บทสรุป Hikari – Chapter 1

ณ ดินแดนท่ามกลางทะเลทราย เด็กหนุ่มยืนอยู่บนเนินเขา มีอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารผู้ล่วงลับจากสงคราม ถูกฝังพร้อมปักอาวุธอยู่ จากนั้นมีเด็กหนุ่มอีกคนนามว่า ริตสึ เดินขึ้นมาพร้อมพูดว่า 

ริตสึ: เจ้ากำลังอธิษฐานอยู่หรอ ฮิคาริ อย่ามัวแต่เสียเวลาหายใจอยู่ที่นี่เลย หากเจ้ากำลังอธิษฐาน อธิษฐานเพื่อเหล่าคนที่กำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของเขาในตอนนี้จะดีกว่า ไม่ใช่เพื่อเหล่าคนที่กลายเป็นฝุ่นธุลีไปแล้ว 
ฮิคาริ: ข้าไม่ได้มาเพื่ออธิษฐานหรอก แต่มาเพื่อจดจำ จดจำเหล่าสหายที่เสียสละชีวิตของเขาไปเพื่อภารกิจ วันนี้ข้าจะต่อสู้เพื่อพวกเขา
ริตสึ: ถึงเวลาแล้ว องค์ชาย
ฮิคาริ: งั้นเราไปต่อสู้กันเถอะ ริตสึ

จากนั้นเกมจะตัดเข้าสู่ฉากการเล่นจริง โดยช่วงนี้จะเป็นการฝึกสอนพื้นฐานในการบังคับตัวละคร และพื้นฐานของระบบต่อสู้ ซึ่งพื้นฐานที่สำคัญการต่อสู้ในเกมนี้ก็คือ ระบบจุดอ่อนของศัตรู, การ Breaking และระบบ Boost โดยที่เราจำเป็นต้องโจมตีศัตรูด้วยจุดอ่อน เพื่อลดค่าป้องกันของศัตรูลงจนเข้าสู่การ Break เมื่อศัตรูอยู่ในสถานะ Break แล้ว ให้ Boost ตัวละครของเรา โดยการใช้ BP เพื่อโถมการโจมตีในจังหวะนี้ จะช่วยรีดพลังโจมตีใส่ศัตรูได้อย่างรุนแรง 3 ขั้นตอนนี้นับว่าเป็นพื้นฐานภายในเกม ที่จะช่วยให้พิชิตเหล่าบอสสุดโหดลงได้นั่นเอง

ระหว่างที่ ฮิคาริและริตสึต่อสู้อยู่นั้น ฉากจะตัดมายังเนินเขาแห่งหนึ่ง เป็นการพูดคุยกันระหว่าง คาซาน ฉายา เหยี่ยวแห่งคู เสนาธิการแห่งกองทัพ กับ แม่ทัพมูเกน ซึ่งได้รับฉายาจากทหารของฝั่งศัตรูว่า ปีศาจโลหิตแห่งคู แม่ทัพที่มีความโหดเหี้ยมไร้ปราณี ยกย่องแต่เพียงความแข็งแกร่ง

ตัดกลับมายังฝั่งของฮิคาริ ในระหว่างที่กำลังบุกโจมตีอยู่นั้น ก็ถูกทหารของเหล่าศัตรูซุ่มโจมตี ทำให้ทหารที่ติดตามของฮิคาริล้มลงไป แล้วเราจะเข้าต่อสู้กับกลุ่มทหารนี้ ในระหว่างนั้น ไรเมย์ หญิงสาวที่เป็นพันธมิตรจะได้เข้ามาช่วย

หลังจากล้มศัตรูกลุ่มหนึ่งไปได้แล้ว

ริตสึที่กำลังจะฆ่าทหารคนหนึ่ง แต่ฮิคาริได้เข้ามาหยุดไว้ “ริตสึ หยุดก่อน พวกเราชนะแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการนองเลือดไปมากกว่านี้” ในระหว่างนั้นแม่ทัพศัตรูก็เข้ามาพอดี กลุ่มของฮิคาริได้เข้าปะทะกับแม่ทัพของศัตรูและปราบมันลงได้ แม่ทัพศัตรูก็กล่าวออกมาว่า “ไม่ พวกข้าจะไม่มีวันปล่อยให้ทะเลทรายแห่งนี้ อยู่ในอุ้งมือของเจ้า… ตระกูลต้องสาป… จะต้อง…” ในเวลานั้นเอง แม่ทัพมูเกน ก็เข้ามาและฟันแม่ทัพของศัตรูเสียชีวิตในทันที 

ฮิคาริ: ท่านพี่
แม่ทัพมูเกน: ไอเด็กใจอ่อน การเห็นใจศัตรูมันทำให้ตระกูลคูของเราเสื่อมเสียชื่อเสียง ตอนนี้แม่ทัพของศัตรูถูกฆ่าแล้ว ชัยชนะอยู่ในมือของเรา!

