หนึ่งสิ่งมีชีวิต
ลงมายังทะเลสีฟ้า
คลื่นใหญ่เหมือนภูเขาโหมเข้ามาใกล้ฝั่ง 
และข่มขู่หมายจะกลืนกินทุกสิ่ง
สิ่งมีชีวิตตัวนั้นได้โจมตีด้วยความเศร้าโศก 
คลื่นแตกสลาย 
ความสงบสุขกลับคืนมา
สิ่งมีชีวิตในตำนานที่ปกป้องแผ่นดินนั้น
มีชื่อว่า
คาเทแลคต้า
โอชุตต์ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเมืองท่าเรือ Conning Creek เธอตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศและอาหารทะเล ในระหว่างที่เพลินเพลิดอยู่นั้นโอชุตต์และคู่หูก็ได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่าง เลยตัดสินใจที่จะไปตรวจสอบที่มาของเสียง จุดนี้ก็ให้เราเดินไปยังบริเวณชายหาดและเดินไปจนสุดทาง

บริเวณชายหาด โอชุตต์จะได้ยินเสียงร้องอีกครั้ง คราวนี้เธอแน่ใจแล้วว่าเสียงมันมาจากเกาะที่อยู่ใกล้กัน แต่ขณะนั้นเองมีหญิงสาวคนหนึ่งมาไล่ให้เราออกไป เธอมีชื่อว่าอัลฟิโอเน่ ผู้พิทักษ์แห่งคลื่น เธอสัมผัสได้ว่าโอชุตต์นั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เหมือนจะเป็นเผ่าสัตว์ แต่อย่างไรก็ตามเธอไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้เกาะแห่งนั้น สุดท้ายโอชุตต์ก็ต้องใช้กำลังให้กด Provoke ใส่เธอ

หลังจากโอชุตต์ทุบเธอจนสลบให้ขึ้นไปที่เกาะ ออกสำรวจเล็กน้อยก็จะเจอเข้ากับโครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเสียง เนื่องจากลมพัดผ่านโครงกระดูกจึงทำให้เกิดเสียงร้องที่ได้ยิน จากนั้นอัลฟิโอเน่ที่ฟื้นและไล่ตามมาก็ได้บอกว่า ในที่สุดก็ได้เจอคาเทแลคต้าแล้วสินะ เธอมาตอนนี้ก็ดูเหมือนจะสายไป ทั้ง เกล็ด หนวด กรงเล็บ ไม่มีเหลือแล้ว แต่โอชุตต์ก็บอกว่าเธอไม่ได้มาเพื่อสิ่งของพวกนั้น เธอมาจาก Toto’haha มาที่นี่เพื่อนำตัวคาเทแลคต้ากลับไป เพราะภัยพิบัติกำลังมาเยือน แต่ดูเหมือนว่าคาเทแลคต้าจะตายแล้วเลยต้องหาทางอื่นแทน อัลฟิโอเน่ก็บอกให้เรารอก่อน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คาเทแลคต้าเป็นเทพผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเลแห่งนี้ แม้ว่าจะผ่านมานานจนไม่มีใครในเมืองจำได้ก็ตาม เลยอยากให้เราตามเธอไปดูอะไรบางอย่างที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้ ให้เราเดินเข้าไปในถ้ำจนเมื่อสุดทางก็จะเจอกับอัลฟิโอเน่ที่รอเราอยู่

