นานมาแล้ว…
มีสัตว์ในตำนาน 3 ตัว
สัตว์ทั้ง 3 ตัวนั้น คอยดูแลทั่วทั้งเกาะมานานหลายปี
ก่อนที่จะออกเดินทาง เพื่อกลายเป็นผู้พิทักษ์ของดินแดนอื่น
หากมีเหตุให้ต้องการพลังของพวกมันอีกครั้ง
พวกมันจะถูกเรียกกลับมายังเกาะ
ก่อนภัยพิบัติคืนแห่งพระจันทร์สีเลือด
จูวาห์: โอชุตต์ ลูกศิษย์ของฉัน ซักวันหนึ่งเธอจะเป็นนักล่า
โอชุตต์: นักล่าหรอ?
จูวาห์: ผู้พิทักษ์เกาะ กำจัดสิ่งมีชีวิตที่คุกคามความสมดุล และผู้พิทักษ์เกาะต้องการผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์
โอชุตต์: ผู้ติดตาม…
ลาแจ็คคัล เปล่งประกายในพระกรุณาของดวงอาทิตย์ เขี้ยวของมันถูกสร้างมาเพื่อฉีกเนื้อของเหยื่อ ทำให้เป็นอาวุธที่น่าเกรงขาม
มาลามาอาว สงบเงียบในพระกรุณาของพระจันทร์ ปีกของมันฉีกกระชากอากาศและมีพลังมหัศจรรย์
จูวาห์: ทั้งคู่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่หายากที่สุดที่รู้จัก เธอต้องเลือกเพียงหนึ่งโอชุตต์ และตัวที่เธอเลือก เธอจะต้องเป็นมิตรกับมัน เอาล่ะ ลองดู
โอชุตต์: ฮืมมม ฉันควรเลือกตัวไหนดีล่ะ?
ตอนนี้เราจะได้บังคับโอชุตต์ แล้วให้กด Path Action ใส่ตัวที่เราต้องการเลือก สำหรับตัวเลือกนี้จะเลือกได้แค่เพียง 1 ตัวเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วทั้ง 2 จะมีความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ตัวเลือกนี้ไม่มีผิดมีถูกเอาแค่ถูกใจเราก็พอ
ลาแจ็คคัล เด่นเรื่องพลังโจมตีกายภาพ
มาลามาอาว เด่นเรื่องพลังโจมตีเวทย์
ในบทสรุปจะเลือกทาง มาลามาอาว
โอชุตต์: ฮี่ ฮี่ ฮี่ ฉันชอบเธอ ฉันจะเรียกเธอว่า มาฮิน่า
จูวาห์: ดูเหมือนว่าคุณจะคุ้นเคยกันแล้ว เธอได้เพื่อนที่ดีแล้ว และเธอจะเป็นนักล่าที่ดีโอชุตต์
โอชุตต์: ขอบคุณค่ะ อาจารย์จูวาห์
ในขณะนั้นเองสัตว์อีกตัวที่เราไม่ได้เลือกก็เหมือนจะถูกความมืดครอบงำและได้วิ่งหนีไป
10 ปีต่อมา โอชุตต์กำลังออกล่าในป่าและเจอเข้ากับสัตว์ตัวใหญ่ ราชาอีกัวน่า ในการต่อสู้นี้ระบบจะสอนความสามารถพิเศษของโอชุตต์ Capture ที่ทำให้เราสามารถจับมอนสเตอร์ได้นั่นเอง ก็ให้โจมตีจนชื่อมอนสเตอร์ขึ้นสีเหลืองแล้วกด Capture ได้เลย หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อยก็ให้เรากลับไปที่หมู่บ้านโดยไปทางด้านบน
ที่หมู่บ้านจะเกิดการทะเลาะกันขึ้นระหว่าง เผ่าสัตว์กับมนุษย์ โดยทางฝั่งมนุษย์เข้ามาเรียกร้องให้ เผ่าสัตว์แบ่งพื้นที่มาให้มากขึ้น ตอนนั้นเองจูวาห์ก็ออกมาไล่พวกมนุษย์ให้ออกไป เพราะว่าเผ่าสัตว์นั้นอยู่บนเกาะแห่งนี้อย่างสันติมานานแล้ว พวกมนุษย์มาทีหลังแต่กลับจะมาปล้นงั้นหรอ พวกเราได้ทำข้อตกลงแบ่งที่ดินและสาบานกันว่าจะไม่ลุกล้ำอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายมนุษย์กลับยังคงไม่ยอมแพ้และหาเรื่องต่อ เมื่อโอชุตต์มาก็จะเข้าไปสั่งสอนมนุษย์โลภมากพวกนี้
