บทสรุป Throne – Chapter 1

ไม่เอาอีกแล้ว
ไม่เอากลิ่นนี้แล้ว
ทุกครั้งที่ฉันสูดกลิ่นนี้เข้าไป
มันรู้สึกเหมือนปอดของฉันกำลังเน่าเปื่อย
…กลิ่นของเลือด

ณ ทางท่อระบายน้ำใต้ดิน
โทรเน่และเพื่อนอีก 3 คน ปิโร่ สการัชชี่ ดอนนี่ กำลังวิ่งหนีอะไรอยู่สักอย่าง ดอนนี่ ที่ดูเหมือนอาการแย่มากเลือดไหลไม่หยุด ในที่สุดก็วิ่งมาถึงประตูที่เป็นเส้นทางหลบหนี แต่ปรากฏว่าประตูมันล็อคเปิดออกไม่ได้ ในที่สุดทั้งกลุ่มของโทรเน่ก็ถูกตามเจอและเข้าต่อสู้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปดอนนี่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตไป ตอนนี้โทรเน่ก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครวางแผนทำให้พวกเธอตกอยู่ในสถานการณ์นี้ น่าจะเพราะมีคนหักหลัง สุดท้ายพวกเขาก็ต้องหาทางอื่นไปต่อ

ให้เราวิ่งไปจนสุดท้าย ตัวเกมก็จะสอน Path Action ตอนกลางคืนของโทรเน่ Ambush (ซุ่มโจมตี) ทำให้ชาวเมืองสลบ ส่วนใหญ่เอาไว้ใช้เพื่อเปิดทางที่มีคนยืนบังหรือยืนปิดทางไว้ ทีนี้ก็ให้เราขึ้นบันไดอ้อมไปด้านบนแล้วลงมากด Ambush ใส่ศัตรูที่ขวางทางได้เลย

เมื่อศัตรูสลบไปแล้ว สการัชชี่ก็จะให้ลงมือฆ่ามันซะ แต่เราก็ปฏิเสธเพราะว่าไม่จำเป็น ทำให้สการัชชี่ดูไม่ค่อยพอใจ ทีนี้ก็ให้เปิดประตูแล้วเดินไปต่อ แต่ก็มีศัตรูอีกกลุ่มเข้ามาขวางทาง เมื่อกำจัดได้เราก็จะหนีออกจากท่อน้ำนี่ได้สักที จากนั้นโทรเน่ก็บอกว่างานของเรายังไม่จบให้รีบกลับไปที่บ้านกัน ปิโร่บอกว่า 2 คนนั้นคงจะไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแน่ สการัชชี่ก็รู้สึกกลัวและบอกว่าพวกเรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ เขาขอตายดีกว่ากลับไปรับการลงโทษ โทรเน่ก็บอกว่าเราไม่มีทางเลือกตราบใดที่ยังมีปลอกคอคล้องอยู่ จำเป็นต้องคอยฟังคำสั่งจาก 2 คนนั้นอยู่ดี สุดท้ายจึงตัดสินใจแยกย้ายกันแล้วไปเจอกันที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงฝ่ายศัตรูจะตามเจอ

“อสรพิษทมิฬ”
กลุ่มอาชญากรที่มีความสัมพันธ์กับแวดวงเหล่าเศรษฐีในอาณาจักร พวกเขาควบคุมทั้งทรัพย์สินและอำนาจของเมืองนี้
และฉันก็เป็นหนึ่งในลูกน้องของกลุ่มนี้
งานของฉันคือการขโมยและคอยเก็บกวาด

ทีนี้ให้เราหาทางกลับไปที่บ้าน โดยจะอยู่ในซอยลึกแถวเชิงบันได ให้วิ่งตรงตามซอยเข้าไปจนสุดก็จะเจอเข้ากับบ้านใหญ่หลังหนึ่ง New Delsta: Game Parlor เมื่อเข้ามาในบ้านจะมีชายแก่คนหนึ่งจู่โจมเราในทันที แต่เราก็เอามีดออกมาขวางไว้ทัน
เราเรียกชายคนนี้ว่า “พ่อ”
หัวหน้าของกลุ่ม อสรพิษทมิฬ
นักฆ่าชั้นหนึ่งที่คอยดูแลงานของเราทั้งหมด
เขารับฉันมาอยู่ด้วยตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กและสอนฉันทุกอย่างให้ฉันรู้

