แอ็กเนียในที่สุดก็เดินทางมาถึง Sai เมืองที่ครั้งหนึ่งแม่ของเธอได้เคยมาแสดงโชว์ จากข่าวที่ได้มาจากจิเซลล์ชาวเมืองที่นี่น่าจะพอรู้เรื่องแม่ของเธออยู่บ้าง ก็เลยลองถามชาวเมืองว่ารู้จักนักเต้นรำเมื่อ 20 ปีก่อนมั้ย ชาวเมืองที่ถูกถามก็บอกว่าที่นี่มันเปลี่ยนไปเยอะมาก น่าจะต้องไปลองถามคนที่อยู่ในส่วนเมืองเก่าจะดีกว่า แอ็กเนียก็เลยไปที่เมืองเก่าแล้วได้พบกับรูปปั้นที่เหมือนกำลังเต้นท่า มูนสเตป หรือมันอาจจะเป็น… ตอนนั้นเองก็มีเด็กหญิงเดินขึ้นมา
???: หลีกทางไป ยัยแก่
แอ็กเนีย: ก..แก่งั้นหรอ?
เด็กสาวเดินเข้าไปที่รูปปั้น
???: เอานี่ เอานั้น แล้วก็เอานี่ไปด้วย
ปรากฏว่าเธอเอาสีขีดเขียนที่รูปปั้น ทำให้แอ็กเนียที่เห็นถึงกับตกใจทำหน้าไม่ถูก
แอ็กเนีย: อ๋า
???: แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว
ชาวเมือง: ไลลา นั่นเธอทำอะไร? พวกเราทนกับความซนของเธอมามากเกินพอแล้วนะ และนี่มันยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะเธอทำให้รูปปั้นของแม่เสียหาย
ไลลา: ฉันคิดว่าแบบนี้ทำให้ดูดีกว่าเดิมเสียอีก
ชาวเมือง: รูปปั้นนี้มันคือสัญลักษณ์แห่งความหวังของพวกเรานะ
ไลลา: เหมือนว่ามันจะสำคัญกับเมืองนี้มากเลยสินะ พวกเราไม่มีเงิน ไม่มีอาหารดีๆ ไม่มีอะไรเลย มันไม่มีความหวังสำหรับพวกเราที่นี่หรอก
ชาวเมือง: ไอเด็กบ้า
แอ็กเนีย: (ความเศร้าโศกนี้ไม่เหมาะกับเมืองทะเลทรายเลยแม้แต่น้อย) แต่ฉันรู้วิธีที่จะทำให้สถานที่นี้สดใสขึ้น
ชาวเมือง: นั่นเธอจะทำอะไร
แอ็กเนียเธอกำลังเต้นอยู่นั่นเอง
ไลลา: ….
ชาวเมือง: ฉันไม่รู้ว่าเธอทำอะไร แต่คิดว่าเธอน่าจะไปได้แล้ว แล้วก็ทำความสะอาดรูปปั้นด้วยไลลา!
แอ็กเนีย: อะไรเนี่ย
ไลลา: เมื่อกี้เธอทำอะไรหรอ เธอหมุนตัวไปรอบจนฉันเวียนหัว
แอ็กเนีย: มันคือการเต้นรำ เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมันหรอ
ไลลา: เต้นหรอ?
จากนั้นก็มีเสียงตะโกนเรียกไลลาดังขึ้นมา
ไลลา: บ้าเอ้ย! ปู่เจอฉันแล้ว
ไลลาก็รีบวิ่งหนีไป ส่วนแอ็กเนียพอเดินลงจากรูปปั้น ก็ได้เจอกับชายหญิงชราคู่หนึ่ง
แพลท: ไอเด็กนั่นวิ่งเร็วดีจริง
ภรรยาแพลท: เดี๋ยวเธอก็กลับบ้านมาเองตอนหิว ที่สำคัญกว่านั้น นั่นเป็นการเต้นรำที่งดงามมากเลยสาวน้อย
แอ็กเนีย: ขอบคุณค่ะ แต่ดูเหมือนว่าชาวเมืองคนอื่นจะไม่คิดแบบนั้นน่ะสิ
ภรรยาแพลท: ไร้สาระน่า ยังไงเธอก็ดูดี
แพลท: เธอดูน่าจะเหนื่อยจากการเดินทางนะ มาพักที่บ้านของเราก่อนสิ คุณ…
แอ็กเนีย: เรียกหนูว่าแอ็กเนียเถอะค่ะ แต่มันจะดีหรอคะ
ภรรยาแพลท: ยินดีต้อนรับเลยจ๊ะแอ็กเนีย อันที่จริงพวกเราต่างหากที่อยากให้เธอมา เพราะรู้สึกดูคุ้นเคยกับเธอมาก