ตัวเกมจะสอนการใช้ Path Action ตอนกลางวันของโอชุตต์ Provoke (ยั่วยุ) ก็ให้กดใช้ Provoke ใส่เพื่อต่อสู้ได้เลย การต่อสู้ที่เกิดจาก Provoke นั้นตัวโอชุตต์เองจะไม่สามารถโจมตีตามปกติได้ จะต้องใช้การโจมตีผ่านเหล่ามอนสเตอร์ที่จับมาเท่านั้น เมื่อเอาชนะได้พวกมนุษย์ก็จะหนีกลับออกไปและชาวเผ่าสัตว์ก็จะขอบคุณโอชุตต์ ทีนี้เกมก็จะสอนอีกความสามารถเฉพาะตัว Prepare เมื่อกดใช้จะเป็นการฆ่ามอนสเตอร์ที่จับมา แต่เราจะได้รับเนื้อ Jerky กลับไป โดยเนื้อพวกนี้ก็จะมีเกรดที่แตกต่างกันตามระดับของมอนสเตอร์ ซึ่งเอาไว้ใช้แลกไอเทม หรือเอาไว้ใช้ในการต่อสู้ได้เช่นกัน ทีนี้ก็ให้เรากดเรียกเมนู Monster ขึ้นมาแล้วกดไปที่ King Iguana แล้วเลือก Prepare จากนั้นก็คุยกับคนที่มีสัญลักษณ์สีเขียวแล้วมอบเนื้อ Jerky ให้ ต่อมาจูวาห์จะเรียกโอชุตต์ขึ้นไปคุยกับเขา ก็ให้วิ่งขึ้นไปตามทางฝั่งซ้ายจนสุด ก็จะเจอกับจูวาห์ที่รออยู่
จูวาห์ก็ได้มาพูดคุยกับโอชุตต์ ในระหว่างที่คุยกันอยู่ จูวาห์ก็ได้บอกว่าผ่านมา 10 ปีแล้วสินะ ที่เธอทั้ง 2 ได้เจอกัน โอชุตต์ก็พูดว่า ฉันยังจำวันนั้นได้อยู่เลย สัตว์อีกตัวที่ไม่ได้ถูกเลือก เธอได้ออกตามหามาตลอดแต่ก็ไม่เคยเจอกับมันอีกครั้งเลย จูวาห์ก็ได้บอกว่าอย่าไปคิดถึงมันเลย มันคือโชคชะตา ตัวจูวาห์เองก็กล่าวต่อว่า สักวันหนึ่งเขาก็จะตาย ต่อจากนั้นเกาะแห่งนี้ก็จะเป็นภาระที่โอชุตต์ต้องแบกรับไป แต่โอชุตต์ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะแบกรับภาระนี้ไหวหรือไม่ แล้วจูวาห์ก็ได้ถามโอชุตต์ว่า ช่วงนี้พบอะไรผิดปกติภายในป่าบ้างมั้ย ซึ่งตัวโอชุตต์เองก็รู้สึกว่าตอนนี้ราวกับทั้งป่ากำลังรู้สึกกลัว ในระหว่างนี้เองดูเหมือนว่าทางฝั่งมนุษย์ก็มาหาอีกครั้ง โดยมีผู้นำที่ชื่อ โคฮาเซะ เข้ามาขอโทษที่คราวก่อนมีคนมาก่อเรื่อง และมอบเนื้อให้กับจูวาห์ เพียงแต่ที่โคฮาเซะมาไม่ได้มาเพียงเพราะจะขอโทษแต่มีเรื่องต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากมีเด็กสาวในหมู่บ้านได้หลงเข้าไปในซากปรักหักพัง จึงอยากขอความช่วยเหลือให้นำตัวเธอออกมา หากนำตัวเธอมาได้ ก็จะมาช่วยกันคิดในเรื่องปัญหาการแบ่งที่ดินกันใหม่ พอได้ยินแบบนั้นก็ทำให้จูวาห์ไม่พอใจ ซากปรักหักพังนั่นก็มีอันตรายอยู่แล้ว จะให้มาเสี่ยงชีวิตของเผ่าสัตว์เพื่อมนุษย์งั้นหรอ เพียงแต่ในขณะนั้นเองโอชุตต์ก็อาสาจะไปพาตัวเด็กสาวคนนั้นกลับมาเอง จูวาห์ก็ไม่พอใจ แต่โอชุตต์ก็บอกว่า “อาจารย์จำที่สอนหนูได้มั้ย สิ่งสำคัญที่สุดคือ จงซื่อสัตย์กับหัวใจไม่ใช่กับตาหรือจมูก” สุดท้ายโอชุตต์ก็กล่อมจูวาห์ได้สำเร็จจนเขายอมให้โอชุตต์ไป