วิ่งตรงไปตามทางนี้จนสุด ก็จะเจอกับบ้านที่ว่า

โทรเน่ก็ถามว่างานล่าสุดมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พ่อก็บอกว่ามันคืองานธรรมดาทั่วไปที่เราถูกร้องขอมา ลูกค้าบอกว่านี่เป็นดีลสุดท้าย แต่เหมือนว่าแผนจะถูกเผยแพร่ออกไป น่าจะเกิดขึ้นเพราะมีคนทรยศในกลุ่ม พ่อก็บอกว่าบางทีในรังของเราจำเป็นต้องมีการทำความสะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่แอบซ่อนอยู่ แล้วก็บอกว่าโทรเน่เธอนั้นแตกต่างจากคนอื่น เป็นมือหนึ่งและคนเดียวที่ได้รับการสืบทอดทุกอย่างจากเขา นอกจากนั้นเขายังยื่นชื่อของโทรเน่ให้เป็นผู้สืบทอด โทรเน่ก็บ่นว่าช่วงนี้ปลอกคอมันค่อนข้างรัด พ่อก็บอกว่าเธออยากจะปลดมันออกงั้นหรอ แต่กุญแจของเขาคนเดียวไม่สามารถปลดล็อคปลอกคอของเธอได้ ก่อนจากกันพ่อก็บอกว่าให้เธอเตรียมตัวสำหรับการรวมพลคืนนี้ให้ดี เพราะเธอน่าจะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นสำหรับคนที่ทำให้ “แม่” ผิดหวัง

ทีนี้ก็ให้เดินตรงไปอีกนิด ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาให้ตอบ Yes ก็จะถึงเวลารวมพล แม่ได้ขึ้นพูดอยู่บนเวที รายล้อมไปด้วยเหล่าอาชญากรของกลุ่มอสรพิษทมิฬ
พวกเราเรียกเธอว่า “แม่”
เธอคือหัวหน้าอีกคนหนึ่ง คอยจัดการสมาชิกภายในกลุ่ม
เธอให้ความสำคัญกับระเบียบวินัยวินัยเหนือสิ่งอื่นใด
คนที่ทำให้เธอผิดหวังจะถูกลงโทษอย่างไร้ความปราณีและอาจถูกกำจัดทิ้ง
พ่อและแม่ พวกเขาคือผู้นำของเรา เป็นแรงขับเคลื่อนของกลุ่มอสรพิษทมิฬ

แม่ก็ได้เรียกโทรเน่ขึ้นมาบนเวที โดยพูดว่า สการัชชี่ได้กล่าวหาว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในงานล่าสุดนั้นเป็นเพราะโทรเน่ เธอก็บอกอีกว่า เธอค่อนข้างเป็นห่วงอนาคตของกลุ่มอสรพิษทมิฬ เพราะทั้งเธอและพ่อนั้นไม่ได้อ่อนเยาว์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ทำให้กลุ่มอสรพิษทมิฬจำเป็นต้องมีผู้นำคนใหม่ ซึ่งพ่อได้เสนอชื่อโทรเน่ ส่วนในสายตาของเธอนั้นคิดว่าโทรเน่ยังไม่ดีเพียงพอ เอาล่ะตอนนี้ก็ถึงเวลาลงโทษ แล้วเธอก็ลงแส้ใส่โทรเน่อยู่หลายครั้ง ในขณะนั้นเองปิโร่ก็เดินเข้ามาบอกว่า มันไม่ใช่ความผิดของโทรเน่ แต่เป็นของความผิดของเขาเอง หากจะลงโทษก็ควรลงโทษเขาแทน ไม่รอช้าแม่ก็ได้ลงแส้ไปที่ปิโร่ทันที จากนั้นเธอก็บอกว่าเธอจะออกจากรังไปสักพัก เพื่อไปค้นหาเหล่าเด็กมาเพิ่มเข้ากลุ่ม ก่อนที่แม่ลงจากเวทีก็บอกให้ปิโร่มาหาเธอในคืนนี้ด้วย

