ห้องบัลลังก์ของคู อาเกฮะได้เข้ามารายงานเกี่ยวกับทัพของฮิคาริ ที่ตอนนี้มันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยอาเกฮะได้ขอให้ส่งกองทัพเข้าไปปราบปราม แต่ทางด้านมูเกนก็บอกไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เขาจะจัดการด้วยตัวเอง หากฮิคาริกล้ากลับมาที่นี่เขาจะเป็นคนบั่นคอมันเอง จากนั้นมูเกนก็ควักดาบโลหิตทมิฬออกมา มันคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลคู ตัวดาบมีสีแดงและออร่าแห่งความมืดคลุมอยู่ สีแดงนี้มันเต็มไปด้วยเลือดและวิญญาณนับไม่ถ้วนที่ถูกมันล่าไป มูเกนบอกว่าดาบเล่มนี้เขาเท่านั้นที่คู่ควร แม่ผู้ต่ำต้อยของฮิคาริ ได้เห็นด้วยตาแล้วว่าฮิคาริจะไม่มีทางเป็นคนของตระกูลคูอย่างแท้จริง เลือดอันไม่บริสุทธิ์ของเขาคงจะต้องกลายเป็นเพียงสนิมบนดาบเล่มนี้เท่านั้น

ทางด้านฮิคาริได้เดินทางมาถึง Stormhail ที่นี่เป็นอาณาเขตของตระกูลเมย์ จากนั้นให้เดินขึ้นไปด้านบนเข้าสู่ Stormhail: Bridge แล้วออกไปทางขวา ฮิคาริก็จะได้พบกับคนของตระกูลเมย์ เขาก็ได้บอกกับทางตระกูลว่า เขาคือฮิคาริมาขอเข้าพบกับไรเมย์ แต่คนของตระกูลที่นำมาโดย คุนโซ กลับไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป เป็นคำสั่งโดยตรงมาจากไรเมย์เอง ฮิคาริที่ไม่มีทางเลือกก็เลยต้องยอมใช้กำลังเข้าต่อสู้กัน

เมื่อปราบกลุ่มของตระกูลเมย์ได้ ไรเมย์ก็ได้ออกมาหยุดการต่อสู้ด้วยตัวเองและเธอก็เดินเข้ามาทักทายฮิคาริ
ไรเมย์: ไม่ได้เจอกันมานานเลยนะฮิคาริ 3 ปีนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้น
ฮิคาริ: ไรเมย์ มูเกนได้เข้าควบคุมคูแล้ว เพื่ออนาคตของชาติ ข้าต้องเห็นมันถูกปลดออกจากราชบัลลังก์ เพราะงั้นข้าก็เลยมาหาเจ้า ข้าต้องการหอกของเจ้าให้มาอยู่เคียงข้าง หอกแห่งเลวิน ด้วยการร่วมมือกันจะต้องยุติความเผด็จการของมูเกนได้ ได้โปรดไรเมย์ ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถทำมันได้ ถ้าไม่มีพลังของตระกลูเมย์
ไรเมย์: นายไม่ควรมาที่นี่เลย มิตรภาพของเราได้จบลงไปนานแล้ว
ฮิคาริ: อะไรนะ?
ไรเมย์: ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการ ใครก็ตามที่ได้พบกับนายจะต้องฆ่านายทันที 
ฮิคาริ: ไรเมย์
ไรเมย์: ตอนนี้ข้าได้วางศรัทธาเอาไว้ในหอก เรียกการพิพากษาจากสรวงสวรรค์และลงทัณฑ์ศัตรู
เมื่อกล่าวคำจบ ไรเมย์ก็ได้ปล่อยพลังเรียกสายฟ้าผ่าไปที่สะพาน ทำให้สะพานพังและตัวฮิคาริก็ได้ตกลงไปด้วย
ไรเมย์: ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายตระกูลเมย์