ทีนี้ก็ให้เราออกเดินทางกันได้เลย โดยให้เริ่มจากลงไปบริเวณด้านล่างของแผนที่เข้าสู่ Path to the Tombs of the Wardenbeasts ในระหว่างนี้หากเจอมอนสเตอร์ก็จับเล่นมาบ้าง เดินจนสุดทางก็จะเข้าสู่ Tombs of the Wardenbeasts สำรวจในนี้พร้อมกับเก็บเลเวลไปเรื่อยจนกระทั่งเดินไปเจอเด็กสาวให้กด Path Action ใส่ เธอก็จะยอมตามโอชุตต์ออกมา ในตอนนี้เองเหล่านกในป่าก็เกิดกลัวแล้วบินหนีกัน ซึ่งพวกนกก็พูดกันว่า “หนีออกจากที่นี่ไปให้ไกล ภัยพิบัติกำลังมาเยือน” จากนั้นให้เราวิ่งกลับไปทางหมู่บ้านระหว่างทางจะเจอกับมอนสเตอร์แปลกๆ แล้วเราก็จะเจอชาวเผ่าสัตว์ พวกเขาบอกว่าตอนนี้เหล่ามอนสเตอร์กำลังโจมตีหมู่บ้านอยู่และจูวาห์ก็กำลังสู้อยู่กับพวกมัน ตอนนี้ก็ให้เราวิ่งกลับเข้าไปทางหมู่บ้าน เมื่อเจอจุดเซฟก็แนะนำให้กดเซฟเอาไว้แล้วลุยกันต่อ เมื่อถึงที่หมู่บ้านก็จะเห็นว่าจูวาห์กำลังสู้อยู่กับมอนสเตอร์ประหลาดและเราก็จะเข้าต่อสู้กับมันแทน
จนกระทั่งเราปราบมันได้ จูวาห์ก็จะบอกว่านี่มันเป็นแค่เพียงการเริ่มต้น ภัยพิบัติกำลังปรากฏขึ้นมาบนเกาะแล้ว และค่อยๆ คลืบคลานเข้ามา คืนแห่งพระจันทร์สีเลือด ทุก 400 ปี มันจะกลับมา คืนที่พระจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีเลือด คืนนั้นนำมาซึ่งภัยพิบัติและความเสียหายต่อเกาะ ตามตำนานที่เล่าลือกันมา เสร็จแล้วจูวาห์ก็จะบอกให้โอชุตต์ตามมา แต่ก่อนที่จะไป พวกมนุษย์ก็เข้ามาขอบคุณแล้วจะถือว่าปัญหาเรื่องพื้นที่นั้นจบลงแล้วและจากไป โอชุตต์ก็บ่นว่า พวกมนุษย์นี่เคยเบื่อที่จะพูดถึงเรื่องดินแดนกันบ้างไหม จูวาห์ก็บอกว่ามันคือความโลภของพวกมนุษย์ไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวหรือพูดถึงมัน แล้วจูวาห์ก็จะพาเราไปจนยังกำแพงสุดทางในซากปรักหังพังที่เราเข้าไปช่วยเด็กสาว
นานมาแล้ว
มีสัตว์ในตำนาน 3 ตัว
เทร่า
คาเทแลคต้า
กราซิส
สัตว์ทั้ง 3 ตัวนั้น คอยดูแลทั่วทั้งเกาะมานานหลายปี
ก่อนที่จะออกเดินทาง เพื่อกลายเป็นผู้พิทักษ์ของดินแดนอื่น
หากมีเหตุให้ต้องการพลังของพวกมันอีกครั้ง
พวกมันจะถูกเรียกกลับมายังเกาะ
ก่อนภัยพิบัติคืนแห่งพระจันทร์สีเลือด
จูวาห์ได้บอกกับโอชุตต์ว่า ตำนานเก่าที่เล่ากันมานี้กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว อย่างที่ได้บอกไปว่าเกาะแห่งนี้มันคือภาระของเธอ เธอต้องออกจากเกาะเพื่อไปตามหาสัตว์ในตำนานทั้ง 3 ตัว หลังจากนั้นโอชุตต์ก็ได้ออกจากเกาะพร้อมกับเพื่อนที่ซื่อสัตย์
ภัยพิบัติที่รู้จักกันในชื่อคืนแห่งพระจันทร์สีเลือด เกิดขึ้นทุก 400 ปี
และพวกเขาต้องปกป้องเกาะของตนโดยการนำสิ่งมีชีวิตในตำนานกลับมา 3 ตัว
ทะเลกว้างใหญ่ แต่โลกภายนอกก็กว้างใหญ่กว่านั้น
มีสิ่งที่ต้องเห็น ต้องได้ยิน และต้องเรียนรู้มากกว่าที่โอชุตต์เคยจินตนาการไว้