แม่เฆี่ยนตีพวกเรามาตั้งแต่ก่อนที่ฉันจะจำความได้ 
ฉันใช้ชีวิตวัยเด็กด้วยการถูกตีและถูกทำร้าย 
ฉันลืมไปนานแล้วว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร
ฉันขโมยสิ่งที่ลูกค้าของเราต้องการ 
และกำจัดผู้ที่ขวางทางพวกเขา
ฉันใช้ชีวิตแบบนั้นมาตลอด
มันทำให้ฉันสงสัย 
หรือว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งเดียวที่ฉันลืมไปแล้ว
ตอนเย็นที่มืดมิด 
ตามด้วยตอนเช้าที่เงียบเหงา 
วัฏจักรนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เช้าวันรุ่งขึ้น
ที่ดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง โทรเน่ได้ยืนอยู่และมีลูกหมาวิ่งเข้ามา เธอได้ป้อนอาหารและบอกว่าเธอรู้สึกอิจฉามันเพราะว่ามันไม่มีปลอกคอ จากนั้นปิโร่ก็เดินเข้ามาบอกว่าเขาเอาอาหารเช้ามาให้ แล้วปิโร่ก็จุดบุหรี่ดูดจากนั้นก็ถามโทรเน่ว่าต้องการบ้างมั้ย แต่โทรเน่ก็บอกว่าเธอไม่สูบ ปิโร่เลยบอกว่าคนแบบพวกเราน่ะควรหาความสุขใส่ตัวในทุกครั้งที่ทำได้ แต่โทรเน่ก็ส่ายหัวและบอกว่าเธออยากมีชีวิตที่ยืนยาว ปิโร่ก็หัวเราะแล้วบอกว่าเธอกำลังอยู่ผิดสายงานนะแบบนั้น ชีวิตที่นี่เหมือนกับบุหรี่ที่หายไปง่ายดายในกลุ่มควัน เราทำทุกอย่างเพื่ออยู่รอด ใช้ชีวิตอยู่กับปลอกคอที่ถูกสวมจากคนที่เรียกว่าครอบครัว ฉันอยากจะเลื่อนตำแหน่งและได้เงินจริงมาบ้าง ซื้อเหล้าดีๆ สักแก้ว นอนหลับบนเตียงขนาดใหญ่ ฉันอยากสนุกกับชีวิตก่อนที่จะตาย ปิโร่ก็ถามโทรเน่บ้างว่าเธอคิดยังไง โทรเน่ก็ตอบไม่ได้ว่าชีวิตของเธอต้องการอะไร จากนั้นปิโร่ก็บอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปทำงานกันแล้วล่ะ

ทีนี้ก็ให้เรากลับไปที่บ้าน New Delsta: Game Parlor อีกครั้ง เราจะมาพบกับพ่อโดยเขามีงานให้เราทำซึ่งเกี่ยวกับไอคนทรยศภายในกลุ่ม สการัชชี่ เนื่องด้วยมีคนเห็นว่า สการัชชี่ติดต่อกับดิอามันเต้ พวกเขาได้วางแผนที่จะกำจัดพ่อและเข้าควบคุมอสรพิษทมิฬ ตอนนี้สการัชชี่กำลังเดินทางไปยังคฤหาสน์ของดิอามันเต้ พ่อก็อยากให้เราลักลอบเข้าไปที่นั่นและกำจัดพวกเขาทั้งคู่ซะ โทรเน่ก็ถามย้ำว่า ต้องฆ่าสการัชชี่ด้วยหรอ พ่อก็บอกว่า มอบความตายแก่ผู้ทรยศ นั่นคือกฏของกลุ่ม จากนั้นพ่อก็ได้บอกเราว่า ช่วงนี้ดิอามันเต้ค่อนข้างระวังตัว การรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดขึ้น แต่ก็ยังพอมีทางดิอามันเต้ปรารถนาความสุขทางกายและมักเชิญผู้หญิงไปที่คฤหาสน์เพื่อสนองความต้องการ ทำให้โทรเน่สามารถปลอมตัวเป็นผู้หญิงเหล่านั้นลักลอบเข้าไปได้ ปัญหาคือเธอไม่มีชุดที่เหมาะสมกับงาน พ่อก็บอกพวกเราเป็นโจรว่าหากเราต้องการอะไรก็…. ก่อนไปพ่อก็บอกว่าหากเธอทำงานเสร็จแล้วให้ไปเจอกับเขาอีกครั้งที่ Winterbloom