เมื่อกล่าวคำจบ การต่อสู้ได้จบลง พร้อมด้วยเสียงทหารของที่แสดงความดีใจ จากนั้นก็มีชาย 2 คนเดินแทรกฝ่ากลางวงของเหล่าทหารเข้ามา ซึ่งก็คือ ราชาแห่งคู จิโกะ และองครักษ์เบงเคย์ โดยราชาจิโกะ ได้ออกมากล่าวปราศัยแสดงความยินดีที่ได้ชัยชนะในการรบครั้งนี้ แต่หลังจากที่กล่าวจบก็รู้สึกหน้ามืดเล็กน้อยเพราะความร้อน ฮิคาริจึงได้เข้าไปช่วย ราชาจิโกะและองครักษ์ของเขาก็ได้จากไป จากนั้นฮิคาริก็ได้ถามแม่ทัพมูเกนเกี่ยวกับ ตระกูลต้องสาป แต่แม่ทัพมูเกนก็ไม่ได้ตอบ พร้อมกล่าวต่อว่าฮิคาริแทน
“เอามันออกไปจากหัวของเจ้าเถอะ เลือดผสมแบบเจ้า ไม่จำเป็นต้องมาคิดถึงเรื่องนี้”
“ท่านก็ได้ยินมันเช่นกันใช่มั้ย? เสียงนั่น?”
“ความสงสารหรือเมตตาไม่มีอยู่ในตระกูลคู ฮิคาริเจ้าไม่เหมาะสมที่จะยืนอยู่ท่ามกลางตระกูลเรา”

หลังจากพูดคำนั้น แม่ทัพมูเกนก็ได้เดินจากไป และฉากก็ตัดมาอยู่ที่ เนินเขาอนุสรณ์สถานในตอนต้นอีกครั้ง โดยตอนนี้ ริตสึได้เข้ามาพูดปลอบฮิคาริ และไรเมย์กับคาซานก็ได้เดินเข้ามาร่วมด้วย โดยคาซานนั้นกำลังรอเวลาที่จะฉลองในชัยชนะครั้งนี้ แต่ฮิคาริก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะหนทางยังอีกยาวไกล ซึ่งทางคาซานเห็นเป็นเช่นนั้น ก็เลยขอให้ฮิคาริให้สัญญากับเขาว่าหากเรื่องราวทั้งหมดนี้จบลงแล้ว ให้มาดื่มยกแก้วดื่มฉลองด้วยกันเถอะ ฮิคาริก็ได้ตอบตกลง

แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาไม่มีโอกาส….ที่จะทำตามสัญญานั้นเลย
หลังจากที่ได้รับชัยชนะในสงครามครั้งล่าสุด ประเทศคู ก็ได้ประกาศยุติการต่อสู้แบบไม่มีกำหนด
เปลวไฟแห่งสงครามที่เคยลุกโชนได้ถูกลดลงเหลือเพียงขี้เถ้า และอดีตเพื่อนร่วมรบอย่างคาซานและไรเมย์ ต่างแยกย้ายกันไปในทางของตน ห่างไกลจากทะเลทราย

ผ่านไป 3 ปี หลังจากการประกาศยุติสงคราม
ในระหว่างที่ฮิคาริกำลังฝึกฝนอยู่ในเมือง ก็ได้มีชาวเมืองมาขอให้ช่วยฝึกดาบให้ด้วย ฮิคาริก็ตอบตกลงทันทีและเมื่อฝึกฝนกันไปเล็กน้อย ทหารอารักขาก็ได้เข้ามาขัด พร้อมกับกล่าวดูถูกชาวเมือง ทำให้ฮิคาริไม่พอใจและต่อว่าทหารอารักขาทันที “พวกเขาคือประชาชนของคู ไม่ต่างจากเจ้า และเจ้าจะต้องแสดงความเคารพที่พวกเขาสมควรได้รับ” ทหารอารักขาก็ได้ขออภัยและถอยออกไป ขณะนั้นมีชาวเมืองอีกคนที่ชื่อว่า ซูกิ วิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีร้อนรน “เกิดการทะเลาะกันที่โรงเตี๊ยม หนึ่งในนั้นเป็นคนของท่านมูเกน และเขาอาละวาดไม่หยุดเลย” ฮิคาริจึงได้รีบไปที่โรงเตี้ยมพร้อมกับซูกิ

จากนั้นเกมจะสอนเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับการดูหน้าจอแผนที่ และเราสามารถพูดคุยสำรวจเมืองนี้ได้อย่างอิสระ เมื่อสำรวจจนพอใจแล้ว ให้เราไปที่ Tavern (โรงเตี้ยมหรือบาร์นั่นเอง โดยจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปแก้วกาแฟอยู่หน้าร้าน) 