Ochette – Chapter 1 End
เอาล่ะทีนี้ก็มาถึงเวลาสำรวจเกาะแห่งนี้กันบ้างแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดของหมู่บ้านนี้อยู่ที่ Frontier Axe โดยให้เริ่มจาก Bribe ชาวเมืองที่ยืนเหมือนเป็นการ์ดอยู่บริเวณใกล้ๆ ร้านขายอุปกรณ์นั่นแหละ จะปลดล็อคอาวุธใหม่วางขายอยู่ในร้านอุปกรณ์ ก็ให้เข้าไปซื้อได้เลย ราคาของ Frontier Axe จะอยู่ที่ 55,000 Leaves ก็ให้ใช้มุขเดิมทำการเซฟก่อนแล้วค่อยกดซื้อจนกว่าจะติดสกิล Lucky Break ทำให้ซื้อได้ฟรี เอามาแค่ 1 ชิ้นก็พอแล้ว แต่หากเงินยังไม่ถึงแล้วขาดเยอะ ข้ามไปก่อนยังไม่ต้องซื้อก็ได้ แต่ถ้าเงินใกล้ถึงก็แนะนำให้เก็บเงินจนครบแล้วซื้อมาให้ได้ เพราะมันเป็นขวานที่แรงมากใช้ได้จนถึงท้ายเกมเลยทีเดียว
เมื่อสำรวจจนพอใจแล้วก็ให้กลับไปที่ Beasting Bay: Anchorage ทีนี้ให้เราออกจากแผนที่นี้ไปทางด้านขวาจะเข้าสู่ Western Tropu’hopu Traverse เมื่อเข้ามาที่แผนที่นี้แล้วให้สังเกตุที่แผนที่เล็กทางขวาล่างจะเห็นว่ามีสัญลักษณ์เหมือนรูปโล่ปรากฏขึ้นมา ก็ให้เราวิ่งไปที่นั่นเพื่อคุยกับ NPC ซึ่ง NPC คนนี้คือ Hunter Guild Master แล้วจะเป็นปลดล็อคระบบ Secondary jobs หรืออาชีพรองนั่นเอง มีประโยชน์อย่างมาก โดยตัวละครที่สวมใส่อาชีพรองจะทำให้สามารถเรียนรู้และใช้สกิลของอาชีพรองได้ แถมยังสวมใส่อาวุธเพิ่มตามอาชีพรองได้ด้วย เช่น ฮิคาริ มีการอาชีพ Warrior ใส่อาวุธ ดาบและหอก หากเลือกอาชีพรองเป็น Hunter ก็จะทำให้ใส่อาวุธ ธนูกับขวาน ได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังเพิ่ม Stat ความสามารถให้อีกเล็กน้อย
ทีนี้พูดถึงระบบ Guild นี้กันบ้าง ภายในเกมจะมี Guild ต่างๆ แยกออกไปตาม Job เมื่อคุยกับ Guild Master ของแต่ละที่ เราจะได้รับ License ของแต่ละอาชีพมาด้วยนั่นเอง นอกจากนั้นเรายังสามารถปลดล็อคขั้นของ License ได้สูงสุดที่ 3 ขั้นของแต่ละอาชีพ โดยการปลดล็อค License แต่ละขั้นนั้นจะช่วยให้สมาชิกปาร์ตี้สามารถสวมใส่อาชีพรองซ้ำกันได้มากขึ้น ส่วนตอนนี้เราสามารถปลดล็อคได้แค่เพียง License ขั้นที่ 1 ของอาชีพ Hunter เท่านั้น ส่วนขั้นที่เหลือค่อยมาปลดภายหลัง
ตอนนี้ก็กลับไปที่ Beasting Bay: Anchorage เพื่อขึ้นเรือ โดยครั้งนี้ให้เลือกที่ Make for Eastern Continent New Delsta Harbor: Anchorage แล้วออกไปทางขวาเข้าแผนที่ New Delsta Flats แผนที่นี้มีทางแยกที่เยอะพอควร ให้เราหาทางออกไปทางด้านบนให้ได้แล้วจะเข้าสู่ Southern Cape Cold Snows เมื่อเดินตามทางเล็กน้อยก็จะพบกับคนนอนสลบอยู่นั่นก็คือเพื่อนคนต่อไปของเรา Osvald ก็ให้คุยแล้วเริ่มเนื้อเรื่องได้ สำหรับเนื้อเรื่องของ Osvald นี้เราจะต้องเล่นทั้ง Chapter 1 และ 2 ติดต่อกัน