ฉากจะตัดมาที่หน้าบ้าน เกมจะสอนเกี่ยวกับ Path Action ของโทรเน่เวลากลาวัน Steal (ขโมย) สำหรับการขโมยของเวลาที่จะทำการขโมยจะแสดง % โอกาสที่ขโมยสำเร็จ แต่หากเราขโมยไม่สำเร็จก็จะเสียค่าชื่อเสียงไปด้วย โดยเราจะมีโอกาสพลาดได้ประมาท 4 ครั้ง พอครบจำนวนแล้ว จะทำให้เราไม่สามารถใช้ Path Action ภายในเมืองนั้นได้อีก (ค่าชื่อเสียงของแต่ละเมืองจะคิดแยกกัน) วิธีแก้ก็คือให้ไปที่บาร์แล้วเลือก Restore Reputation จากนั้นก็จะเสียเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการเพิ่มค่าชื่อเสียงให้กลับมาเป็นปกติ ตอนนี้เราต้องไปขโมยชุดเพื่อปลอมตัว ทีนี้ก็ให้เราเดินตรงมาจนสุดแล้วจะเห็นบันไดด้านขวา ขึ้นมาแล้วจะเห็นผู้หญิงแต่งกายในชุดสวยอยู่ยืนใกล้กับจุดเซฟ ก็ให้กด Path Action แล้วขโมยชุดมาจากเธอ ทีนี้เราก็จะต้องไปหาคฤหาสน์ของดิอามันเต้ ก็ให้เราขึ้นบันไดทางขวาเข้าสู่แผนที่ New Delsta จากนั้นก็ให้วิ่งไปทางขวาจนสุดจะเจอกับบ้านใหญ่หลังหนึ่งที่ประตูเปิดอยู่แล้วฉากจะตัด ตอนนี้โทรเน่ก็ได้เปลี่ยนชุดแล้ว ทหารยามที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็ปล่อยให้เราเข้าไปข้างในได้

มาขโมยชุดจากผู้หญิงตรงนี้
คฤหาสน์จะอยู่บริเวณขวาบนสุดของแผนที่ New Delsta

ภายในคฤหาสน์เดินมาเล็กน้อยจะเจอทหารที่มีสัญลักษณ์ข้อความสีเขียวก็ให้เดินเข้าไปด้านหลังแล้วกด Path Action Ambush ใส่ ทีนี้ก็ให้เราออกสำรวจให้ทั่วคฤหาสน์ จนเห็นหน้าห้องที่มีจุดเซฟและคนขายของ เมื่อเข้าไปที่ห้องนี้ให้สังเกตุจะเห็นว่ามีหน้าต่างที่แตกอยู่ให้เดินไปที่บริเวณนั้น จะพบว่าสการัชชี่และดิอามันเต้ นอนตายอยู่ จากนั้นจะมีคนลอบจู่โจมเราคนนั้นก็คือปิโร่ ปิโร่ก็บอกว่าเขาจัดการ 2 คนนั้นเอง เพราะรู้สึกว่าโทรเน่ใช้เวลานานเกินไป โทรเน่ก็ถามว่าเป็นเพราะพ่อขอให้เขาทำแบบนี้อย่างงั้นหรอ ปิโร่ก็บอกว่า ไม่ใช่เสียทีเดียว เธอเห็นไหมว่าที่แท้ก็ไม่เคยมีผู้ทรยศตั้งแต่แรกเลย พ่อบอกว่าสการัชชี่คือคนทรยศ แล้วให้เธอมาที่นี่เพื่อฆ่าสการัชชี่และดิอามันเต้ใช่มั้ย แต่พ่อกลับบอกเขาว่าโทรเน่คือคนทรยศ และพ่อก็บอกกับสการัชชี่ว่าปิโร่คือคนทรยศ โทรเน่ก็ถามว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น ปิโร่ก็เลยบอกว่า เพราะว่ามันคือสิ่งที่ครอบครัวนี้ทำ มันคือสิ่งที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้ พวกเราจะต้องฆ่ากันเองจนกว่าจะเหลือคนสุดท้าย ซึ่งเป็นคนที่เก่งที่สุด นั่นแหละคือวิธีที่พวกเขาคัดเลือกผู้สืบทอด งานก่อนหน้านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์พวกเขาด้วยเช่นกัน ดอนนี่แค่เพียงถูกกำจัดในช่วงเริ่มต้นของการคัดเลือก ปิโร่ก็ได้บอกต่ออีกว่าอสรพิษจะต้องถูกกำจัด เมื่ออำนาจของพ่อและแม่ลดลง ผู้คนจะรีบคว้าโอกาสที่จะโค่นล้มพวกเขา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงต้องหาผู้สืบทอดที่คู่ควรไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม และผู้สืบทอดคนนั้นควรจะต้องเป็นเขา เขาจะควบคุมเมืองนี้จากในเงามืด และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้น โทรเน่ก็บอกว่าอย่าทำแบบนี้ เธอไม่อยากสู้กับปิโร่เลย สุดท้ายโทรเน่ก็ต้องสู้กับปิโร่อยู่ดี

