บทสรุป Castti – Chapter 2: Sai Route

ตามบันทึกของเธอได้เคยระบุเอาไว้ว่าเธอเคยมาทำการรักษาที่นี่ ซึ่งเธอหวังว่าจะมีอะไรบางอย่างที่ช่วยฟื้นความทรงจำได้ เมื่อมาถึงไม่นานก็มีชาวเมืองตะโกนว่าเพื่อนของเขาได้รับบาดเจ็บต้องการคนช่วย แคสตี้จึงได้ไปถามชาวเมืองแถวนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรอ ชาวเมืองก็เลยเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้มีการต่อสู้กับพวกทหารในเมืองที่อยู่ไกลออกไป ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากต่างถิ่น ทำให้ไม่มีอะไรจะเลี้ยงชีพได้มากนัก ใครที่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นมักจะเดินทางไปทำงานในเมืองถัดไป ทุกอย่างเป็นปกติดี จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่นั่นจู่ๆ ก็ตัดสินว่าพวกเราเป็นคนไม่ดี แคสตี้ก็เลยสรุปได้ว่านี่คือสาเหตุของการนองเลือดสินะ ชาวเมืองตอบว่าใช่แล้ว ว่าแต่เธอคือใครล่ะ แคสนี้ก็แนะนำตัวเองว่าเป็นนักปรุงยาเดินทาง เธอสามารถช่วยรักษาบาดแผลได้ จากนั้นก็ถามว่าเธอจะไปรักษาคนบาดเจ็บได้ที่ไหนล่ะ ชาวเมืองก็ชี้ทางให้ว่ามีโรงหมอไม่ไกลเดินไปตามทางนี่แหละ แคสตี้กล่าวขอบคุณและเดินทางไปยังโรงหมอ

ภายในโรงหมอตอนนี้มีผู้บาดเจ็บเข้ามานอนพักรักษาตัวอยู่เป็นจำนวนมาก เอ็ดมันด์หัวหน้าเหล่าทหารรับจ้างได้บ่นว่า พวกแกจะนอนขี้เกียจไปอีกนานแค่ไหน น่าจะรู้กฏกันดีอยู่แล้วใช่มั้ย ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ต้องกิน เหมาพยาบาลสาว ที่ตอนนี้พยายามรักษาเหล่าทหารอยู่ก็ได้ต่อว่า คุณเอ็ดมันส์ฉันพึ่งจะรักษาแผลชายคนนั้นเสร็จไปเองนะ เอ็ดมันส์ตอบกลับ อย่ามาเล่าเรื่องเศร้าให้ฟังเลย คุณหมอกระดูก ผู้ชายต้องเข้มแข็ง ถ้าเขาต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ต้องเป็นผู้ให้ เข้าใจมั้ย ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีอะไรกิน ไม่มีข้อยกเว้น แคสตี้ที่ยืนฟังอยู่เกิดทนไม่ไหวเลยขอขัดจังหวะหน่อย เอ็ดมันส์บอกว่าถ้าไม่พอใจอะไรก็พูดมาเลย แคสตี้จึงได้บอกว่า อาการบาดเจ็บมันต้องใช้เวลาในการรักษา เขาไม่สามารถทำงานในสภาพแบบนี้ได้หรอกนะ เขาต้องพักผ่อนหากฝืนออกไปจะทำให้แผลเปิดได้ นั่นมันคือการเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง ทหารที่บาดเจ็บก็ส่งเสียงออกมา หัวหน้าผมลุกไม่ไหว เอ็ดมันส์ที่ไม่ค่อยพอใจก็ได้ตะโกนบอกว่า อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา ฟังนะทุกคน พวกนายต้องอดทน ลุกขึ้นมากับฉันเดี๋ยวนี้! พอตะโกนเสร็จเขาก็จะเดินออกจากโรงหมอแต่ไปชนเข้ากับแคสตี้ เลยตะคอกใส่ว่าให้หลีกทางไป ไม่ต้องมากวนจนกว่าเธอจะจับดาบเป็น แล้วก็เดินออกไป แคสตี้ที่ตอนนี้เห็นทหารแสดงอาการทรมานอยู่ ก็เลยตัดสินใจที่จะช่วยเหมาทำการรักษาทหาร