ฮิคาริที่ตกลงไปก็ได้รับบาดเจ็บหนักและตกอยู่ในความฝัน เขาได้ยินเสียงเรียกของแม่ที่ปลุกเขาให้ลุกขึ้นมาจากเตียง ฮิคาริสมัยเด็กก็เกิดอาการสับสนถามแม่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แม่ก็บอกว่าอยู่ในห้องนอนของตัวเองนั่นแหละ ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องลุกจากเตียงแล้ว วันนี้เราต้องไปพบกับผู้ใต้บังคับบัญชาคนใหม่ของเรา

ที่หน้าพระราชวัง หัวหน้าตระกูลเมย์ จินเมย์ ก็ได้ถามไรเมย์ว่าพร้อมแล้วหรือยัง วันนี้ตระกูลของเราจะต้องสาบานมอบความภักดีให้แก่ตระกูลคู ตระกูลเมย์จะเป็นหอกที่นำการโจมตีไปสู่อนาคต และจะถูกใช้โดยผู้ปกครองแห่งทะเลทรายในอนาคตเท่านั้น เมื่อสงครามยุติลง โลกก็จะพบกับความสงบสุข อนาคตที่เราใฝ่ฝันจะมาถึง อนาคตที่ไร้เลือด อนาคตที่สดใส เก็บอนาคตนั้นไว้ในใจพร้อมรับใช้ตระกูลคู ไรเมย์ก็ตอบรับว่าเธอจะทำตามที่พี่ชายบอกไว้ จากนั้นฮิคาริและแม่ของเธอก็ได้เดินออกมาที่หน้าพระราชวัง ทางด้านตระกูลเมย์ที่เห็นก็รีบคุกเข่าลง จินเมย์ได้กล่าวคำสาบาน ข้าคือจินเมย์แห่งตระกูลเมย์ วันนี้พวกเราขอสาบานว่าจะมอบความภักดีให้แก่ตระกลูคู ส่วนไรเมย์ก็กล่าวแนะนำตัวว่าเธอคือไรเมย์ ฮิคาริได้เดินเข้าไปหาจินเมย์และถามว่า เจ้าดูแข็งแกร่ง สามารถใช้ดาบได้หรือไม่ จินเมย์บอกว่า เขาเพียงแค่รู้จักการแกว่งมันไปมาเป็นครั้งคราว ฮิคาริเลยถามว่าช่วยสอนให้เขาได้หรือเปล่า จินเมย์ก็ตอบรับว่านับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ฮิคาริก็พูดว่าเจ้าสามารถเรียกข้าว่าฮิคาริเฉยๆ ก็ได้ แต่ทางจินเมย์ตกใจ เขาบอกว่า แต่ท่านคือองค์ชายและข้าเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา คูร่าแม่ของฮิคาริก็กล่าวขัดว่า ไม่จำเป็นต้องมากพิธี ระหว่างเพื่อนฝูง โปรดดูแลฮิคาริให้ด้วยนะ จินเมย์ก็กล่าวตอบรับว่าเป็นเช่นนั้นแน่นอน พร้อมเริ่มสอนดาบให้แก่ฮิคาริ และบอกให้ฮิคาริลงมือได้โดยไม่ต้องลังเล ทันทีที่ชักดาบออกมา อย่าคาดหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากคู่ต่อสู้ ตอนนี้ให้กด Challenge กับจินเมย์
จินเมย์ได้ให้คำแนะนำว่า ฮิคารินั้นว่องไวแต่การโจมตีกลับเบาเกินไป ฮิคาริก็เลยบอกว่า งั้นข้าก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นสินะ จินเมย์บอกว่าไม่ใช่ การใช้ดาบไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังแต่ขึ้นอยู่กับเทคนิคมากกว่า นักรบของตระกลูเมย์ขึ้นชื่อในเรื่องการใช้หอก แต่ตัวข้าเองชอบใช้ดาบ ดังนั้นขอให้ข้าได้มอบบทเรียนแรกให้กับท่าน “ดาบผ่าแปดประตู” พร้อมกับกล่าวชื่อท่าจินเมย์ก็ฟาดดาบไปยังฮิคาริ ฮิคาริก็บอกว่าช่างเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดเสียจริง แต่ข้าคิดว่าพอจะเข้าใจมันแล้ว จากนั้นฮิคาริก็ใช้ท่าดาบผ่าแปดประตูฟาดกลับไปที่จินเมย์ จินเมย์ที่รับมือกับท่านี้ถึงกลับตกใจและบอกว่า เป็นไปได้ยังไง ท่านทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบในการลองเพียงครั้งแรก ฮิคาริตอบกลับ ก็เพราะว่าได้อาจารย์ที่ดียังไงล่ะ จินเมย์เลยบอกว่า ข้าเดิมพันว่าจะต้องเรียนรู้จากท่านในไม่ช้านี้ ไม่เคยเห็นคนที่มีพรสวรรค์แต่กำเนิดเช่นนี้มาก่อนเลย จากนั้นฮิคาริก็ขอให้ฝึกสอนดาบต่อ