เมื่อถึงบ้านของแพลทและภรรยา ปรากฏว่าที่นี่มีเด็กทั้งชายหญิงอยู่อีกหลายคน ภรรยาของแพลทก็เลยเล่าให้ฟังว่า พวกนี้คือเด็กจากทั่วทั้งเมือง พวกเขาแค่คอยดูแลแทนเฉยๆ น่ะ บางครอบครัวก็ไม่มีเวลามาดูแล ที่นี่ไม่ค่อยมีงานอะไรให้ทำหรอก ครอบครัวพวกเขาก็เลยต้องออกไปหางานทำ ตอนนั้นเองที่เด็กๆ ได้เห็นแอ็กเนียก็ทักว่านี่คือเพื่อนใหม่หรอ แอ็กเนียก็เลยวิ่งเข้าไปเล่นกับพวกเธอ ตอนนั้นเองที่ภรรยาของแพลทได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อ 20 ปีก่อนก็มีนักเต้นรำมาที่นี่ เธอเป็นคนที่ใจดีมากชื่อว่าควานี่ แอ็กเนียก็รีบบอกทันทีว่านั่นคือแม่ของเธอเอง ภรรยาแพลทก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยจัง เธอช่างเหมือนแม่ของเธอมาก แอ็กเนียก็ดีใจมากที่ภรรยาแพลทจำแม่ของเธอได้ แพลทเลยเล่าต่อว่า ตอนนั้นควานี่ก็เป็นเพียงนักเดินทางที่ผ่านเข้ามา แต่ก็ได้ช่วยบริจาคเงินให้กับหมู่บ้าน แถมยังคอยดูแลพวกเขาเหมือนว่าตัวเธอเองเป็นแม่แท้ๆ เลยล่ะ ชาวบ้านก็เลยช่วยกันสร้างรูปปั้นของเธอขึ้นมา เพื่อทำให้ไม่ลืมความหวังที่เธอมอบให้แก่พวกเรา ภรรยาแพลทก็เล่าอีกว่าตอนนั้นเธอได้เจอกับเด็กหญิงกำพร้าตัวน้อยและเธอได้สอนการเต้นรำให้กับเด็กคนนั้น เด็กน้อยก็เต้นไม่มีหยุด จนกระทั่งตอนนี้เธอมีชื่อเสียง แอ็กเนียเลยถามว่านักเต้นรำชื่อดังอย่างงั้นหรอ ตอนนั้นเองก็มีบอดี้การ์ดเดินเข้ามาพร้อมพูดว่า ฉันบอกพวกคุณแล้วนะว่าให้ออกไป แพลทบอกว่า เธอมาที่นี่อีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะมากี่ครั้งก็ตาม คำตอบของพวกเราจะไม่เปลี่ยน เมืองนี้คือสิ่งเดียวที่เราเหลืออยู่ ภรรยาแพลทก็อ้อนวอนว่านี่มันบ้านของพวกเธอ ขอร้องให้เธอเปลี่ยนใจหน่อย บอดี้การ์ดคนนั้นก็ส่ายหัว พวกเราได้เสียเงินไปเยอะมากเพื่อที่ดินผืนนี้ พวกคุณกลายเป็นผู้บุกรุกพื้นที่ไปแล้ว เจ้านายของฉันมีน้ำใจพอที่จะให้เวลาพวกคุณออกไป แต่ไม่อีกต่อไปแล้ว ฉันจะบังคับพวกคุณให้ออกไปถ้าจำเป็น ตอนนั้นเองที่ไลลาวิ่งเข้ามาแล้วปกป้องปู่แพลท เธอบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องครอบครัวของเธอ บอดี้การ์ดเลยบอกว่าครั้งหน้าที่มาที่นี่ มันจะไม่มีการปราณีอีกต่อไป ขอเตือนไว้ พอเสร็จเรื่องบอดี้การ์ดได้จากไป ทางด้านไลลาก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่า มันไม่มีความหวังสำหรับพวกเราที่นี่หรอก แล้วเธอก็วิ่งหนีออกไปอีกครั้ง ทางด้านแพลทและภรรยารีบตามออกไปแต่ไม่ทัน