แคสตี้ได้เข้ามาแนะนำตัวกับเหมาแล้วบอกว่าเธออยากจะขอเป็นผู้ช่วย เหมาก็ยินดีเพราะมีผู้บาดเจ็บเยอะเกินกว่าเธอจะรับมือคนเดียว ในระหว่างที่ทำการรักษาอยู่นั้นเหมาก็ทักว่า พวกเราเคยเจอกันมาหรือเปล่า เพราะเธอดูหน้าคุ้นๆ แคสตี้เลยบอกว่าตอนนี้เธอความจำเสื่อม กำลังอยู่ในช่วงรื้อฟื้นมันอยู่เลย เหมาเลยบอกว่าเธอยินดีที่จะช่วย ให้แคสตี้ลองถามอะไรมาก็ได้เผื่อจะช่วยได้ ทีนี้ให้เรากด Inquire ใส่เหมา แล้วจะเกิดภาพแปลกๆ จากนั้นแคสตี้ก็ดูเหมือนจะนึกความทรงจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ในอดีตขณะที่เหมาทำการรักษาทหารอยู่ ก็มีกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์ได้เดินทางมาถึงที่นี่ พร้อมรีบช่วยเหมาทำการรักษาเหล่าทหาร ซึ่งภายในกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์นั้นก็มีแคสตี้และมาลายาอยู่ด้วยเช่นกัน โดยแคสตี้นั้นมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มอีกด้วย

ที่แท้แคสตี้ก็คือหัวหน้ากลุ่มนักปรุงยานี่เอง!

กลับมาที่ปัจจุบันแคสตี้ที่เหมือนนึกออกแล้วว่าเธอคือหัวหน้ากลุ่มนักปรุงยาของเอียร์ เหมาก็พยักหน้าบอกว่าใช่แล้วเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นการต่อสู้ระหว่าง 2 เมืองพึ่งเริ่มขึ้น พวกแคสตี้ก็ได้มาที่นี่พอดี และช่วยรักษาบาดแผลให้กับเหล่าทหาร แคสตี้ก็คิดในใจว่าชื่อของกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์เป็นเหมือนคำสาปในเมือง Canalbrine แต่ที่นี่กลับเป็นกลุ่มผู้ช่วยชีวิต ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้นะ ไม่ทันได้คิดเสร็จก็มีชาวเมืองวิ่งมาแจ้งข่าว มีผู้บาดเจ็บอยู่แนวหน้าเพิ่มมากขึ้น แคสตี้จึงได้ตัดสินใจที่จะไปช่วยรักษาพวกแนวหน้าในสนามรบ ทีนี้ให้เราวิ่งออกไปทางซ้ายเข้าแผนที่ Sandflow Pass

เมื่อเธอมาถึงแนวหน้าก็ได้พบกับเอ็ดมันส์ แคสตี้จึงถามหาผู้บาดเจ็บแต่เอ็ดมันส์กลับบอกว่าทางฝั่งนี้น่ะไม่มีผู้บาดเจ็บหรอก แต่เป็นทางฝั่งศัตรูต่างหาก เพราะพวกเขาโดนทรายดูดไป แคสตี้ที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็จะออกไปช่วยเหล่าศัตรูที่บาดเจ็บอยู่ในแนวหน้า หลังจากเธอเดินออกไป เอ็ดมันส์ก็บอกว่าฉันจะไม่ปล่อยเธอไปรักษาพวกศัตรูหรอกนะ แล้วก็ออกวิ่งตามหลังแคสตี้ไป ทีนี้ให้เราวิ่งฝ่ากลางสนามรบไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอกลุ่มทหารที่บาดเจ็บ และเอ็ดมันส์ก็ตามไล่หลังเรามาพอดี แคสตี้ที่เห็นทหารพวกนั้นเธอก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปดูอาการ แค่นั้นไม่พอเธอยังชี้นิ้วสั่งให้เอ็ดมันส์ไปหาฟืนและน้ำมาหน่อย แต่เอ็ดมันส์กลับปฏิเสธเขาไม่ยอมช่วยพวกศัตรูหรอกนะ แคสตี้เลยดุใส่ว่าให้หยุดพูดพล่อยๆ แล้วไปเอามาเดี๋ยวนี้ เอ็ดมันส์ที่ดูแข็งนอกแต่กลับอ่อนใน ยอมช่วยแคสตี้ไปหาฟืนและน้ำมาซะอย่างงั้น

เอ็ดมันส์ที่ดูท่าทางแข็งขืน แต่กลับยอมเป็นลูกมือแคสตี้ช่วยศัตรู?