ไม่กี่วันต่อมา ฮิคาริได้มาฝึกการต่อสู้กับไรเมย์ และมีจินเมย์คอยดูอยู่ ระหว่างนั้นก็มีเสียงระฆังดังขึ้น มันหมายความว่าจะเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง ฮิคาริเลยถามว่าตระกูลเมย์จะเข้าร่วมด้วยมั้ย ไรเมย์ก็บอกว่าแน่นอน ฮิคาริก็อยากเข้าร่วมสงครามด้วยเช่นกัน แต่จินเมย์บอกว่าท่านยังไม่พร้อม ตระกูลเราไม่สามารถปล่อยให้องค์ชายตายได้ ตอนนี้ให้กลับไปหาท่านแม่ก่อนเถอะ เธอน่าจะรอท่านอยู่ในเมือง ฮิคาริก็บอกว่าเขาแค่อยากทำให้จินเมย์รู้สึกภูมิใจ จินเมย์เลยบอกว่า ท่านสามารถทำได้โดยดูแลผู้คนภายในกำแพงเมือง มีข่าวลือมากมายว่ามีคนหันไปลักขโมย ฮิคาริก็เลยสัญญาว่าจะเก็บดาบเอาไว้ใกล้ตัว และหวังว่าเราจะได้พบกันในการฝึกครั้งต่อไป

ภายในเมืองแม่ของฮิคาริกำลังพูดคุยกับชาวเมือง ทางด้านชาวเมืองอยากจะให้ท่านหญิงคูร่าหลบไปซ่อนตัวก่อน
ชาวเมือง: ท่านหญิงคูร่า
คูร่า: ไม่จำเป็นต้องพูดชื่อตำแหน่งแบบนั้นหรอก ฉันก็เกิดที่นี่เหมือนกันนะอย่าลืมสิ ฉันซื้อข้าวต้มถั่วแดงมา มากินด้วยกันสิ
ชาวเมือง: พวกเราทำเช่นนั้นไม่ได้ ถ้าเกิดมีข่าวแบบนี้หลุดไปถึงในวังล่ะก็
คูร่า: พวกเธอคอยเป็นเพื่อนเล่นให้กับฮิคาริใช่ไหม ถือว่านี่เป็นของขวัญตอบแทนสำหรับเรื่องนั้นก็ได้
ชาวเมือง: ท่านหญิงคูร่า ช่างมีน้ำใจจริงๆ ท่านปฏิบัติต่อพวกเราอย่างเท่าเทียมเหมือนเป็นดั่งสหาย เพียงคำพูดไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันมีค่ากับพวกเราขนาดไหน
เมื่อชาวเมืองรับน้ำใจนั้นมาแล้วก็ได้เดินออกไป ส่วนฮิคาริเดินสวนทางเข้ามาก็ได้พยักหน้าทักทายกัน
ฮิคาริ: ท่านแม่
คูร่า: อยู่นี่เองฮิคาริ
ฮิคาริ: ท่านมาทำอะไรในที่แบบนี้กัน
คูร่า: …
ฮิคาริ: ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ ข้ารู้แล้ว พวกเขาก็เป็นประชาชนของเราทุกคน ท่านแค่อยากให้ทุกคนมีความสุข ไม่ว่าพวกเขาจะเกิดมาจากไหนก็ตาม นั่นทำให้ข้ารักท่านแม่มากนะ 
คูร่า: ฮิคาริ อัศวินแห่งความมืดได้ลงมายังโลกนี้แล้ว ผู้คนต่างหลงทาง เจ้าต้องเป็นประภาคารที่นำทางพวกเขาไปสู่รุ่งอรุณใหม่
ฮิคาริ: อะไรนะ? ข้าหรอ?
คูร่า: ความอบอุ่นในหัวใจของเจ้าจะไม่มีวันดับลง สัญญากับแม่ว่า เจ้าจะส่องทางให้คนอื่นเมื่อพวกเขาหลงทาง
ฮิคาริ: ข้าขอสัญญา ท่านแม่