อัลฟิโอเน่: ในที่สุดเธอก็มาถึงแล้ว นั่งลงก่อนสิ
โอชุตต์เดินเข้าไป แต่ก่อนที่เธอจะนั่ง ได้กลิ่นหอมของอาหาร
อัลฟิโอเน่: หิวมั้ย กินนี่สิ มันคือปลาแองเค่อ
โอชุตต์ก็ไม่รอช้านั่งลงแล้วกินมันลงไปทันที
โอชุตต์: นี่มันอร่อยมากเลย
อัลฟิโอเน่: นั่นคือชีวิตสำหรับคุณ สิ่งมีชีวิตทุกชนิด กลืนกินชีวิตอื่นเพียงเพื่อมีชีวิตอยู่ แต่มนุษย์นั้นน่ารังเกียจ พวกมันฆ่าเพราะความละโมบโลภมาก
โอชุตต์: เธอหมายความว่าคาเทแลคต้าตาย เพราะถูกมนุษย์ฆ่าอย่างงั้นหรอ
อัลฟิโอเน่: ฉันยังจำมันได้ดี คาเทแลคต้าอยู่ในภาวะที่อ่อนแอหลังจากช่วยเมืองจากคลื่นใหญ่ แต่แล้วนักล่าแห่งความมืดได้ปรากฏตัว นักล่าเพียงแค่คนเดียวได้ฆ่าคาเทแลคต้า กลุ่มคนของฉันได้ออกมาปกป้องผู้พิทักษ์แต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ นักล่าได้เอาชีวิตของคาเทแลคต้าและจากไป ในไม่ช้าความโลภก็นำพาผู้อื่นมายังเทพผู้ล่วงลับ มนุษย์ต่างรุมซากศพราวกับแมลงวัน พวกเขาเอาทุกอย่างไปจนหมดจนเหลือแค่กระดูก
โอชุตต์: ทำไมพวกเขาทำแบบนั้นล่ะ?
อัลฟิโอเน่: เกล็ดและหนวดของคาเทแลคต้ามีค่ามากกว่าอัญมนีชั้นเลิศเสียอีก พวกเขาทำมันเพื่อเงิน
โอชุตต์: สำหรับฉันจะเลือกเนื้อนะ อัลฟิโอเน่ฉันขอปลาเพิ่มอีกตัวได้มั้ย
อัลฟิโอเน่: …เธอได้กินเพิ่มไปอยู่แล้วนิ
โอชุตต์: นายต้องลองกินอันนี้นะคู่หู
อัลฟิโอเน่: เฮ่อ เธอนี่ช่างแปลกคนเสียจริง ฉันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่ากำลังคุยกับสัตว์ตัวร้าย
โอชุตต์: ฮี่ฮี่ อันที่จริงพวกเราถูกเรียกว่าเผ่าสัตว์นะ
อัลฟิโอเน่: เผ่าสัตว์งั้นหรอ ใช่แล้วฉันเคยได้ยินมาก่อน มีเรื่องราวของอีกมุมหนึ่งในโลกที่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์และสัตว์อาศัยอยู่ มีเพียงแค่เรื่องเล่าเท่านั้น เธอคือคนแรกที่ฉันได้เห็นกับตา 
แล้วอัลฟิโอเน่ก็เดินเข้าไปลูบหัวของโอชุตต์อย่างแผ่วเบา
อัลฟิโอเน่: หืมมม ผิวสัมผัสไม่ธรรมดา
โอชุตต์: แฮะ แฮะ นั่นมันจั๊กจี้นะ ยังไงก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะสัตว์หรือมนุษย์นั่นไม่แตกต่างสำหรับฉัน แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับฉันตอนนี้ก็คือฉันขอกินมันเพิ่มอีกตัวได้มั้ย
อัลฟิโอเน่เลยทำได้แค่พยักหน้าเป็นการอนุญาติและส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ
อัลฟิโอเน่: บางทีฉันอาจจะไว้ใจเธอได้
โอชุตต์: หืม เชื่อใจฉันเพื่ออะไรหรอ
อัลฟิโอเน่: เดี๋ยวเธอก็จะได้เห็นเอง

