีต เธอเลือกเหยื่อของเธอตามพระคัมภีร์ แล้วก็ทิ่มนิ้วหัวแม่มือของเธอลงไปในดวงตาของพระเจ้า เหมาะสมสำหรับคนที่เกลียดพวกเขามากเท่ากับเธอ
เคลดีน่า: ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ ทำไมนายถึงต่อต้านฉัน นายไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากมันเลย มันน่าเสียดายถ้าจะฆ่านาย ดังนั้นมาเข้าร่วมกับฉันสิ
เทเมนอส: ฉันขอปฏิเสธ ด้วยความช่วยเหลือของคริก ฉันจึงมาได้ไกลขนาดนี้
เคลดีน่า: คริก เวลส์ลีย์ เขาเป็นชายหนุ่มที่ดีที่บังเอิญไปเจอหนังสือแห่งรัตติกาล
เทเมนอส: …
ในระหว่างนี้เทเมนอสก็ได้หวนนึกถึงคำพูดของคริกในวันก่อนที่เขาจะตาย
เคลดีน่า: มาสิเทเมนอส
เทเมนอส: …
เมื่อคิดได้แล้วเทเมนอสก็เดินหน้า ชักคทาออกมาเตรียมพร้อม
เคลดีน่า: นั่นคือคำตอบของนายงั้นหรอ ทำไมล่ะเทเมนอส ทำไมนายต้องขัดขืนฉัน
เทเมนอส: เพราะว่าความสงสัยน่ะคือสิ่งที่ฉันทำ
เคลดีน่า: ขยันแม้กระทั่งตอนสุดท้าย ฉันเข้าใจแล้ว ขอให้นายทำงานอยู่ในขุมนรกข้างๆ คริกเพื่อนรักของนายไปนานๆ มีคนบอกว่ามีเพียงความตายเท่านั้นที่สามารถสอนคนโง่ได้
เทเมนอส: สรุปแล้วเธออยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เคลดีน่า มารับบาปของเธอซะ
เคลดีน่า: โฮะโฮะ บาปของฉัน? ในโลกนี้ยังมีคนที่บาปหนายิ่งกว่าฉันอีก เหมือนกับพระเจ้าอันล้ำค่าของนายเป็นต้น พวกเขาสร้างโลกนี้ขึ้นมา และด้วยความโง่เขลา พวกเขาก็สร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อทำให้โลกมันเสื่อมโทรม นับเป็นบาปที่พวกเขาจะต้องถูกทำลาย
เทเมนอส: ต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิตถึงจะสนองความเย่อหยิ่งของเธอได้ ยอมมอบตัวซะเถอะเคลดีน่า ฉันจะเป็นผู้พิพากษาเธอเอง และนำความจริงมาเปิดเผย
เคลดีน่า: อย่ามาขวางทางฉัน เทเมนอส ฉันจะทำให้เงาเป็นของฉัน และล้างแค้นให้กับชาวคาล ฉันจะฆ่าทุกคนที่จำเป็น! ฉันจะกลายเป็นอะไรก็ตามที่ฉันต้องการเพื่อให้เจตจำนงของฉันสำเร็จ ศัตรูของเราจะถูกฝังด้วยพลังของความมืดที่ผู้คนของฉันเกลียดชังมานาน
ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างเคลดีน่าและเทเมนอสก็ได้เริ่มขึ้น
ระหว่างการต่อสู้
เคลดีน่า: ไอพวกสัตว์ที่หยาบคาย นายตั้งใจจะกวนฉันอีกนานแค่ไหน
เทเมนอส: เธอก็รู้คำตอบอยู่แล้ว จนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผยยังไงล่ะ
เคลดีน่า: และนายจะเป็นคนที่ทำมันงั้นหรอ อย่ามาทำให้ฉันหัวเราะเลย พวกมนุษย์น่ะอ่อนแอ เทเมนอส มันต้องยึดติดกับอะไรบางอย่างเพื่อความอยู่รอด
เทเมนอส: เหมือนที่เธอยึดติดกับพลังงั้นหรอ
เคลดีน่า: เงาจะเป็นของฉัน ไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
เทเมนอส: แล้วไอเงานี่มันคืออะไร
เคลดีน่า: หึหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่า เงาคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันอยู่ทั่วทั้งโลก มันอยู่กับนายขณะที่หลับ มันอยู่กับนายขณะที่ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด มันอยู่กับนายเสมอ มันยังอาศัยอยู่ภายในตัวนาย
เทเมนอส: โอ้..?