จากนั้นก็มีกลุ่มโจร 3 คนเดินเข้ามา
หัวหน้าโจร: สวัสดี ฝ่าบาท
เมื่อพูดจบกลุ่มโจรทั้ง 3 ได้วิ่งเข้าไปล้อมทั้งฮิคาริและคูร่าเอาไว้
ฮิคาริ: ท่านแม่ อยู่หลังข้าไว้ พวกแกต้องการอะไร เงิน? สมบัติ?
หัวหน้าโจร: ไม่ใช่ พวกข้าต้องการชีวิตของเจ้า ไม่มีความแค้นส่วนตัว หวังว่าจะเข้าใจ
กลุ่มโจรเริ่มเข้าจู่โจม แต่ทางฮิคาริก็สามารถต้านเอาไว้ได้
หัวหน้าโจร: ฝีมือไม่เลวเลยเด็กน้อย
แต่ในจังหวะที่ฮิคาริเผลอกำลังรับมือกับพวกลูกน้องโจรอยู่นั้น หัวหน้าโจรก็เห็นช่องว่างแล้วเข้าไปแทงมีดใส่คูร่า
ฮิคาริ: ท่านแม่!
ฮิคาริที่เห็นแบบนั้นจึงได้จัดการโจรลงไปได้คนหนึ่ง แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาแม่
คูร่า: ฮิคา…ริ..
ฮิคาริ: ท่านแม่..ไม่นะ..
คูร่าที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงได้ล้มลงสิ้นใจไป
ฮิคาริ: อ๊ากกกกกก!
หัวหน้าโจร: หากนายต้องการโทษอะไรสักอย่าง ก็โทษชาติที่เน่าเฟะแห่งนี้เถอะ
ฮิคาริ: แฮ่ก แฮ่ก แกจะต้องชดใช้เรื่องนี้

ตอนนั้นเองออร่าสีดำ เริ่มแพร่ออกมาจากตัวฮิคาริ
ฮิคาริ: เกิดอะไรขึ้น?
จากนั้นออร่าสีดำขยายใหญ่ขึ้น มันได้เข้าครอบงำตัวฮิคาริไปเรียบร้อยแล้ว
ฮิคาริ: ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ ยินดีที่ได้พบ ข้าเชื่อว่าพวกแกคงรู้สินะว่าข้าชื่อว่า ฮิคาริ
หัวหน้าโจร: พอแค่นี้แหละ ฆ่าเขาซะ
ฮิคาริ: ฮี่ฮี่ฮี่ ข้ารอช่วงเวลานี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว สัตว์ร้ายแบบพวกนายมีชีวิตอยู่เพื่อถูกกำจัดเท่านั้น ข้าล่ะยินดีที่จะช่วยจริงๆ ฮี่ฮี่ฮี่ฮาฮาฮา
จากนั้นพวกโจรทั้ง 3 ก็ตายลงไปหมด
ฮิคาริ: ดับเปลวเพลิงเพรียกหารัตติกาล