ให้เราเดินเข้าไปสำรวจไข่ที่อยู่บริเวณตรงกลาง
โอชุตต์: นี่มันไข่งั้นหรอ
อัลฟิโอเน่: คาเทแลคต้าได้วางมันไว้ก่อนที่จะตายเป็นมรดกชิ้นสุดท้าย ฉันได้ดูแลมันเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสัญญาณว่ามันจะฟักตัวเลย มันคงรอคอยช่วงเวลานี้อยู่ โอชุตต์เธอช่วยให้ความอบอุ่นกับมันได้มั้ย คาเทแลคต้ารู้ตัวว่ากำลังจะตาย ก็เลยได้ให้กำเนิดลูกน้อยตัวนี้เพื่อทำหน้าที่แทน หน้าที่ในการช่วยหมู่บ้านของเธอ
โอชุตต์เมื่อได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าพร้อมเดินเข้าไปโอบกอดไข่อย่างนุ่มนวลและอบอุ่น ไข่ใบนั้นก็เกิดการส่ายไปมาและกำลังกะเทาะเปลือกเพื่อฟักตัวเองออกมา สุดท้ายมันก็ฟักตัวออกมาดูโลก เป็นสัตว์ที่มีลักษณ์คล้ายงูผสมมังกรตัวน้อย ร้องเสียงเล็กเมี้ยว เมี้ยว อย่างน่าเอ็นดู ทำให้ทั้งโอชุตต์และคู่หูรู้สึกว่ามันน่ารักเอามากๆ  อัลฟิโอเน่ก็เลยบอกให้เราพาตัวมันไปเพื่อใช้ต่อต้านภัยพิบัติที่พูดถึง แต่โอชุตต์ก็รู้สึกว่ามันน่ารักก็จริงแต่ดูไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่ อัลฟิโอเน่เลยบอกว่ามันคือลูกของคาเทแลคต้าเลยนะสักวันมันจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งแน่นอน คู่หูก็เชียร์ว่ามันจะต้องแข็งแกร่งแน่นอนพวกเราควรเลี้ยงมันไว้ โอชุตต์ก็เลยถามเจ้าตัวน้อยว่าจะมาด้วยกันมั้ย มันจะเป็นการผจญภัยที่อันตรายนะ ยังอยากมาด้วยกันอยู่หรอ สัตว์ตัวน้อยก็ร้องเมี้ยวเหมือนเป็นการตอบรับ โอชุตต์ก็ตัดสินใจที่รับเธอเข้าร่วม เมื่อกลับมายังหมู่บ้านอัลฟิโอเน่ก็ถามว่าตั้งชื่อให้มันหรือยัง โอชุตต์ก็บอกว่าตั้งใจให้มันมีชื่อว่า แอคต้า ฉันจะเลี้ยงให้มันเติบใหญ่และแข็งแกร่ง ขอบคุณที่คอยดูแลมันเสมอมานะอัลฟิโอเน่ อัลฟิโอเน่ก็บอกว่าในที่สุดฉันก็สามารถวางภาระของฉันลงได้แล้วและมีน้ำตาซึมออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจากไปเธอก็อวยพรของให้พวกเราโชคดีในการเดินทาง ส่วนทางโอชุตต์ก็บอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเธอจะกลับมาเยี่ยมหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว

โอชุตต์พบกับสิ่งมีชีวิตในตำนานที่ชื่อว่า คาเทแลคต้า 
หรืออย่างน้อยก็ลูกของเธอ 
น่าเสียดายที่ตัวคาเทแลคต้าเองไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป 
และลูกของเธอก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะทำภารกิจของบรรพบุรุษให้สำเร็จได้ 
แต่จิตใจของโอชุตต์ก็ยังมั่นคงเมื่อเธอเดินทางต่อไป 
อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี
Ochette – Chapter 2: Cateracta’s Route End

ตอนจบทั้งโอชุตต์และคู่หูตัดสินที่จะกลับไปยัง Toto’haha เพราะตอนนี้รวบรวมสัตว์ในตำนานทั้ง 3 ครบแล้ว ถึงแม้สัตว์ตัวสุดท้ายจะเล็กกว่าที่คาดหวังไว้แต่แรกก็เถอะ เพียงแต่ตอนนี้ให้เรากลับเข้าเมือง Conning Creek ก่อน เพื่อเข้าสู่เนื้อเรื่องบทที่ 3 ของออสวอลด์
 
				 
															 
								 
															



 
								