เมื่อเธอจัดการรักษาเหล่าทหารเสร็จแล้วก็ได้ขอบคุณเอ็ดมันส์สำหรับความช่วยเหลือ ทหารพวกนี้เป็นหนี้ชีวิตนายแล้วล่ะ เอ็ดมันส์ก็เลยเล่าความหลังให้ฟัง
ฉันก็เคยเป็นแบบพวกนั้นมาก่อน เคยเป็นทหารฝ่ายตรงข้าม ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจากเงินประจำวัน วันหนึ่ง มีคนต่างถิ่นกลุ่มหนึ่งพยายามเข้ามาในอาณาจักรของเรา มีเด็กจำนวนมาก แต่เราก็ไล่พวกเขาออกไป ตามคำสั่งของพระราชา ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ทำตามคำสั่ง แต่สุดท้ายเริ่มคิดว่า สิ่งที่ฉันทำมันคุ้มค่ากับการกลั่นแกล้งคนบริสุทธิ์หรือ? ฉันต้องการปกป้องเงินของตัวเองขนาดนั้นเลยหรือ? สรุปคือ ฉันหงุดหงิดกับเรื่องทั้งหมดนี้มาก จึงเปลี่ยนข้าง เธอรู้ว่าไหม อันที่จริงแล้วเธอพูดถูก มันต้องใช้ความกล้าหาญมาก ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของคนอื่น เพียงเพื่อช่วยรักษาผู้คน การเห็นเธอทำแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ที่ออกไปต่อสู้ตั้งแต่ทีแรก แคสตี้เลยบอกว่าที่เธอทำก็แค่รักษาคนเจ็บ ในระหว่างนั้นเองทหารที่ถูกรักษาคนหนึ่งก็ตื่นขึ้นมา เขาก็ดีใจที่ตัวเองยังไม่ตาย พร้อมแนะนำตัวเองว่าชื่อกริฟ เป็นคนสั่งการพวกทหารกลุ่มนี้เอง ในขณะที่กำลังเดินทัพเข้าต่อสู้กลับถูกโจมตีจากมอนสเตอร์ และมีหลุมทรายดูดดึงพวกเขาลงไป เอ็ดมันที่ได้ยินก็คิดว่านั่นเป็นฝีมือของ สิงโตทะเลทราย ปกติแล้วพวกมันค่อนข้างเชื่อง แต่ถ้ามันบ้าคลั่งขึ้นมาก็ทำได้แค่วิ่งหนีขึ้นที่สูง รอให้พวกมันใจเย็นลงไปเองเท่านั้น กริฟที่ได้ยินแบบนั้นก็บอกว่า ยังมีทหารหลายคนที่อยู่ในค่าย พวกเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องออกไปเตือนพวกทหาร เอ็ดมันส์คัดค้านบอกว่านายบาดเจ็บอยู่เดี๋ยวเขาไปเองและเขาก็เรียกให้แคสตี้ไปช่วยด้วยเพราะอาจเจอทหารบาดเจ็บกลุ่มอื่นอีกจะได้รักษา

ให้เราเดินตามทางไปเช่นเดิมจนกระทั่งถึงจุดตั้งค่าย ก็พบว่าสายเกินไปแล้วเพราะว่าค่ายอยู่ในสภาพที่เละเทะมาก แต่ก็มีเสียงทหารคนหนึ่งขอความช่วยเหลือ ทั้ง 2 จึงรีบวิ่งไป แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดเอ็ดมันส์โดยทรายดูดจมลงไป ทีนี้ให้เราวิ่งเข้าในถ้ำจนสุดทาง ก็จะพบกับเอ็ดมันส์และเหล่าทหารที่โดนทรายดูดตกลงมารวมกันอยู่ที่นี่ แคสตี้ถามอาการของเอ็ดมันส์ ซึ่งเขาก็บอกว่าแค่บอกเจ็บนิดหน่อย แคสตี้เลยบอกให้เอ็ดมันส์ช่วยนำตัวพวกทหารที่เหลือออกไปยังที่ปลอดภัยที ส่วนเธอจะเข้าไปจัดการกับสิงโตทะเลทรายนี่เอง เอ็ดมันส์เลยบอกเธออยากตายหรอไง ให้เขาเรียกกำลังเสริมมาก่อนดีกว่า แต่แคสตี้ก็บอกว่าไม่มีเวลาแล้ว หากมันถล่มมาอีกครั้งพวกทหารที่เหลือได้ฝังศพอยู่ที่นี่แหละ อีกอย่างหนึ่ง นักปรุงยาก็ได้รับการฝึกฝนในการต่อสู้ เธอพอจะดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วง ทีนี้ให้เดินเข้าไปอีกเล็กน้อยก็จะเจอกับสิงโตทะเลทรายและได้ต่อสู้กับมัน