ที่หน้าบ้านแพลทเล่าให้เราฟังว่า ไลลานั้นเป็นเด็กกำพร้า เธอถูกทิ้งตั้งแต่ตัวยังเล็ก พวกเขาก็เลยตัดสินใจรับเลี้ยงเธอ แต่หัวใจของเธอก็ปิดลงตั้งแต่ตอนนั้น และสิ่งที่เธอทำก็คือสร้างความวุ่นวายในเมือง ภรรยาแพลทกล่าวเสริม ไลลามักจะพูดว่า มันไม่มีความหวังสำหรับที่นี่หรอก พวกเธอก็ได้แต่หวังว่าจะมีวิธีทำให้เธอมีความสุขได้ แอ็กเนียก็เลยตัดสินใจว่าต้องทำอะไรบางอย่างเลยออกตามหาไลลา

ไลลาที่วิ่งหนีจากบ้านตอนนี้เธอก็ได้มายืนอยู่หน้ารูปปั้น เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี อีกไม่นานเมืองนี้ก็จะเหลือเพียงแค่ความทรงจำแล้ว และส่วนที่แย่อีกอย่างหนึ่งก็คือ เมืองนี้ไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ทำเลย พอเธอนึกถึงความสนุกกลับเห็นภาพตอนที่แอ็กเนียเต้นอยู่หน้ารูปปั้นให้เธอดู เธอก็เลยลองเต้นพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย แอ็กเนียเข้ามาเห็นพอดีเลยทำให้ไลลาตกใจและอาย จึงกล่าวต่อว่าว่ามองหาอะไร โง่จริง แต่แอ็กเนียที่ถูกต่อว่าแรง กลับไม่โกรธแต่หัวเราะแทนและบอกว่า ฉันแค่ชื่นชมการเต้นของเธอ ฉันดีใจที่เห็นว่าเธอมีใจรักการเต้นรำ ไลลาบอกว่าเธอไม่ได้ชอบมันซะหน่อย แอ็กเนียอาสาว่าเธอสามารถสอนเต้นให้ไลลาได้นะ และบอกว่ารองเท้าของไลลาตอนนี้มันพังหมดแล้ว เธอไม่สามารถเต้นได้ขณะที่สวมรองเท้าแบบนั้น เธอเลยจะไปหารองเท้าใหม่มาให้ไลลาเอง ไลลาเลยบอกว่า เฮ้ ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเกี่ยวกับเรื่องเต้นเลยนะ แอ็กเนียตอบกลับว่าอย่าไปกังวลเรื่องพวกนั้นเลย แค่รอเธออยู่ที่นี่โอเคมั้ย? แล้วแอ็กเนียก็วิ่งออกไปโดยที่ไม่รอคำตอบ