ภายในโรงเตี้ยม ทหารของมูเกนกำลังอวดเบ่งอยู่ ฮิคาริและซูกิก็เดินเข้ามา ทหารของมูเกนที่เห็นฮิคาริก็ได้พูดจาดูถูกทันที “งั้นนี่ เป็นที่ที่เจ้าอยู่งั้นหรอ หลังจากที่โดนไล่ออกจากปราสาทมา, องค์ชาย ฮิคาริ คบหากับคนต่ำต้อย สมควรแล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จนครอบครัวได้ทอดทิ้งเจ้า” ทำให้คนรอบข้างไม่พอใจ แต่ทหารคนนั้นก็ไม่ได้หยุด “พระราชาทรงอ่อนแอลง พระสติปัญญาทรงเปราะบาง ตอนนี้พระองค์แทบจะยกดาบของพระองค์ขึ้นไม่ได้ มันก็อีกไม่นานนักหรอก ที่ท่านแม่ทัพมูเกนจะทรงขึ้นครองราชย์”

ฉากจะสลับมาที่การสอนให้เรารู้จักกับระบบ Path Action โดยแต่ละตัวละครนั้นจะมี Path Action ที่แตกต่างกันไป สำหรับตอนเช้า Path Action ของ ฮิคาริ จะเป็น Challenge หรือ ก็คือการท้าต่อสู้กับคนในเมืองได้ สำหรับตอนนี้ให้เราไปกด Challenge เพื่อสั่งสอนทหารปากเสีย ผู้เหิมเกริมคนนั้นได้เลย

หลังอัดทหารจนวิ่งหนีออกไป ตัวเกมก็จะแนะนำเมื่อเรา Challenge ชนะชาวเมืองได้ จะได้รับสกิลพิเศษมา โดยที่แต่ละคนก็จะได้ให้สกิลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตอนนี้ เราจะได้รับสกิลที่ชื่อ Double Slash ก็ให้กด Yes เพื่อรับได้เลย เพราะถือว่าเป็นสกิลเริ่มต้นที่ดี โจมตีประเภทดาบ 2 ครั้งติดต่อกัน ช่วยทำให้ Breaking ศัตรูได้ง่ายขึ้น 

ในระหว่างที่ฮิคาริกำลังคุยกับซูกิอยู่นั้น เบงเคย์ก็เข้ามาหาและบอกให้ฮิคาริไปเจอกับเขาอีกครั้งที่ป้อมฝั่งตะวันตกของเมือง ตอนนี้เราจะได้บังคับตัวละครอีกครั้ง ให้เราสำรวจภายในเมือง ซึ่งตอนนี้เรา Challenge ชาวเมืองได้แล้ว เพื่อรับสกิลพิเศษ ซึ่งในเมืองนี้มีสกิลที่พอใช้ได้อยู่ 2 สกิลก็คือ First Aid เอาไว้ฟื้นฟู HP ได้ (ท้าสู้กับที่ชื่อ Apothecary อยู่บริเวณลานทางซ้าย ตรงกลางเมือง) กับ Ignition เวทย์ธาตุไฟ เผื่อเอาไว้ใช้กับศัตรูเพื่อ Break (ท้าสู้กับคนที่ชื่อ Elderly Man อยู่บริเวณกลางๆ เมือง) 