ทางฝั่งจินเมย์และไรเมย์หลังจากรบเสร็จก็ได้วิ่งกลับมาพอดีและเห็นเหตุการณ์นี้เข้า
จินเมย์: นายท่านฮิคาริ
ไรเมย์: มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่
ฮิคาริ: ฮี่ฮี่ แกอยากมีส่วนร่วมด้วยงั้นหรอ? ดาบของข้ามันยังกระหายอยู่เลย
จินเมย์ได้เดินเข้าไปใกล้กับฮิคาริ
ไรเมย์: พี่ ถอยออกมา
จินเมย์: อย่าเดินเข้ามาใกล้นะ ไรเมย์ ข้าต้องหยุดนายท่านฮิคาริให้ได้ ถ้าข้าทำไม่ได้ล่ะก็…
ไรเมย์: พี่? พี่จะทำอะไรน่ะ
จินเมย์: ยกโทษให้ข้าด้วยนายท่านฮิคาริ
ฮิคาริ: ฮี่ฮี่ฮี่ เหมือนลูกแกะที่ถูกส่งไปเชือด
จากนั้นทั้ง 2 ก็ได้เข้าต่อสู้กัน

ฉากตัดกลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฮิคาริได้นอนอยู่บนเตียงในคุกใต้ดิน
ฮิคาริ: หาา? ฝันงั้นหรอ ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหนกัน
ไรเมย์: นายตื่นแล้วสินะ ถ้านายสงสัยล่ะก็ ตอนนี้นายอยู่ในคุกใต้ดินของปราสาท ข้าเคยคิดว่าการตกลงจากที่สูงแบบนั้นคงจะฆ่านายได้ แต่ดูเหมือนว่าเลือดของตระกูลคูจะดื้อรั้นอย่างที่เขาพูดกัน
ฮิคาริ: ไรเมย์
ไรเมย์: ถึงอย่างนั้น มันจะจบลงที่นี่ พรุ่งนี้นายจะถูกนำตัวไปประหาร ตามพระราชโองการของราชามูเกนแห่งคู
ฮิคาริ: ข้าจะไม่ตายที่นี่ มันยังมีเรื่องอีกมากมายที่ข้าต้องทำ
ไรเมย์: ฮืมม ข้าเคยเห็นแววตานั้นในดวงตาของนายมาก่อน ข้าจำได้ตอนที่อยู่ในสนามรบ แม้ในขณะนั้นพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย นายก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราลงมือได้ ด้วยการมองจากสายตานายเพียงแค่ครั้งเดียว “เดินหน้าต่อไปกันเถอะเหล่าสหาย” นายชอบพูดแบบนั้น ข้าเห็นว่าส่วนนั้นในตัวนายไม่เปลี่ยนแปลงเลย แล้วนายวางแผนจะหลบหนีจากคุกนี้และทำภารกิจของนายต่อไปอย่างไรกันแน่?
ฮิคาริ: ข้าจะหาทางให้พบ ข้ายังเชื่อว่าเจ้าจะเข้าใจเหตุผลของมัน
ไรเมย์: ราวกับว่านายรู้เหตุผลบางอย่าง แต่มีบางสิ่งที่ข้าไม่สามารถละทิ้งไปได้ ด้วยเกียรติของหอกและพี่ชาย

ไรเมย์ได้เดินออกจากคุกและขึ้นมาบนหอคอยของปราสาทโดยมีคุนโซยืนอยู่ใกล้ๆ
ไรเมย์: ตั้งแต่สมัยโบราณ ตระกูลคูได้ย้อมทรายให้เป็นสีแดงด้วยเลือดของศัตรู และตอนนี้พวกเขามีแผนที่จะขยายขอบเขตไปยังทวีปตะวันออก ปราสาทของเราแห่งนี้ มีไว้เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพิชิต และตระกูลเมย์ได้รับเกียรติให้ปกป้องปราสาท
คุนโซ: ตระกลูคู ต้องการเห็นโลกถูกเผา
ไรเมย์: พวกเขาถูกขนานนามว่าเป็นตระกูลต้องสาปมาหลายชั่วอายุคน ในวันนั้น ข้าได้เห็นว่าเพราะอะไร ข้าเห็นความมืดมิดภายในตัวฮิคาริเดือดพล่านขึ้นมา ไม่ว่ามันคืออะไรก็ตาม มันไม่ควรอยู่บนโลกใบนี้ ฮิคาริสังหารโจรพวกนั้นเหมือนกับฆ่าวัว แต่เป็นเพราะความใจดีของราชาจิโกะ ที่ทำให้เขารอดพ้นจากการลงโทษ เหตุการณ์นั้นถูกโยนความผิดไปที่กลุ่มผู้ต่อต้าน ที่ปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบต่อตระกูลคู แต่ความจริงเลวร้ายยิ่งกว่านั้นมาก