ในระหว่างต่อสู้ โทรเน่พยายามเกลี้ยกล่อมปิโร่ แต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายก็ต้องสู้กันจนรู้ผล

เมื่อเอาชนะปิโร่ได้ ปิโร่ก็บอกว่าตอนนี้มันขึ้นอยู่กับโทรเน่แล้ว เธอจะต้องขึ้นเป็นผู้สืบทอด แต่โทรเน่ก็บอกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ แล้วปิโร่ก็ถามว่าแล้วเธอต้องการอะไรล่ะ โทรเน่เลยบอกว่า เธอเหนื่อยแล้วล่ะ เธอต้องการแค่เพียง อิสระ ไปที่ไหนก็ได้ที่ต้องการ ปิโร่ก็บอกว่าฟังดูดีนะ แต่จะเป็นอิสระได้ยังไงในเมื่อยังมีปลอกคออยู่ เราไม่สามารถตัดโซ่ตรวนออกไปได้ตลอดไป โทรเน่ก็บอกว่านายผิดแล้วล่ะ ฉันจะไปทวงอิสระภาพด้วยสองมือของฉันเอง ปิโร่ก็บอกว่าหากมีใครสักคนที่ทำแบบนั้นได้ มันจะต้องเป็นเธอโทรเน่ แล้วปิโร่ก็เสียชีวิตไป 

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันรู้ว่าต้องการอะไร
ฉันต้องการอิสระ
แต่ก่อนอื่นจะต้องกำจัดปลอกคอนี้ออกให้ได้
และเพื่อการนั้นจะต้องการกุญแจทั้ง 2 ดอก
แม่ถือกุญแจอยู่ 1 ดอก
เธอออกไปข้างนอกเพื่อค้นหาสมาชิกใหม่ ฉันจะต้องไปหาให้เจอ
พ่อถือกุญแจอีกดอกหนึ่งที่เหลือ
เขาอยู่ที่ Winterbloom
และเขาอยากให้ฉันอยู่ด้วยในงานต่อไป
การหาเขาให้เจอนั้นง่าย แต่ฆ่าเขานั้นยากยิ่งกว่า
แต่ฉันต้องกำจัดพวกมันทั้งคู่หากต้องการกุญแจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เจอกับพ่อและแม่

Throné – Chapter 1 End

ทีนี้ให้เราเริ่มสำรวจเมือง New Delsta ให้เมืองหลังจากพอใจแล้ว ก็ให้ไปที่บาร์แล้วสลับเอา ออสวอลด์กับพาร์เททิโอเข้าปาร์ตี้ จากนั้นกดที่ Hear a Tale แล้วเริ่มเนื้อเรื่อง The Scholar & Merchant, Part 1

The Scholar & Merchant, Part 1

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.