NPC คนนี้จะมอบสกิล First Aid ให้
คุณลุงข้างร้านขายอาวุธ จะได้รับสกิล Ignition

จากนั้นให้เราเดินไปที่ป้อมทางซ้ายมือที่อยู่ถัดจากโรงเตี้ยม เมื่อขึ้นมาถึงเราจะได้พบว่าพระราชาได้ยืนรอเราอยู่ ทำให้ฮิคาริตกใจมาก จากนั้นพระราชาก็ได้ถามฮิคาริว่า “ฮิคาริ ข้าขอถามเจ้า เจ้าต้องการอะไรเพื่อประเทศนี้” ฮิคาริก็ตอบกลับ “สหายและพันธมิตร สหายที่จะเติบโตไปด้วยกัน พันธมิตรที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับเรา ด้วยสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราสามารถสร้างโลกที่ปราศจากความขัดแย้ง ปราศจากการนองเลือด” พระราชาจึงได้บอกเหตุผลที่เขาส่งฮิคาริมาในเมือง “ข้าได้มอบหมายให้เจ้าดูแลเมือง เพื่อที่ข้าจะได้ประเมินความสามารถของเจ้า ฮิคาริ และข้าไม่พบว่าเจ้าขาดอะไรเลย เจ้าทำให้ประชาชนมีความสุข ฮิคาริ ข้าต้องการให้เจ้า ขึ้นครองราชย์เป็นราชาองค์ต่อไป” ฮิคาริที่ตกใจจึงได้พยายามปฏิเสธ และกล่าวถึงมูเกน แต่พระราชาก็ได้บอกถึงเหตุผลที่เลือกเขาแทนพี่ชาย “เขาถูกความทะเยอทะยาน แบบเดียวกันกับที่ทำให้ข้าหลงทางเข้าครอบงำ เขาต้องการให้โลกยอมจำนนต่อเขา ตอนนี้มีการวางแผนร้ายขึ้นในหมู่ทหารของเขา เราต้องรีบทำตามแผนของเราเช่นกัน ข้าจะจัดการเรื่องต่างๆ ให้เอง และทำสิ่งที่ข้าต้องทำ เพื่อป้องกันแผนการของมูเกน เจ้าต้องพิจารณา ว่ามีอะไรอยู่ในความเสี่ยงนี้บ้าง ฮิคาริ” จากนั้นพระราชาจะเดินจากไป ก่อนที่เบงเคย์จะเดินตามราชาไปนั้นก็ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า ”ข้าก็เช่นกัน หวังที่จะให้ท่านได้ขึ้นครองราชย์เป็นราชาองค์ต่อไป นายท่านฮิคาริ”

หลังจากนั้นฮิคาริได้เดินอยู่ภายในเมืองพร้อมกับคิดถึงเรื่องการขึ้นครองราชย์ และต้องการตรวจสอบเกี่ยวกับแผนร้ายของทางฝั่งมูเกน จากนั้นฉากจะตัดมาในช่วงกลางคืน ซึ่งช่วงกลางคืนนี้ Path Action ของ ฮิคาริจะถูกเปลี่ยนเป็น Bride (ติดสินบน) ซึ่งเราจะต้อง ติดสินบน ชาวเมืองให้ถูกคน เพื่อที่จะได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแผนการณ์ร้ายของมูเกนนั่นเอง ตอนนี้ก็ให้เราเดินไปทางด้านบนของเมือง จะมีประตูปราสาทที่มีทหารยามเฝ้า ก่อนหน้านี้เคยปิดไว้ ตอนนี้เราสามารถเดินผ่านเข้าไปได้แล้ว เมื่อเดินเข้าไปจะเห็นพ่อค้ากำลังยืนคุยอยู่กับทหาร และได้เดินเข้าไปในอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ให้เราเดินเข้าไปในอาคารนั้น เปิดกล่องสมบัติที่อยู่ใกล้ๆ จะได้เงิน 1,600 Leaves จากนั้นกดใช้ Path Action กับพ่อค้าได้เลย ซึ่งจะให้เราใช้เงิน 300 Leaves เพื่อซื้อข้อมูลกับพ่อค้าคนนี้ พ่อค้าจึงบอกว่า มีการส่งอาวุธในปริมาณมากผิดปกติเข้ามาในปราสาท โดยที่ตัวแม่ทัพมูเกนได้นัดพบกับพ่อค้าอาวุธที่เนินเขาวีรบุรุษ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮิคาริจึงอยากไปที่เนินเขาเพื่อพบกับแม่ทัพมูเกน

จากนั้นเราจะต้องออกเดินทางไปยัง เนินเขาวีรบุรุษ โดยให้ออกไปทางด้านล่างของเมือง จะเป็น Southern Ku Sands ตอนนี้ก็แนะนำออกสำรวจแผนที่นี้และให้พยายามเก็บเลเวลถึง 6 หรือ 7 ก่อน จากนั้นค่อยไปยังเนินเขาวีรบุรุษ โดยมันจะอยู่บริเวณด้านขวาล่างของแผนที่นี้ ซึ่งเนินเขาวีรบุรุษที่ว่านี้ ก็คือเนินเขาที่ ฮิคาริ ได้ขึ้นมาในตอนที่เริ่มเกมนั่นเอง เมื่อขึ้นมาแล้ว ฉากจะตัดไปยังอีกฝั่ง

บริเวณนี้คือทางขึ้นเนินเขา เดินขึ้นไปจะเจอจุดเซฟ อย่าลืมกดเซฟเอาไว้ด้วยล่ะ

ณ ปราสาทคู ห้องราชบัลลังก์
ราชาจิโกะได้เรียกแม่ทัพมูเกนเข้ามาพูดคุย โดยพระราชาก็ได้ถามคำถามเดียวกันกับที่ถามฮิคาริ “มูเกน ข้าขอถามเจ้า ว่าเจ้าต้องการอะไรจากประเทศนี้” แม่ทัพมูเกนได้ตอบว่า “ความแข็งแกร่ง เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถนำฝูงคนอ่อนแอได้ นั่นคือวิถีของโลก ความเข้มแข็งครองความเป็นใหญ่เสมอ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น พระราชาก็แสดงให้เห็นถึงความผิดหวัง แต่ทางมูเกนก็ไม่ได้แปลกใจ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า พระราชานั้นคิดจะให้มอบบัลลังก์ให้กับน้องชายของเขาแทน พระราชาก็ตกใจที่มูเกนนั้นรู้เรื่องนี้แล้ว