ไรเมย์นึกย้อนไปยังอดีตหลังจากพี่ชายของเขาหยุดฮิคาริที่ถูกครอบงำได้แล้ว ตอนนี้ฮิคาริได้สลบไป แต่พี่ชายก็ได้รับบาดเช่นกัน
ไรเมย์: พี่ชาย! ทำไม ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย
จินเมย์: มันเป็น..ความผิด..ของข้าเอง คนที่ทำให้เกิดการโจมตีใส่ฮิคาริและแม่ของเขา…คือข้าเอง
ไรเมย์: ห๊ะ!
จินเมย์: ตามคำสั่งของแม่ทัพมูเกน เราจะต้องฆ่าโจรพวกนั้นในภายหลัง ไม่มีใครพูดถึงศพอีกไม่กี่ศพ ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาขู่ว่าจะทำลายเรา ตระกลูเมย์เหลือคนไม่มากแล้ว พวกเราได้แต่ทำตามคำสั่ง
ไรเมย์: นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ นี่มันไม่ใช่อนาคตที่เราต้องการ นี่ไม่ใช่หนทางที่เราอยากจะเดิน
จินเมย์: ไร ข้าอยากให้บอกมาว่า อนาคตที่เราคาดหวังไว้จะเป็นอย่างไร หลังจากเดินบนเส้นทางเลือดนี้มานาน ข้าก็ลืมไปหมดแล้ว ข้าแค่ต้องการชดเชยตัวเองให้กับนายท่านฮิคาริ
ไรเมย์: พี่ชาย จะทำอะไรน่ะ
จินเมย์: อย่าลืมอุดมการณ์ที่นำเรามาที่นี่ ข้าขอฝากตระกูลของเราไว้ในมือเจ้า
จากนั้นจินเมย์และไรเมย์ก็ได้มาพบกับแแม่ทัพมูเกนที่หน้าราชวัง
แม่ทัพมูเกน: เจ้าทำงานพลาดแล้วยังกล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีกหรอ
จินเมย์: คำพูดไม่สามารถอธิบายความอับอายของข้าได้เลย
แม่ทัพมูเกน: ไอ้เลือดผสมที่น่าสมเพชนั่นจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้
จินเมย์: ความผิดครั้งนี้เป็นเพราะข้าเอง และข้าขอรับการลงโทษทั้งหมด โปรดไว้ชีวิตคนในตระกูลข้าด้วย
แม่ทัพมูเกน: ถ้าพวกมันทำตัวให้เป็นประโยชน์ ข้าก็จะปล่อยพวกมันไป
จินเมย์: ขอให้ตระกูลเมย์คงอยู่ตลอด
ตอนนั้นเองแม่ทัพมูเกนได้ชักดาบออกมาแล้วฟันไปที่จินเมย์

ฉากจะตัดมาที่เนินเขาวีรบุรุษ ตอนนี้ทั้งไรเมย์และฮิคาริได้ยืนอยู่หน้าหลุมศพ
ไรเมย์: ฮิคาริ
ฮิคาริ: ไรเมย์ ข้าเป็นอะไรไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ข้ากลัวสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของข้าเอง ข้า..จินเมย์…
ไรเมย์: มันไม่ใช่เพราะนายหรอก ฮิคาริ อย่าโทษตัวเองในเรื่องการตายของพี่ชายข้าเลย ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าอุดมคติที่เราใช้ชีวิตอยู่นั้นเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ตระกูลของข้านั้นมีชีวิตอยู่จริง และข้าจะต้องปกป้องพวกเขาเอาไว้ให้ได้ ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าต้องทำอะไร ข้าจะปกป้องตระกูลเมย์แทนพี่ชายของข้า เราจะอยู่รอดไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ฮิคาริ: ไรเมย์