ทีนี้ให้เรากลับไปที่ Sai (ด้านซ้ายของแผนที่) แล้ววิ่งไปที่ร้านขายอุปกรณ์สวมใส่ จะเจอกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าร้านให้ปรับเป็นเวลากลางคืนแล้วกด Entreat ใส่ เราจะได้รับ Cute Shoes มา ทีนี้ก็ให้เรากลับไปหาไลลาที่เดิม คุยกับเธอเพื่อมอบรองเท้าน่ารักให้ รองเท้าที่เราหามาไลลาใส่มันได้พอดี ทีนี้แอ็กเนียก็เริ่มสอนเธอเต้นรำ โดยให้เธอพยายามเต้นตาม แต่ว่าครั้งแรกที่ได้ลองไลลากลับล้มลงเธอเลยลุกขึ้นมาต่อว่าแอ็กเนียว่า เธอจะบ้าหรือเปล่า ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นได้แน่ แอ็กเนียก็อธิบายว่านี่มันคือ มูนสเตป มันเป็นการเต้นระดับสูงแต่…ฉันรู้ว่าเธอทำได้ไลลา แต่ไลลากลับเข้าใจผิด เธอคิดว่าแอ็กเนียแค่เพียงต้องการหัวเราะเยาะเธอเท่านั้นเอง แอ็กเนียก็บอกว่าไม่ใช่แบบนั้น ตั้งแต่ที่เห็นเธอเต้นครั้งแรก ฉันก็รู้แล้วว่าเธอมีแววที่จะเป็นนักเต้นรำได้ เพียงแต่ในช่วงเริ่มต้น ไม่ต้องกังวลว่าจะทำได้ไม่ดีแค่ต้องรู้สึกสนุกไปมัน นั่นแแหละคือสิ่งสำคัญที่สุด เอาล่ะมาลองอีกครั้งกันเถอะ หลังจากนั้นแอ็กเนียก็ได้สอนไลลาให้เต้นตามทีละสเตป หลังจากนั้นสักพักไลลาก็เริ่มเต้นเป็นแล้ว แอ็กเนียก็ชมว่าเต้นได้เยี่ยมมาก ไลลาบอกว่านี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีใครชมเธอถึงขนาดนี้ แอ็กเนียกลับพูดว่าขอบคุณนะไลลา ทำให้ไลลาสงสัยว่ามาขอบคุณเธอทำไม แอ็กเนียบอกว่าที่ขอบคุณก็เพราะเธอเห็นไลลามีความสุข ไลลาเลยว่าอย่าพูดไร้สาระ เธอจะมีความสุขกว่านี้ไหมถ้าฉันทำท่ามูนสเตปได้ เวลาที่ฉันเห็นเธอเต้น สิ่งร้ายๆ ภายในหัวของฉันก็หายไปและหัวใจก็รู้สึกอบอุ่น มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ แอ็กเนียที่เห็นไลลาเป็นแบบนั้นก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วยเช่นกัน และเดินเข้าไปชวนเธอเริ่มเต้นกันอีกครั้ง

ในระหว่างนี้ภรรยาแพลทก็แอบมามองดูพวกเธออยู่ห่างๆ ทำให้เธอคิดย้อนไปถึงอดีตเมื่อ 20 ปีก่อน ที่เธอได้เห็นควานี่สอนโดลซิเนียเต้นรำท่ามูนสเตป จากนั้นเธอก็เลยตัดสินใจปรากฏตัวแล้วเอ่ยปากชมไลลาว่าเธอเต้นได้งดงามมาก ทำให้นึกถึงโดลซิเนียเลย แอ็กเนียเลยถามว่าเด็กกำพร้าที่แม่เคยสอนเต้นคือโดลซิเนียอย่างงั้นหรอ ภรรยาแพลทบอกว่าใช่แล้ว เด็กคนนั้นชื่อว่าโดลซิเนีย เธอเคยมาฝึกเต้นตรงนี้ตลอดทั้งคืนกับแม่ของเธอด้วยนะ จากนั้นเธอก็เดินไปที่หน้าไลลาแล้วพูดว่า เธอดีใจที่ในที่สุดไลลาก็เจอครูที่ดี โดลซิเนียเคยบอกว่าเธอจะไปเป็นดาราและตอนนี้เธอก็ทำมันได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่นี่จะพอใจกับเรื่องนั้น ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อพูดถึงชาวเมือง เด็กสาวคนนั้น… ขณะนั้นเองมีชาวเมืองคนหนึ่ง วิ่งขึ้นมาแจ้งข่าวบอกว่าให้รีบตามมาเร็ว เพราะเมืองกำลังเกิดปัญหาขึ้นแล้ว โดยไม่รอช้าทั้ง 3 คนก็รีบวิ่งไปทันที