ตัดกลับมาทางฮิคาริ มีชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเนินเขา แทนที่จะเป็นแม่ทัพมูเกน แต่กลายเป็น ริตสึ เพื่อนรักของเขาแทน ทำให้ฮิคาริเกิดความสงสัยทันที ริตสึจึงได้บอกว่า นี่มันคือกับดักที่ล่อฮิคาริออกมาที่นี่ จากนั้นจะเห็นได้ว่าทั่วทั้งเมืองได้เกิดไฟไหม้ขึ้นมา เมื่อเห็นแบบนั้น ฮิคาริตัดสินใจรีบกลับเข้าไปที่เมือง แต่ทางริตสึก็ได้ขัดขวางเอาไว้ พร้อมกับบอกความจริงที่ว่า เขาต้องการฆ่าฮิคาริ เพราะได้รับคำสั่งจากแม่ทัพมูเกน

จากนั้นเราก็จะได้ต่อสู้กับ ริตสึ ซึ่งภายในการต่อสู้นี้ ตัวเกมจะแนะนำระบบ Latent Power ที่เป็นระบบท่าไม้ตายของเกม แต่ละตัวครก็จะมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไป ส่วนของ ฮิคารินั้นจะไปท่าโจมตีพิเศษที่รุนแรง ทีนี้ก็ให้เราพยายามทำการ Break ริตสึให้ได้ แล้วปิดท้ายด้วยการใช้ Latent Power เป็นการปิดฉาก 

ริตสึ: อั่ก ทำไม มันต้องจบลงแบบเดิมด้วย เจ้ามักจะนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ มัวแต่จ้องอะไรอยู่ล่ะ!? จบมันได้แล้ว! ลงมือสิ!
ฮิคาริ: มันจบแล้ว

จากนั้นฮิคาริ จะได้ยินเสียงภายในหัวของเขา และเกิดออร่าสีดำมืดขึ้นมารอบกาย

“ฮิคาริ” 
“เจ้าปฏิเสธสายเลือดที่หมุนเวียนอยู่ในร่างกายของเจ้าไม่ได้”
“แทงเข้าไปที่มันซะ ให้ดินเปียกโชกไปด้วยเลือด”
ฮิคาริ: …. เงียบซะ ออกไปซะ ออกไป
ริตสึได้แสดงความหวาดกลัวขึ้นมา
ริตสึ: อะไรน่ะ เจ้าพูดกับใคร?
ขณะที่ฮิคาริกำลังแสดงอาการแปลกๆ อยู่นั้น ริตสึก็ได้วิ่งหนีออกไป
ฮิคาริ: อั่ก เฮอะ ตระกูลต้องสาป, ข้าจะต้องไปที่ปราสาท

เมื่อฮิคาริได้เข้ามาถึงที่เมือง ก็พบว่าเมืองนั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟและคนตายอยู่ข้างทาง จากนั้นจึงได้พบกับ ซูกิ ที่นอนหายใจรวยรินอยู่ เมื่อกล่าวคำลาเสร็จ ซูกิก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้ ฮิคาริ เกิดทั้งความโกรธและความเศร้า พร้อมตะโกนเสียงดัง 
“ทำไม!?” 
“พันธมิตรของข้า!” 
“สหายของข้า!” 
“ข้าจะล้างแค้นให้พวกเขา”
“จะไม่มีความปราณีให้แก่เจ้า มูเกน”
จากนั้นให้เดินขึ้นไปและเข้าไปยังปราสาทด้านใน

ทั้งเมืองและประชาชนที่เขารัก ได้สูญเสียทุกอย่างไปในเปลวเพลิง

ณ ปราสาทคู ห้องราชบัลลังก์
แม่ทัพมูเกนและพระราชากำลังโต้เถียงกันอยู่ แม่ทัพมูเกนแสดงความไม่พอใจที่พระราชาได้เลือกน้องชายของเขา ฮิคาริ สุดท้ายจึงได้พูดออกมาว่า “ราชาที่ล่ะทิ้งดาบและหลบซ่อนอยู่ในความสงบสุข ทุกสิ่งที่ท่านสร้างขึ้นมานั้นมันมีแต่เพียงภาพลวงตา ข้าจะเป็นคนสร้างปราสาทที่มันจะยืนยงชั่วนิรันดร์ และศพของท่านจะเป็นศิลาฤกษ์ของมัน” 
จากนั้นเหล่าทหารของมูเกนก็ปรากฏออกมาและเริ่มเข้าจู่โจมไปที่ราชาจิโกะ