เคลดีน่า: นายไม่รู้เหรอ? ลองเห็นมันด้วยตัวเองซะ นี่แหละคือเงา เทเมนอส ฮาฮาฮา
เคลดีน่าได้รวบรวมพลังแห่งเงาเข้าสู่ตัว แต่แล้วมันก็เกิดความผิดปกติขึ้น
เคลดีน่า: เกิดอะไรขึ้นกัน..? ไม่ ฉันล้มเหลวงั้นหรอ? มันกำลังครอบงำฉัน แก..จะทำ..แบบนี้..กับฉัน..ไม่ได้! ม่ายยยยย!
สุดท้ายเคลดีน่าก็ถูกเงาครอบงำและกลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับสัตว์ประหลาด
เทเมนอส: เคลดีน่า? ไม่..แกไม่ใช่เธอ…แกคือ..!
เมื่อปราบเคลดีน่าที่กลายร่างได้สำเร็จ
เทเมนอส: เคลดีน่า เธอช่างน่าสงสาร เธอแสวงหาพลังมากกว่าที่เธอสามารถควบคุมมันได้
จากนั้นร่างของเคลดีน่าก็สลายหายไป
หลังจากการตายของเคลดีน่า
ผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกปลดออกจากอำนาจ
บาปที่ลึกและมืดมนที่สุด
ได้ถูกเปิดเผยต่อแสงอันแรงกล้าของรุ่งอรุณ
เทเมนอสพร้อมด้วยคณะเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์
ได้ยื่นฟ้องพี่น้องของพวกเขา หน่วยผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์
และปล่อยให้ชะตากรรมของร่างกายขึ้นอยู่กับกฎหมาย
และด้วยเหตุนี้
คดีต่างๆ ที่เริ่มต้นด้วยการลอบสังหารพระสังฆราช
จึงจบลงอย่างเงียบสงบ
เทเมนอสได้เดินทางกลับมายังโบสถ์
เทเมนอส: คริก รอย ในที่สุดความจริงที่พวกนายแสวงหาอย่างยากลำบากก็เปิดเผยออกมาแล้ว แต่ยังคงมีปริศนาที่ต้องไข ตัวตนศัตรูของเคลดีน่า ใครคือผู้นำของภาคีแห่งร่มเงาจันทร์ และยิ่งไปกว่านั้น พลังที่ผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์พยายามซ่อนไว้คืออะไร? เคลดีน่าพยายามอย่างมากที่จะได้มันมา เงานี่มันคืออะไร เฮ่อ ไขปริศนาหนึ่งเรื่องทำให้เกิดอีกสองเรื่อง ดั่งเช่นพระอาทิตย์ขึ้นและตก ไม่มีที่สิ้นสุด
มิ้นท์: เทเมนอส
เทเมนอส: อ่า มิ้นท์ เธอถอดเครื่องประดับผมออกแล้วหรอ น่าเสียดายมันดูเหมาะกับเธอดี
มิ้นท์: ฉันไม่สนเรื่องที่น่ากำลังเบี่ยงเบนความสนใจของฉันหรอกนะ นายจะจากไปอีกแล้วใช่ไหม? โดยไม่มีคำบอกลาแม้แต่คำเดียว
เทเมนอส: ฉันไม่ค่อยเหมาะกับเรื่องเศร้าน่ะ เธอก็รู้
มิ้นท์: การเดินทางเพื่อรักษาแผลใจของนายยังไม่จบใช่มั้ย
เทเมนอส: อันที่จริงมันจบแล้วแหละ และการเดินทางครั้งต่อไปของฉันเป็นเพียงการพเนจรไม่มีจุดหมายที่แน่นอน
มิ้นท์: ฮี่ฮี่ ฉันหวังว่าฉันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจนาย
เทเมนอส: ฉันคิดว่านี่มันแปลว่าฉันจะต้องเขียนถึงเธออีกครั้ง
มิ้นท์: โอ้ ครั้งนี้มันไม่จำเป็นแล้วล่ะเทเมนอส สุดท้ายแล้วการเดินทางของนายก็จบลง
เทเมนอส: ก็เป็นแบบนั้นแหละ…ลาก่อน มิ้นท์
“อย่ายอมจำนนต่อความมืดมิดอันเงียบงัน เพราะแสงสว่างจะจางหายไป และรัตติกาลกำลังมาเยือน”
Temenos – Chapter 4 End
เราจะไปกันต่อที่เมือง Conning Creek กับเนื้อเรื่องคู่ของเทเมนอสและโทรเน่