กลับมาที่ปัจจุบัน
ไรเมย์: ตั้งแต่วันนั้นข้าก็ได้สัญญากับตัวเอง หากเราฝ่าฝืนคำสั่งของมูเก็น เขาจะทำลายล้างตระกูลของเราให้สิ้นซาก
คุนโซ: อากาศมันเริ่มจะหนาวแล้ว ท่านหญิง
ไรเมย์: ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ หากเราถอนเมล็ดพันธุ์แห่งการกบฏออกจากดินในตอนนี้ มูเก็นจะตอบแทนความภักดีของเราอย่างแน่นอน
คุนโซ: ท่านกำลังคิดที่จะเอาองค์ชายฮิคาริไปประหารจริงๆ เหรอ
ไรเมย์: ข้ากำลังคิดถึงชะตากรรมของตระกูลเมย์ เส้นทางเดียวที่เราจะเดินได้ คือเส้นทางที่ทำให้พวกเรามีชีวิตรอด คุณคงจะเห็นด้วยอย่างแน่นอนพี่ชาย

ฮิคาริที่กำลังเดินไปมาอยู่ในคุกใต้ดินก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาเยี่ยม
ฮิคาริ: เจ้ามาทำอะไรที่นี่
คุนโซ: ข้ามาที่นี่เพื่อจะถามอะไรองค์ชายบางอย่าง ท่านถือว่าท่านหญิงเป็นสหายหรือไม่
ฮิคาริ: แน่นอน ข้าคงไม่มาที่นี่ หากไม่ได้คิดแบบนั้น ข้ารู้ว่าเธอต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ข้ารู้ว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานจากภาระนั้น
คุนโซ: ใช่แล้ว เธอติดอยู่ในกรงแห่งความกลัวของตัวเองมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่วันที่เธอได้สูญเสียพี่ชายไป
คุนโซได้เดินไปเปิดประตูคุกให้กับฮิคาริ
ฮิคาริ: ท่านคุนโซ
คุนโซ: และการฆ่าองค์ชายก็จะยิ่งทำให้โซ่ตรวนที่ผูกมัดเธอแน่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังคงมีความหวัง ขอร้องนายท่านฮิคาริ โปรดปลดพันธนาการที่รัดเธอไว้ ปล่อยเธอออกจากกรงขัง
ฮิคาริ: ขอบคุณมากท่านคุนโซ ท่านทำให้ข้าเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น ข้าจะทำทุกอย่างที่ทำได้

ตอนนี้ให้เราเดินขึ้นไปยังปราสาทและหาทางขึ้นไปถึงข้างบนสุดของหอคอยจะได้พบกับไรเมย์ที่ยืนคอยอยู่
ไรเมย์: อ่า ฮิคาริ ข้าเห็นว่าคุนโซอยากจะคุยกับนาย
ฮิคาริ: ไรเมย์ เจ้าตั้งใจจะติดตามมูเก็นอย่างไม่ลืมหูลืมตาจริงๆ เหรอ แม้มันจะนำเจ้าไปสู่มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยเลือดก็ตามเหรอ มูเกนจะทำให้โลกทั้งใบอยู่แทบเท้า แต่ที่ปลายทางนั้น..ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย พวกเราต้องหยุดมัน หรือสูญเสียทุกอย่างไป
ไรเมย์: นั่นคือเส้นทางที่นายเชื่ออยู่งั้นหรอฮิคาริ ข้ากับพี่ชายก็เคยมีศรัทธาในอนาคตเหมือนกัน แต่ตอนนี้เหลือแค่ข้าคนเดียว ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเดินตามเส้นทางแห่งความเชื่อของตนเองได้ เส้นทางนั้นไม่มีวันสิ้นสุด เราต้องเต็มใจที่จะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลังในการเดินทาง ดังนั้น แทนที่จะวางศรัทธาไว้ในอนาคต ข้าจึงเลือกที่จะให้ความปลอดภัยของตระกูลข้าอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
ฮิคาริ: ไรเมย์ พวกเราไม่จำเป็นต้องเดินแยกทางกัน เจ้าพูดเองว่า เชื่อในอนาคตที่เราต่างมองหาคำแนะนำและการสนับสนุนจากกันและกัน
ไรเมย์: เงียบซะ
ฮิคาริ: เราไม่สามารถละทิ้งเส้นทางที่เราสร้างขึ้นได้ มิฉะนั้นเราจะมองไม่เห็นตัวเอง เราต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ เจ้าก็รู้เรื่องนี้ดี
ไรเมย์: ข้าบอกให้เงียบไปซะฮิคาริ มันเป็นเพราะสายเลือดต้องสาปของนายที่เอาชีวิตพี่ชายของข้าไป รอยด่างของตระกูลคู ข้าจะไม่ยอมให้มันพรากอะไรไปอีก แม้จะต้องแลกกับทุกสิ่งอย่าง ตระกูลเมย์ก็จะอดทน
ฮิคาริ: ไรเมย์ นั่นไม่ใช่หนทางที่ข้าต้องการจะเดิน
ไรเมย์: พวกเรามีใครบ้างล่ะที่ได้เดินในหนทางที่ต้องการ พวกเราสูญเสียไปมากมายและมากขึ้นไปอีกในการเดินทางจนกระทั่งตอนนี้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะต้องดูแลความปลอดภัยของตระกูล
สุดท้ายด้วยความแตกต่างทางความคิดทั้งฮิคาริและไรเมย์ก็ได้ต่อสู้กัน