เมื่อมาถึงกลางเมืองก็พบว่าบอดี้การ์ดคนเดิมได้ยกพวกเข้ามาเตรียมตัวก่อกวน เธอบอกว่า ฉันเคยบอกแล้วนะว่าคราวหน้าจะไม่มีความปราณี เมื่อพูดจบคนที่พวกเธอพามาก็ตั้งท่าเตรียมลงมือ ชาวเมืองที่ไม่พอใจก็บอกว่าหยุดบ้าได้แล้ว นี่มันเมืองของพวกเรา แต่ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาแทน ปรากฏว่าเสียงหัวเราะนั้นมาจากโดลซิเนีย
โดลซิเนีย: สวัสดีพวกผู้อาศัยในสลัมที่น่าสงสาร ให้ฉันปลดปล่อยพวกคุณจากความสกปรกเถอะ
ชาวเมือง: ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นดาว, ดวงจันทร์ หรือว่าท้องฟ้า เธอต้องกลับลงมาบนพื้นโลกได้แล้วและจำให้ได้เถอะว่าตัวเองมาจากที่ไหน
โดลซิเนีย: น่าเสียดายนะ ความจำของฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จัดการต่อไปได้แล้ว เวโรนิก้า ฉันจะคอยดูโชว์นี้จากบนเนินเขา
เวโรนิก้า: รับทราบ
หลังจากสั่งงานเสร็จโดลซิเนียและเวโรนิก้าบอดี้การ์ดของเธอก็ได้เดินขึ้นเขาไป
แอ็กเนีย: นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่สิ ค่อยมากังวลเรื่องเหตุผลหลังจากจบเรื่องนี้แล้วจะดีกว่า
ไลลา: ให้ฉันช่วยเถอะ ฉันจะสั่งสอนไอพวกอันตพาลนี่เอง
แอ็กเนีย: ฉันบอกได้เลยว่าเธอเอาใจใส่ทุกคนที่นี่จริงๆ นะไลลา แต่ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของฉันเอง เธอต้องคอยปกป้องพวกเด็กๆ ให้ปลอดภัย ได้ยินมั้ย?
ไลลา: แอ็กเนีย…โอเค ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง โชดดีนะ