ตัดกลับมาทางฝั่งฮิคาริ ที่กำลังวิ่งเข้าไปภายในปราสาท ที่นี่จะมีของอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องเก็บ หลังจากวิ่งขึ้นไปยังบันไดแล้ว ให้เราเลี้ยวขวาและลงบันไดไปด้านล่าง จะพบกับแสงสว่างให้สำรวจเพื่อเก็บมัน เราจะได้รับไอเทมที่ชื่อว่า Oboro’s Journal ซึ่งภายในนี้หากใครได้อ่านจะเป็นบันทึกของคนที่ชื่อ โอโบโร

ชื่อของฉันคือโอโบโร ฉันเกิดในยู ประเทศที่ถูกทำลายจากสงครามไร้สิ้นสุดกับคู ท้องที่ว่างเปล่า, โรคระบาดที่แพร่กระจาย, และคืนที่ต้องห่อตัวเองเพื่อต้านความหนาวเย็น มันเป็นข้อเท็จจริงของชีวิต แม้ผู้ใหญ่รอบตัวฉันจะตำหนิการเกิดของฉันว่าเป็นสาเหตุของโชคชะตาที่น่าสังเวชนี้ แต่แม้ฉันยังอยู่ในวัยเด็ก ฉันก็รู้ความจริงว่า คู คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ประเทศที่น่าสมเพชซึ่งล่าเหยื่อผู้ที่อ่อนแอ นำพาความทุกข์และความตายมาในเส้นทางของมัน

ในขณะที่ชีวิตส่วนใหญ่ของฉันเต็มไปด้วยความทุกข์ น้องสาวของฉันก็นำความสุขเล็กน้อยมาสู่ชีวิตของฉัน เราไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ฉันเก็บเธอมาจากถนนในเมืองและเลี้ยงดูเธอเหมือนครอบครัวของตัวเอง บางคนอาจคิดว่าการแบกรับภาระเช่นนี้เป็นเรื่องโง่เขลา โดยเฉพาะเมื่อฉันแทบไม่รู้ว่าจะหาอาหารมาจากไหน อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าเด็กคนนี้มีไฟในตัว ใช่ เมื่อเธอมองเห็นมีดที่ฉันถืออยู่ในมือ เสียงร้องไห้ของเธอก็เงียบลง และฉันรู้ มันคือช่วงเวลานั้นที่ฉันตัดสินใจว่าเราจะผ่านชีวิตนี้ไปด้วยกัน โอ้ ฉันช่างไร้เดียงสาเสียจริงในตอนนั้น

หลังจากสี่ปีแห่งความสงบสุข กองกำลังของคูก็โจมตีเมืองที่เราเรียกว่าบ้าน หากพวกทรราชชนะ เราจะถูกฆ่าหรือจับกุม ถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในฐานะทาส ฉันจึงตั้งใจที่จะฆ่าราชาจิโกะแห่งคูด้วยตัวเอง เพื่อให้เราพ้นจากชะตากรรมเช่นนั้น หลังจากสวมเกราะของทหารคูที่ตายแล้ว ฉันขอให้น้องสาวทำรอยบาดบนร่างกายของฉัน และทำทางไปหาจิโกะในฐานะพันธมิตรที่บาดเจ็บ ขณะที่ฉันเล็ดลอดผ่านแนวทัพของคู ความพยายามในการฆ่าจิโกะของฉันล้มเหลว และฉันถูกจับ ขณะที่ทหารของเขากดร่างฉันลงกับพื้น จิตใจของฉันพยายามคิดหาวิธีหลบหนีอย่างชาญฉลาด ในขณะนั้นจิโกะ ถามว่า ‘เจ้าจะรับใช้คู อยู่ข้างกายข้าหรือไม่?’

ข้อเสนอที่ไม่คาดคิด ต้องบอกว่ามันเป็นเช่นนั้น แต่ฉันไม่ได้ลังเลที่จะรับมัน ฉันหันหลังให้บ้านของเราและจับมือกับศัตรูที่สาบานไว้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ฉันและน้องสาวมีชีวิตอยู่

อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่พบกับความสบาย การพิชิตที่เต็มไปด้วยเลือดของคู ไหลบ่าผ่านพรมแดนทีละแห่ง และไฟสงครามก็แพร่กระจายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทะเลทรายถูกทำให้เปื้อนด้วยสีแดงเข้ม หัวใจของฉันกลับกลายเป็นสีดำสนิท ฉันจำได้ว่าวันหนึ่งที่มีสีแดงเป็นพิเศษ ฉันสังเกตเห็นศพที่หันมาทางฉัน ดวงตาที่ไร้ชีวิตจ้องมองผ่านไป ฉันพยายามจะมองไปทางอื่น แต่กลับพบกับทุ่งศพบนทราย ทุกศพยิ้มเยาะเย้ยฉันอย่างตั้งใจ