เมื่อเอาชนะเธอได้
ไรเมย์: ข้ายังไม่แพ้ ข้าสาบาน สาบานว่าตระกูลของข้าจะไม่มีอันตรายใดๆ มากล้ำกราย หอกของข้าจะไม่ยอมแพ้…ฮิคาริ เป็นตระกูลของข้าเองที่พรากชีวิตแม่ของนายไป พวกเราเป็นคนสั่งโจรนั่นให้ฆ่าเธอ โปรดยกโทษให้ข้าด้วย
ฮิคาริ: ข้ารู้ ข้ายังรู้ด้วยว่า มันเป็นคำสั่งของมูเกน เจ้าและครอบครัวของเจ้าไม่มีความผิด บาปนั้นตกอยู่บนไหล่ของคู ทั้งแม่และพี่ชายของเจ้า พวกเขาต่างก็เป็นเหยื่อความโหดร้ายของประเทศชาติเรา ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการอนาคตแบบเดียวกัน ไรเมย์ อนาคตที่ปราศจากเลือด อนาคตที่สงบสุข มันยังคงเป็นไปได้ เราต้องกำจัดมูเกนและนำตระกูลคูออกจากมหาสมุทรแห่งเลือด นั่นคือเส้นทางที่ข้าเลือก จงร่วมสร้างมันไปด้วยกันกับข้า ข้าทำมันเพียงคนเดียวไม่ได้ไรเมย์
ไรเมย์: *สะอื้น* อ่าาา ตระกูลของข้า พร้อมที่จะฆ่านายเพื่อให้พวกเขาปลอดภัย มันเป็นครั้งที่สองแล้ว ตอนนี้มันสายเกินไป ข้าได้คุกเข่าให้กับมูเก็นแล้ว ข้าเดินเคียงข้างนายไม่ได้ ข้าทำไม่ได้ ฆ่าข้าเถอะฮิคาริ มันยิ่งกว่าสมควรทำ
ฮิคาริ: ข้าจะรอเจ้าที่คูนะไรเมย์ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะมา

การกลับมาพบกับไรเมย์ทำให้หวนนึกถึงอดีต
ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำของการกระทำอันชั่วร้ายและการนองเลือด
แม้ว่าฮิคาริจะโอบกอดไรเมย์ด้วยอ้อมแขนที่เปิดกว้าง
แต่เธอก็ยังลังเลใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรม
อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของมูเกนจะไม่รอการตัดสินใจของเธอ
ดังนั้นฮิคาริจึงออกเดินทางเพื่อต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย
Hikari – Chapter 4 End

จุดหมายต่อไปของเราจะอยู่ที่ Abandoned Village เนื้อเรื่องบทที่ 3 ของแคสตี้
 
				 
															 
								 
															



 
								