ตอนนี้ให้เราวิ่งไปที่บันไดเพื่อขึ้นไปบนเนินเขาจนกระทั่งได้เจอพวกโดลซิเนีย
โดลซิเนีย: อ้าว อ้าว นี่มันหนูน้อยนักเต้นที่เจอกันก่อนหน้านี้นี่นา เธอมาที่นี่เพื่อขอลายเซ็นงั้นหรอ เธอคงเป็นแฟนตัวยงเลยสินะถึงมาได้ไกลขนาดนี้เพื่อเจอกับฉัน
แอ็กเนีย: ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอลายเซ็น มันห่างไกลจากความเป็นจริงมากเลยล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อหยุดเธอจากการพยายามทำลายเมืองนี้ต่างหาก
โดลซิเนีย: โชคร้ายหน่อยนะ ฉันมีแผนการใหญ่สำหรับที่นี่แล้ว ที่นี่มันจะกลายเป็น โดลซิเนียแลนด์
แอ็กเนีย: ด โดลซิเนียแลนด์?
โดลซิเนีย: มันฟังดูดีทีเดียวใช่ไหมล่ะ? มันจะเป็นสวรรค์อันสุกใสที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ซูเปอร์สตาร์ที่เก่งที่สุดของอาณาจักร ฉันกำลังมอบสิ่งที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถภูมิใจได้ พวกเขาควรจะขอบคุณฉันนะ
แอ็กเนีย: แต่นี่มันบ้านเกิดเธอไม่ใช่หรอ
โดลซิเนีย: ….มุขตลกของเธอทำให้ฉันเบื่อนะสาวน้อย
แอ็กเนีย: โดลซิเนีย
โดลซิเนีย: ที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน ความทรงจำแรกสุดของฉันคือทราย…ทุกที่ที่ฉันมองไป ฉันจำไม่ได้แม้กระทั่งใบหน้าครอบครัวของตัวเอง ฉันถูกทิ้งอยู่ที่นั่น ชีวิตช่างน่าสังเวช แต่งตัวด้วยผ้าขาดรุ่ยเต็มไปด้วยเหา คุ้ยขยะเพื่อหาอาหาร แต่แล้วในวันหนึ่งโอกาสก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า แสงอันสุกสว่างสาดส่องลงมายังเมืองอันมืดมนและสิ้นหวังแห่งนี้ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่รูปร่างอันสวยงามของเธอขณะที่เธอร่ายรำ เธอเป็นดั่งดวงดารา นั่นคือตอนที่ฉันตัดสินใจที่จะพิสูจน์ตัวเองให้โลกรู้ หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ฉันกลายเป็นนักเต้นและพบว่าตัวเองอยู่หน้าเวทีอันยิ่งใหญ่ในระหว่างการเดินทาง ฉันอยากเต้นรำบนเวทีนั้น ฉันจึงฝึกฝนหนักยิ่งกว่าใครๆ จนกระทั่งฉันเฉิดฉายเหนือพวกเขาทั้งหมดและก้าวขึ้นบันไดอันสวยงามสู่ความสำเร็จ ตอนนี้คุณเห็นหรือยัง? ฉันเป็นเช่นนี้ โดยไร้ข้อกังขา ซุปเปอร์สตาร์ที่เก่งที่สุดของอาณาจักร ฉันฝึกฝนทุกวันในชีวิต เพื่อที่ความเปล่งประกายของฉันจะไม่มีวันตาย ดวงดาวที่งดงามและเปล่งประกายที่สุดในโลก จะมาจากสลัมที่น่าหดหู่ใจแห่งนี้ได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้เลย! นั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไม ฉันถึงบอกว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของฉัน
แอ็กเนีย: มันไม่สำคัญ มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอมาจากที่ไหน ดาราที่แท้จริงจะไม่ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด! ดาราที่แท้จริงคือ
โดลซิเนีย: พอแค่นั้นแหละ ตอนนี้เธอจะหลีกทางให้ฉันได้ไหม? พื้นที่บริเวณนี้ต้องถูกจัดการ และเมื่อมันหายไป ความทรงจำเกี่ยวกับมันทั้งหมดก็จะหายตามไปด้วย
แอ็กเนีย: ฉันจะไม่ออกไปไหนทั้งนั้น
โดลซิเนีย: คุณสาวน้อยหัวรั้น เธอควรจะรู้ว่าความดื้อรั้นแบบนี้จะทำให้เธอเจ็บตัว เวโรนิก้าไล่เธอไปซะ
แอ็กเนีย: ลองดูสิ แต่ฉันจะไม่ยอมให้เธอแตะต้องเมืองนี้เด็ดขาด!

เวโรนิก้า: อั่ก ฉันทำพลาด
โดลซิเนีย: เธอต้องการให้สาวน้อยเป็นจุดสนใจบ้างสินะ ฉันรู้นะเธอใจดีเกินไป เอาเถอะพักสักหน่อยก็ได้เวโรนิก้า
จากนั้นเธอก็หันมาพูดกับแอ็กเนีย
โดลซิเนีย: ฉันขอสารภาพว่า เธอแสดงได้ดีมาก มีอะไรบางอย่างที่ดูพิเศษนะแอ็กเนีย สิ่งที่หายากซึ่งไม่ใช่ว่านักเต้นทุกคนจะมี เธอดูมีประกายแวววาวอยู่ในตัว
แอ็กเนีย: โดลซิเนีย ดารามีไว้เพื่อ
โดลซิเนีย: เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน ใช่มั้ย? ช่างไร้สาระ ฉันเต้นรำเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้โลกรู้ เพื่อให้ผู้คนยอมรับ ฉันคิดถึงแต่ความสุขของตัวเองเท่านั้น เธอคือลูกสาวของควานี่ใช่มั้ยล่ะ ฉันคิดว่าเธอคงตามคำสอนของแม่เธออย่างเคร่งครัด
แอ็กเนีย: ใช่
โดลซิเนีย: ฮ่า ฮ่า เธอช่างโง่เสียจริง ฉันไม่ปฏิเสธว่าฉันสนใจในตัวเธออยู่เล็กน้อย
โดลซิเนียได้เดินไปมอบอะไรบางอย่างให้กับแอ็กเนีย
แอ็กเนีย: นี่มันบัตรเชิญงั้นหรอ “เทศกาลแห่งความสง่างาม”
โดลซิเนีย: ใช่ มันเป็นการแสดงหลักภายในงานแกรนด์กาล่าที่ยิ่งใหญ่ นักเต้นรำเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษขึ้นแสดงภายในงานครั้งนี้ เราจะตัดสินเรื่องนี้กันที่นั่น ฝูงชนจะตัดสินเองว่าพวกเราคนไหนคือดาราที่แท้จริง ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันตั้งตารอมันแล้ว จนกว่าจะถึงเวลานั้น ฉันจะฝากกองกระท่อมน้อยๆ นี้ไว้ในมือของเธอก่อน พวกเราไปกันเถอะเวโรนิก้า การแสดงในค่ำคืนนี้ได้นำเสนอโดยฉัน โดลซิเนีย ลูเซียล ฉันจะรอเธออยู่บนเวที อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