บางทีอาจเป็นเพียงผลของจินตนาการที่มีปัญหา แต่สิ่งนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก การมีชีวิตอยู่กลายเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ เราขโมย เพียงเพื่อที่จะถูกขโมยกลับมา และจากนั้นเราก็ตาย วัฏจักรนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนในที่สุดเราพบ… อะไร? ฉันคิดเกี่ยวกับคำถามนี้และในที่สุดก็มาถึงคำตอบของฉัน

ชีวิตไม่มีความหมาย และการมีชีวิตอยู่คือการทำเรื่องโง่เขลา ฉันผิดที่มองไปยังรุ่งอรุณ เพราะวันพรุ่งนี้เป็นเพียงเรื่องตลก โลกที่บิดเบี้ยวนี้ไม่สมควรที่จะเห็นวันใหม่อีกต่อไป ดังนั้น ฉันจะทำให้มันไม่มีวันมา

นี่คือความคิดที่อยู่ในใจของฉันขณะที่ฉันสวมหน้ากากของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ วันแล้ววันเล่า ฉันเล่นบทบาทของตัวเอง จนกระทั่งชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับหนังสือเวทมนตร์และบอกว่ามันจะดึงดูดความสนใจของฉัน ข้อความภายในจะกระตุ้นหัวใจของทุกคนที่อ่านมัน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเมื่อเปิดถึงหน้าสุดท้าย เพราะฉันได้ตระหนักถึงความจริงด้วยตัวเอง

เวลาผ่านไปกี่ปีแล้ว? ในที่สุด แผนของฉันก็เริ่มต้นขึ้น และการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังใกล้เข้ามา โลกนี้จะพบกับจุดจบ และแสงแห่งรุ่งอรุณจะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดที่อัดแน่น เพราะชีวิตไม่มีความหมาย และวันพรุ่งนี้เป็นเพียงเรื่องตลก คุณไม่เห็นด้วยหรือ? เราจะไม่ถูกบังคับให้ฆ่าหรือถูกฆ่าอีกต่อไป เราจะไม่ต้องพบกับรุ่งอรุณที่นำมาซึ่งความทุกข์อีกต่อไป จุดจบใกล้เข้ามาแล้ว

เมื่ออ่านจบอย่าลืมเก็บกล่องสมบัติแดงที่อยู่ใกล้ๆ กัน ก็จะมีไอเทมที่ชื่อ Fortifying Nut ช่วยเพิ่ม Physical attack แบบถาวร ก็ให้กดใช้ใส่ ฮิคาริได้เลย เสร็จแล้วให้เราเดินทางไปด้านบนต่อจนสุดทาง..

อย่าลืมลงบันไดนี้เพื่อไปเก็บไอเทมก่อนล่ะ

ณ ห้องราชบัลลังก์ ในระหว่างนั้นจะพบว่า ราชาจิโกะและมูเกนกำลังต่อสู้กันอยู่ จนสุดท้ายราชาเป็นฝ่ายพลาดพลั้งทำให้มูเกนโจมตีเข้าใส่อย่างรุนแรง และราชากระเด็นตกออกมา เมื่อฮิคาริมาเห็น ก็รีบวิ่งไปประคองพระราชาทันที ก่อนที่พระราชาจะสิ้นพระชนม์ก็ได้บอกให้ฮิคาริช่วยเป็นผู้นำของประเทศได้มั้ย ฮิคาริจึงตอบตกลง และเขาจะช่วยปลดปล่อยประเทศคู ให้ออกจากวังวันเลือดเหล่านี้ พระราชาจึงได้บอกว่า ตอนนี้ฮิคาริจะสู้กับมูเกนคนเดียวไม่ได้ ให้หนีไป เพื่อไปรวบรวมความแข็งแกร่ง รวบรวมพันธมิตร เมื่อถึงตอนนั้น จะสามารถนำคืนแสงสว่างให้กับประเทศได้ 

หลังจากนั้นทหารของมูเกนก็ได้เข้ามาล้อมฮิคาริไว้เพื่อไม่ให้หนี แต่ปรากฏว่า เบงเคย์ ก็ได้เข้ามาขัดขวางเอาไว้ในทันที ทำให้ฮิคาริสามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จและขี่ม้าวิ่งออกไปตลอดทั้งคืน