เมื่อไล่มันไปได้แล้ว พื้นใต้ดินก็หยุดสั่น ทรายก็ดูมั่นคงดีแล้ว ตอนนี้ก็ต้องเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อน จากนั้นค่อยไปจัดการเรื่องของสงคราม ตัดฉากที่มาที่โรงหมอ ขณะนี้มีทหารของฝ่ายศัตรูเข้ารับการรักษาอยู่เป็นจำนวนมาก ทางด้านกริฟได้โอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจกับเอ็ดมันส์ โดยทางกริฟจะยื่นเรื่องไปที่ราชาของเขาให้เปิดรับคนต่างถิ่น จะได้จบเรื่องไม่มีสงครามระหว่าง 2 เมืองเกิดขึ้นมาอีก จากนั้นกริฟก็ได้มาคุยกับแคสตี้ เขาบอกว่าหนี้ชีวิตนี้เขาจะไม่มีวันลืมเลย แล้วเขาก็ถามว่าแคสคือกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์ใช่มั้ย แคสตี้ก็ตอบตามตรงว่าใช่ กริฟเลยเล่าต่อว่า ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเป็นแก๊งคนชั่วที่ฆ่าคนป่วยภายใต้การดูแลของพวกเขา แต่เธอช่วยชีวิตฉันและทหารของฉัน ในนามของพวกเราทุกคน ฉันขอขอบคุณเธอ ฉันได้ยินมาว่าเธอลืมความทรงจำของเธอไป มีข่าวลือมาถึงหูฉันเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งอาจทำให้คุณสนใจ มันเกี่ยวกับกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์

ให้เรากด Inquire ที่กริฟจะได้ข้อมูลมาว่า หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่กลุ่มนักปรุงยาของเอียร์เคยไปเยี่ยม ชาวเมือง ทรุดตัวและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง พวกคนที่เอาตัวรอดหลบหนีออกมาจากหมู่บ้านได้สำเร็จ เล่าให้ฟังว่าพวกเขาเห็น ฝนสีม่วง ตกลงจากเมฆประหลาดที่อยู่เหนือหมู่บ้าน

คำว่า ฝนสีม่วงทำให้เธอเห็นภาพบางอย่าง หมู่บ้านร้าง ฝนตกเป็นสีม่วง จากนั้นก็เป็นเนินเขาแห่งหนึ่ง มีชายชุดดำที่ก่อเปลวไฟ สร้างควันสีม่วงขึ้นมา กำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์
???: ตาย พวกมันทั้งหมดตายแล้ว ตาย ตาย ตาย ตาย ฝนโหมกระหน่ำ จงตกต่อไป
แคสตี้: นายรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่
???: รู้สิหัวหน้า ฉันกำลังทำตามหลักการไปสู่จุดสิ้นสุดตามเหตุและผล “ยื่นมือเข้าช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการ” ไม่ใช่แบบนั้นหรอ ฮี่ฮี่ ฮ่าฮ่า ฝนนี่จะนำพาสู่การหลุดพ้น

กลับมาที่ปัจจุบันแคสตี้พยายามนึกเกี่ยวกับฝนและชายชุดดำ เธอรู้สึกว่ามันต้องเกิดเรื่องน่ากลัวขึ้นที่นั่น โศกนาฏกรรมอันเลวร้ายบางอย่าง เธอจะต้องนึกมันให้ออก
ในเมืองของผู้อพยพ
แคสตี้ได้พบกับใครบางคนที่รู้เรื่องราวในอดีตของเธอ
มีข่าวลืออันมืดมนเกี่ยวกับกลุ่มนักปรุงยาของเอียร์แพร่สะพัด 
และคาสตี้ถูกหลอกหลอนด้วยภาพที่น่าสะเทือนใจ ซึ่งขุดขึ้นมาจากส่วนลึกภายในความทรงจำของเธอ สิ่งที่แฝงอยู่ในหมอกแห่งอดีตของเธอมันคืออะไรกันแน่?
แคสตี้ต้องออกเดินทางเพื่อค้นหามันต่อไป

Castti – Chapter 2 End

ต่อไปเราจะไปกันที่หมู่บ้าน Cropdale เพื่อเนื้อเรื่องร่วมกันระหว่าง แคสตี้และโอชุตต์

The Apothecary & Hunter, Part 1

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.