กลับมาที่กลางเมือง ชาวเมืองก็เข้ามาถามว่าโดลซิเนียไปแล้วสินะ พวกเราต้องขอบคุณเธอมาก แอ็กเนียก็ตอบกลับว่าฉันดีใจที่พวกคุณทุกคนปลอดภัย แต่มีชาวเมืองคนหนึ่งได้บอกว่ารูปปั้นมันถูกทำลายไปแล้ว ในระหว่างที่ทุกคนเศร้าเสียใจอยู่นั้นเอง ไลลาก็ได้วิ่งขึ้นไปยังเนินเขาที่มีรูปปั้นอยู่แล้วตะโกนบอกทุกคนว่า “ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมด? ไม่รู้สึกเบื่อกันบ้างหรอ ที่เอาแต่โศกเศร้าอยู่ตลอดเวลา? ถ้ากำลังมองหาความหวัง มันอยู่ที่นี่แล้ว ฉันจะเป็นความหวังใหม่ให้ทุกคนเอง” จากนั้นเธอก็เริ่มเต้นรำร่วมกับแอ็กเนีย ชาวเมืองทุกคนต่างก็พากันมาดู ช่วงขณะนั้นเองที่ไลลาได้เติมเต็มรอยยิ้ม เรียกเสียงเชียร์แห่งความสุขให้กับชาวเมืองทุกคนได้

เช้าวันถัดมาก็ถึงเวลาที่ต้องล่ำลากัน
ไลลา: เธอช่วยให้ฉันได้ค้นพบบางอย่างที่สำคัญมาก เธอก็ได้พบอะไรบางอย่างเหมือนกันใช่ไหม?
แอ็กเนีย: ใช่แล้ว ฉันได้พบ
ตรงนี้ตัวเกมจะมีให้เลือก 3 คำตอบ
“A mother’s love” (ความรักของแม่)
“The joy of dancing” (ความสนุกของการเต้นรำ)
“The power of determination” (พลังแห่งความมุ่งมั่น)
เลือกตอบได้ตามที่ต้องการไม่มีถูกผิด ไม่ส่งผลต่อเนื้อเรื่อง
เมื่อเลือกคำตอบแล้วทั้ง 2 ก็จะได้กล่าวล่ำลากันจนสุดท้าย ไลลาก็วิ่งขึ้นไปเต้นรำเพื่อเป็นการล่ำลาให้แก่แอ็กเนีย
ในเมือง Sai
แอ็กเนียค้นพบความทรงจำที่แม่ของเธอทิ้งไว้
ซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งรู้สึกสิ้นหวังกับอดีตของเธอ
ในขณะที่เด็กสาวคนหนึ่งมีความหวังสำหรับอนาคต
นักเต้นรำเดินทางเก็บเรื่องราวของพวกเขาไว้ใกล้ชิดในหัวใจ
ในขณะที่เธอเดินทางไปยังงานแกรนด์กาล่า
Agnea – Chapter 4 End

ยังไม่ต้องไปไหนไกล ให้กลับไปที่บาร์เมือง Sai เราจะเดินเนื้อเรื่องในบทที่ 2 ของแคสตี้
 
				 
															 
								 
															



 
								