3 วันต่อมา ในเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เหล่าพ่อค้าและชาวเมืองก็ได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศคู
องค์ชายฮิคาริ แห่ง คู
ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศและถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิด
แม้แต่ริตสึ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดก็หักหลังเขา
ในที่สุดเขาสูญเสียทุกอย่างไปด้วยน้ำมือของมูเกน พี่ชายของเขา

Hikari – Chapter 1 End

เมื่อจบเนื้อเรื่องในบทที่ 1 ของฮิคาริแล้ว ตอนนี้เราจะมีอิสระในการเดินทาง โดยเป้าหมายแรกก็คือการรวบรวมเพื่อนให้ครบทั้ง 8 คน ก่อน ซึ่งในระหว่างนี้เราสามารถสำรวจแผนที่ต่างๆ ไปทั่วได้เช่นกัน เพียงแต่ช่วงแรกยังไม่จำเป็นต้องเก็บเลเวลมากเท่าไหร่นัก ให้เน้นไปที่การรวบรวมเพื่อนให้ครบทั้ง 8 คนก่อนก็แล้วกัน

เมื่อออกจากเมือง Ryu ไปทางด้านบน เข้าสู่พื้นที่ Northern Ryu Sands แล้วเดินตามทางไปเล็กน้อย ฉากก็ตัดเข้าสู่การแนะนำ Side Stories มันคือ เควสเสริม ที่เราพบเจอได้ตลอดทั้งการเล่น และแนะนำระบบเปลี่ยนเวลา กลางวัน และ กลางคืน เป็นอีกหนึ่งระบบที่สำคัญเช่นกัน 

หลังจากจบการแนะนำแล้ว จะพบว่ามันคือเควสที่ชื่อว่า The Traveler’s Bag ซึ่งเธอ AI ได้ทำกระเป๋าหายไปเราต้องไปตามหามันคืน โดยให้เราเดินข้ามสะพานด้านบน จากนั้นก็เลี้ยวขวา ก็จะพบเจอกับโจรคนหนึ่ง ซึ่งเขาได้เก็บกระเป๋าที่หายไปของ AI ได้นั่นเอง เมื่อเอาชนะโจรคนนี้แล้วก็กลับไปคุยกับ AI อีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นเควสเสริมอันแรกของเกม

ข้ามสะพานนี้แล้วเลี้ยวขวา

ทีนี้ให้เราเดินทางกลับไปที่เมือง Ryu แล้วปรับให้เข้าสู่เวลากลางคืน เดินมายังบริเวณตรงกลางลานจะพบกับทหาร 2 คน ให้กดใช้ Path Action กับทหารทางขวา เพื่อซื้อข้อมูลจากเขาในราคา 1,000 Leaves เมื่อซื้อเสร็จแล้ว เราจะเห็นแสงที่น้ำเงินทางขวาบนทันที ก็ให้เราเดินไปเก็บไอเทมที่นั่น มันคือดาบ Broadsword นำมันไปใส่ให้กับ ฮิคาริได้เลย

ติดสินบนซื้อข้อมูลจากทหารคนนี้ แล้วจะเจอแสงทางขวาบนเพื่อเก็บ Broadsword

ทีนี้ให้กดดูที่แผนที่ใหญ่ เป้าหมายต่อไปของเราจะอยู่ที่เมือง Oresrush เพื่อเริ่มเนื้อเรื่องของ Partitio Chapter 1 นั่นเอง ก็ให้ออกจากเมือง Ryu เข้าสู่ Northern Ryu Sands แล้วเดินข้ามสะพานด้านบนมา จากเดิมที่เคยเลี้ยวขวาไปเจอโจร ครั้งนี้ก็ให้เลี้ยวซ้ายแทน แล้วเราจะเข้าสู่แผนที่ Southern Oresrush Wilds ทีนี้เดินตรงขึ้นไปยังทางบันไดยาว แล้วเลี้ยวขวาและตรงขึ้นไปด้านบนก็จะเข้าสู่เมือง Oresrush 

แยกนี้แหละ ตรงขึ้นไปด้านบนเพื่อเข้าสู่เมือง Oresrush

เมื่อเข้ามาแล้ว จะมีการแนะนำเกี่ยวกับระบบ Fast Travel ที่จะให้เราสามารถเดินทางข้ามไปยังเมืองต่างๆ ที่เราเคยไปมาแล้วได้ทันที จากนั้นเราก็จะเห็น Partitio ยืนอยู่ ก็รีบให้ไปคุยกับเขา แล้วจะพบคำเตือนเกี่ยวกับการเข้าสู่เนื้อเรื่อง ก็ให้ตอบ Yes แล้วไปต่อกันที่การผจญภัยบทที่ 1 ของ Partitio กันเลย

Partitio – Chapter 1

Share:

Facebook
X
Flex-Ad-Side-Bar.png
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.